ฉบับที่ ๑๗๔ เดือนมิถุนายน ๒๕๖๐

ปุราณอักษรา

บทความน่าอ่าน
เรื่อง : Tipitaka (DTP)

ปุราณอักษรา

 

ปุราณอักษรา,เนื้อนาใน,อยู่ในบุญ

   เส้นจารเนื้อความพระไตรปิฎกบนแผ่นลานนอกจากจะเป็นหลักฐานแสดงการสืบทอดพุทธธรรมแล้วยังเป็นหลักฐานบ่งบอกถึงวิวัฒนาการอักษรโบราณบนแผ่นดินไทยอีกด้วย แม้คัมภีร์ใบลานที่หลงเหลืออยู่ในปัจจุบันจะมีอายุไม่กี่ร้อยปี แต่อักษรขอม อักษรธรรมล้านนา และอักษรธรรมอีสาน ที่ใช้จารคัมภีร์พระไตรปิฎกใบลานก็เป็นหลักฐานสำคัญที่หลงเหลือมาสู่คนรุ่นปัจจุบันที่สามารถนำไปศึกษาร่องรอยการสืบทอดอักขรวิธีและวัฒนาการอักษรโบราณที่มีมาอย่างยาวนานของบรรพชนไทย ทีมี่ต้นกำเนิดย้อนไปถึงอักษรปลัลวะแห่งอารยธรรมอินเดียในยุคพุทธศตวรรษที่ ๑๑-๑๒

 

จารึกอักษรปัลลวะสมัยพระเจ้าสิงหวรมัน กษัตริย์ราชวงศ์ปัลลวะแห่งอินเดียตอนใต้ อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๑
    ณ ช่วงเวลาดังกล่าว ดินแดนของประเทศไทยเคยเป็นที่ตั้งของอาณาจักรโบราณมากมาย อาทิ อาณาจักรทวารวดี อาณาจักรเจนละ อาณาจักรศรีวิชัยเป็นต้น แต่ละอาณาจักรต่างรับอิทธิพลด้านตัวอักษรจากดินแดนภารตะฝ่ายใต้ผ่านการค้าขายและการเผยแผ่ศาสนา ดังปรากฏหลักฐานจารึกอักษรปัลลวะหลายหลักกระจายอยู่ในภูมิภาคต่างๆของประเทศไทย 

จารึกเขารัง

  อาทิ จารึกเขารังจังหวัดสระแก้ว นับเป็นศิลาจารึกอักษรปัลลวะที่มีอายุเก่าแก่ที่สุด จารด้วยภาษาสันสกฤตและภาษาเขมรโบราณบนหินทรายเนื้อหยาบ กำหนดอายุตามปีมหาศักราชที่ระบุในจารึกตรงกับ พ.ศ. ๑๑๘๒ หรือจารึกเยธมฺมาฯ ซึ่งเป็นคาถาภาษาบาลีคัดจากพระวินัยปิฎก มหาวรรค มหาขันธกะ ตอนพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะบรรพชา ปรากฏบนระเบียงด้านขวาองค์พระปฐมเจดีย์ อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๒ จารึกทั้ง ๒ หลักนี้แสดงให้เห็นว่าอักษรปัลลวะในอาณาจักรยุคแรกยังคงรูปแบบสัณฐานต้นฉบับเดิมของอินเดียฝ่ายใต้ไม่เปลี่ยนแปลง
 

เหรียญสมัยทวารวดี อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๒ ปรากฏอักษรปัลลวะ ภาษาสันสกฤต

  จากนั้น ราวพุทธศตวรรษที่ ๑๓-๑๕รูปแบบอักษรที่ใช้อยู่ในอาณาจักรทวารวดีอาณาจักรเจนละและอาณาจักรศรีวิชัยมีความคลี่คลายเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่ยังคงรักษาอักขรวิธีเหมือนอักษรปัลลวะอยู่เรียกอักษรในยุคนี้ว่า “อักษรหลังปัลลวะ” และต่อมาช่วงประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๕-๑๙พัฒนาการของอักษรในแต่ละท้องถิ่นก็ยังดำเนินไปอย่างตลอดต่อเนื่อง แม้อาณาจักรเดิมจะล่มสลายไปและมีอาณาจักรใหม่เข้ามาแทนที่ แต่รูปแบบของตัวอักษรก็ยังได้รับการพัฒนาปรับเปลี่ยนและผสมผสานเข้ากับสังคมและวัฒนธรรมท้องถิ่นจนเกิดเป็นอักษรที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อักษรหลังปัลลวะที่ใช้ในอาณาจักรขอมสมัยพระนครซึ่งต่อเนื่องมาจากอาณาจักรเจนละ

จารึก อักษรมอญโบราณ

   มีพัฒนาการจนกลายเป็น“อักษรขอมโบราณ” อักษรหลังปัลลวะที่ใช้ในอาณาจักรหริภุญชัยซึ่งต่อเนื่องมาจากอาณาจักรทวารวดีก็กลายเป็น “อักษรมอญโบราณ” และอักษรหลังปัลลวะที่ใช้ในอาณาจักรศรีวิชัยก็พัฒนาเป็น“อักษรกวิ”จึงเห็นได้ว่าอักษรโบราณในแต่ละท้องถิ่นที่มีอาณาเขตครอบคลุมบริเวณบางส่วนของประเทศไทยในปัจจุบันต่างสืบทอดมาจากอักษรสมัยราชวงศ์ปัลลวะด้วยกันทั้งสิ้น
 

 

หนังสือสมุดไทยอักษรขอมสมัยอยุธยา

หนังสือสมุดไทยอักษรขอม สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น

  ในช่วงต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๙ อาณาจักรขอมพระนครเสื่อมอำนาจลงและได้มีการสถาปนาอาณาจักรสุโขทัยขึ้น ถึงกระนั้นผู้คนในอาณาจักรสุโขทัยก็ยังนิยมใช้อักษรขอมโบราณเพื่อเขียน    ภาษาบาลี ในภายหลังจึงมีการปรับใช้อักษรขอมโบราณให้เอื้อต่อการเขียนภาษาไทยด้วยจึงเกิดเป็น “อักษรขอมไทยสมัยสุโขทัย” และเมื่ออาณาจักรอยุธยาได้สถาปนาขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ ๑๙ ก็ได้รับเอาอิทธิพลอักษรขอมจากสุโขทัยไปปรับใช้จนกลายเป็น “อักษรขอมไทยสมัยอยุธยา” แล้วใช้เรื่อยมาจนถึงสมัยพุทธศตวรรษที่ ๒๔ เมื่อมีการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ อักษรขอมจึงมีรูปแบบที่เรียกว่า “อักษรขอมไทยสมัยรัตนโกสินทร์”สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น

 

เอวมฺเม สุตํ     ตัวอย่างการใช้อักษรขอมเพื่อเขียนภาษาบาลี 

ข้าพเจ้า (พระอานนท์) สดับมาดังนี้  การใช้อักษรขอมเพื่อเขียนภาษาไทย

  นอกจากมีการใช้อักษรขอมสุโขทัยแล้ว อาณาจักรสุโขทัยยังมีการใช้อีกอักษรหนึ่งควบคู่กัน คืออักษรไทยสุโขทัยหรือลายสือไทยที่พ่อขุนรามคำแหง ทรงประดิษฐ์ขึ้นเมื่อปีมหาศักราช ๑๒๐๕ ซึ่งตรงกับ พ.ศ. ๑๘๒๖
ตามที่ระบุไว้ในศิลาจารึกหลักที่ ๑ ทั้งนี้นักวิชาการได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า พ่อขุนรามคำแหงน่าจะอาศัยอักษรขอมโบราณ และอักษรมอญโบราณซึ่งเป็นอักษรดั้งเดิมที่ใช้อยู่ในท้องถิ่นตั้งแต่ก่อนการสถาปนาอาณาจักร
สุโขทัยมาเป็นต้นแบบ แล้วพัฒนาจนกลายเป็นอักษรไทย ที่สำคัญคืออักษรไทยสมัยพ่อขุนรามคำแหงนี้เป็นต้นแบบของอักษรไทยทุกยุคทุกสมัยจนมาถึงอักษรไทยแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ในปัจจุบัน

   ตัวอักษรไทยย่อแบบอยุธยาตอนปลาย ข้อความว่า “ข้าพเจ้านายบุญคำ ได้สร้างพระพุทธคุณคัมภีร์ ๑พระวินัยคัมภีร์ ๑ พระสูตรคัมภีร์ ๑ พระบรมัตถ์คัมภีร์ ๑ จบพระไตรปิฎก แลพระอภิธรรมนี้จงเป็นเหตุเป็นปัจจัยแก่พระนิพพานแก่บิดามารดาข้าพเจ้าเถิด...”

ในขณะที่อาณาจักรสุโขทัยมีการใช้อักษรขอมไทยและอักษรไทย

 

คัมภีร์พระไตรปิฎกทีฆนิกาย สีลขันธวรรค อักษรธรรมล้านนา

   อาณาจักรล้านนาในภาคเหนือก็มีการใช้อักษรธรรมล้านนา ซึ่งเชื่อว่าได้รับอิทธิพลจากอักษรมอญโบราณที่ใช้ในอาณาจักรหริภุญชัยประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๗-๑๘ เนื่องจากอักษรธรรมล้านนามีรูปแบบอักษรและอักขรวิธีคล้ายคลึงกับอักษรมอญโบราณมาก ประกอบกับข้อมูลประวัติศาสตร์ที่สนับสนุนว่าอาณาจักรล้านนามีการติดต่อกับอาณาจักรหริภุญชัยมาก่อนที่พญามังรายจะผนวกอาณาจักรหริภุญชัยเข้ากับอาณาจักรล้านนาจึงมีความเป็นไปได้อย่างมากว่าชาวล้านนา     ในอดีตจะรับวัฒนธรรมหลายด้านโดยเฉพาะด้านตัวอักษรจากอาณาจักรหริภุญชัย ส่วนสาเหตุที่เรียกว่าอักษรธรรมนั้น ก็เนื่องด้วยเป็นตัวอักษรที่ใช้บันทึกพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง

 

คัมภีร์พระไตรปิฎกทีฆนิกาย สีลขันธวรรค อักษรธรรมอีสาน

  อิทธิพลอักษรธรรมล้านนาสืบทอดไปยังอาณาจักรล้านช้างซึ่งอยู่ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของ ๒ อาณาจักรทำให้อาณาจักรล้านช้างรับเอาอิทธิพลด้านพระพุทธศาสนาและรับตัวอักษรธรรมล้านนาไปพัฒนาปรับใช้ในท้องถิ่นจนกลายเป็น “อักษรธรรมอีสาน” ในที่สุด

  จากจุดเริ่มต้นแห่งดินแดนภารตะตอนใต้อักษรปัลลวะ ได้เป็นแม่แบบของวิวัฒนาการอักษรโบราณในผืนแผ่นดินไทยผ่านห้วงกาลเวลาเนิ่นนานพันกว่าปี จากอักษรหนึ่งพัฒนาจนกลายเป็นอีกอักษรหนึ่งผ่านการติดต่อ
ปฏิสัมพันธ์ ก่อเกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างอาณาจักร ผสมผสานจนมีเอกลักษณ์ของตนเอง แม้อักขรวิธีและรูปแบบอักษรจะเปลี่ยนแปลงไปจนไม่เหลือเค้าโครงเดิม แต่อักษรเหล่านั้นต่างมีกำเนิดจากที่เดียวกัน และบูรพชนชาวไทยก็ได้ใช้อักษรโบราณเหล่านี้จารึกเรื่องราวคดีโลกและคดีธรรมผ่านรุ่นสู่รุ่นไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาสืบมา

 

 

 

 

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล