ฉบับที่ ๑๘๙ เดือนกันยายน ๒๕๖๑

ถ้าไม่ฝึกตน จะเป็นยอดคนได้อย่างไร?

ลูกหลวงพ่อ
เรื่อง : พระมหาภูรัช ทนฺตวํโส

 

ถ้าไม่ฝึกตน จะเป็นยอดคนได้อย่างไร?
 

       โลกที่เราอยู่นี้

ใช่ละคร

แต่ที่แท้เป็นสมร-

ภูมิสู้

ธรรมอธรรมต่อกร

กันอยู่

มนุษย์ชาติ บ่อาจรู้

เพราะเขาปิดบัง

        ชีวิตในโลกหล้า

ลวงตา

เห็นทุกข์เป็นสุขพา

โศกสิ้น

ดั่งเหยื่อที่ล่อปลา

ติดเบ็ด

แสบเผ็ดเดือดร้อนดิ้น

กว่าได้เห็นธรรม

 

           (สุนทรพ่อ)

 

      อัตภาพของการเป็นมนุษย์นั้นสั้นยิ่งนัก อุปมาเปรียบดั่งรอยขีดไม้ลงบนผืนน้ำ มีเกิดขึ้นและตั้งอยู่เพียงชั่วครู่ แล้วก็ดำเนินไปสู่ความดับสลายในที่สุด แต่คุณค่าของการเกิดมาเป็นมนุษย์ผู้รู้ได้กล่าวไว้ว่า “อยู่ที่ใครใช้วันเวลาที่มีอยู่เพื่อสั่งสมบุญบารมี ฝึกฝนตน ฝึกหัดขัดเกลากิเลสให้หลุดล่อน จนบริสุทธิ์ทั้งกาย วาจา ใจ ได้มากกว่ากัน” ดังตัวอย่างนักสร้างบารมีจากแดนตะวันตกท่านหนึ่ง นามว่า พระไมเคิล วีรธมฺโม อายุ ๒๕ ปี บวชมาได้ ๒ พรรษา

     “อาตมาเกิดและเติบโตที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ก่อนอาตมาไม่เคยนับถือศาสนาใด ๆ ใช้ชีวิตเที่ยวเตร่ ปาร์ตี้ และมัวเมาในอบายมุข คบกลุ่มเพื่อนไม่ดี จนทำให้มีนิสัยเสีย มีผลการเรียนแย่ ท้ายที่สุดก็ถูกไล่ออกจากบ้าน ในตอนนั้นอาตมาเป็นโรคซึมเศร้าอย่างหนัก รู้สึกเครียดและกดดัน และรู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมจัดการอะไรในชีวิตให้ดีได้

      “ลึก ๆ แล้วอาตมาอยากจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร อาตมาจึงลองเข้ามาที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมจอร์เจียของวัดพระธรรมกาย ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากบ้านนัก

       “อาตมาเริ่มจากการมาปฏิบัติธรรมทุกคืนวันพุธแล้วหลังจากนั้นไม่นานชีวิต ของอาตมาก็ค่อย ๆ ห่างไกลจากอิทธิพลของสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย การทำสมาธิช่วยให้อาตมาใจสงบ หยุดโทษคนอื่น ทิ้งนิสัยเสียได้ และรู้จักควบคุมอารมณ์ และเมื่อใจของอาตมาสงบ ทำให้อาตมาเห็นหนทาง และรู้ว่าต้องเริ่มลงมือแก้ไขที่ตัวเองให้ดีก่อน เพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ชีวิตของอาตมาก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ และกลับมาอยู่บ้านกับพ่อแม่เป็นครอบครัวที่อบอุ่นดังเดิม

   “แต่อาจมาก็ต้องการที่จะพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้นจึงตัดสินใจขอพ่อและแม่ออกบวช แม้ว่าพวกท่านจะไม่ได้เข้าใจทั้งหมด แต่พวกท่านก็สนับสนุน เพราะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีตลอด ๖ เดือนที่ผ่านมา

     “หลังจากบวชในโครงการ IDOP ของวัดพระธรรมกายแล้ว อาตมาได้เรียนรู้สิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงสอน อาทิ ความสุขที่มาจากเงิน ลาภ ยศ หรือกามนั้นไม่ยั่งยืน และมาพร้อมกับความทุกข์ ส่วนความสุขบริสุทธิ์ที่สุดนั้นมาจากใจที่เป็นสมาธิ และยังทรงสอนว่าให้เรากลับมามองตัวเอง ฝึกฝนอบรมตนเพื่อเอาชนะกิเลสในตัว ด้วยการทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำใจให้บริสุทธิ์ในทุก ๆ วัน และให้อภัยผู้อื่นอยู่เสมอ

      “อาตมาได้พบคำตอบที่ตรงใจและประทับใจที่สุด จากที่เคยถามตัวเองอยู่บ่อย ๆ ว่าอะไรคือเป้าหมายชีวิต เราจะใช้ชีวิตให้มีคุณค่าและความสุขได้อย่างไร แต่เพราะกิจวัตรที่ลงตัวและบทฝึกตนที่วัดนี้ ทำให้อาตมาเข้าใจตัวเองได้ดีขึ้น เข้าใจเพื่อนรอบข้างได้มากขึ้น เข้าใจแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาได้ลึกซึ้งขึ้น และทำให้อาตมามีความสุขมากกว่าที่เคยมี ได้เรียนรู้มากกว่าที่เคยรู้ ได้ช่วยเหลือผู้อื่นมากกว่าที่เคยทำ

     “นี่อาจเป็นสิ่งที่ยากเกินกว่าจะเชื่อ แต่อาตมาก็ได้พิสูจน์แล้วว่า วิถีชีวิตที่เรียบง่ายของพระภิกษุในพระพุทธศาสนาทำให้อาตมาปลอดกังวลในทุก ๆ เรื่อง รู้สึกมีพลัง มีอิสระ และมีเวลานั่งสมาธิภาวนาครั้งละเป็นชั่วโมง ๆ ซึ่งทำให้อาตมามีความสุขเหลือเกิน และนี่เป็นสิ่งที่อาตมารู้สึกว่า อาตมาอยู่ถูกที่ ในที่ที่ควรอยู่ และเลือกถูกทางที่สุด อาตมาภาคภูมิใจและเห็นคุณค่าในตัวเอง จึงตั้งใจจะบวชวันต่อวัน เพื่อฝึกตน ฝึกใจ และช่วยเหลืองานพระพุทธศาสนา
ให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป

 

“ในท้ายที่สุด อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่อาตมาพูด แต่จงมาพิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง”
.......... เอหิปสฺสิโก ..........

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล