ฉบับที่ ๒๐๒ เดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๒

ปลื้มบุญ วันครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

ทบทวนบุญ
เรื่อง : พระมหาศุภณัฐ จนฺทชโย ป.ธ.๙

 

ปลื้มบุญ
วันครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย

    ยามเวลาพลบคํ่าวันหนึ่ง ในขณะที่ม่านหมอกเมฆกําลังเคลื่อนคล้อยลอยลับไป แสงแดดอ่อน ๆ จากดวงตะวันยังคงสาดส่องเฉกเช่นวันวานที่ผ่านมา ทําให้หวนระลึกถึงบุคคลสําคัญของโลกและจักรวาล ผู้เป็นดั่งดวงตะวันทอแสง ที่ไม่ว่าจะถูกลม ฝน แดด โหมกระหนํ่าสักเพียงไหน ท่านก็ไม่เคยหวั่น ไม่เคยหยุดทําหน้าที่นําแสงสว่างแห่งธรรมขยายไปสู่ใจของสรรพสัตว์ทั้งหลายเลย ทําให้โลกและจักรวาลยังคงรู้จักกับคําว่า “วิชชาธรรมกาย” ตราบจนถึงปัจจุบันนี้


        คําว่า “ครู” นั้น มาจากภาษาบาลีว่า “ครุ” แปลว่า “หนักหรือตระหนัก” ซึ่งสํานักงานราชบัณฑิตยสภาได้ให้ความหมายว่า “ผู้มีความประพฤติน่าเคารพ ผู้สั่งสอนศิษย์” ดังนั้นเพื่อตระหนักถึงความจริงอันประเสริฐหรือวิชชาธรรมกายที่ได้มีการค้นพบ ถ่ายทอด และตกทอดมาจนถึงทุกวันนี้ โดย พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ผู้ให้กําเนิดวัดพระธรรมกาย และคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาทองสุข สำแดงปั้น เป็นต้น ทางวัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี


       จึงได้จัดงานบุญ “วันครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย” ขึ้น โดยในปีนี้ครบ ๑๐๒ ปี ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งในวันงานก็มีกิจกรรมงานบุญให้พวกเราสั่งสมบุญกันอย่างมากมาย อาทิ พิธีบูชาครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย พิธีปฏิบัติธรรมภาคสาย-บ่าย พิธีถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน พิธีทอดผ้าป่าบํารุงวัด พิธีถวายไทยธรรม พิธีอัญเชิญรูปหล่อโลหะทองสัมฤทธิ์พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) พิธีฉลองชัยสวดธัมมจักกัปปวัตนสูตรครบ ๑,๕๘๒,๐๐๐,๑๐๒ จบ เป็นต้น โดยเฉพาะพิธีบูชาครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกายและพิธีอัญเชิญรูปหล่อโลหะทองสัมฤทธิ์พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) นั้น เป็นการแสดงถึงความกตัญญูของพวกเราท่านทั้งหลาย ซึ่งผลานิสงส์อันเกิดจากการมุ่งมั่นตั้งใจบําเพ็ญบุญกุศลในครั้งนี้จะเป็นพลวปัจจัยตามติดทุกท่านไปทุกที่ทุกสถาน อํานวยผลอันน่าปรารถนา น่าพอใจให้บังเกิดอย่างเป็นอัศจรรย์ เสมือนหนึ่งการปลูกถั่วย่อมได้ถั่ว ปลูกงาก็ย่อมได้งา สมดังพุทธศาสนสุภาษิตที่มาในจูฬนันทิยชาดกว่า

คนทํากรรมใดไว้ย่อมเห็นกรรมนั้นในตน
คนทํากรรมดีย่อมได้รับผลดี
คนทํากรรมชั่วย่อมได้รับผลชั่ว

คนหว่านพืชเช่นใดย่อมได้รับผลเช่นนั้น

(ขุ.ชา. (ไทย) ๒๗/๑๔๔/๑๐๒)

 

     ในปริโยสานกาลนี้ ผู้เขียนพร้อมทั้งทีมงานขอตั้งจิตอนุโมทนาบุญกับยอดวีรบุรุษ วีรสตรีทุกท่านที่มาสั่งสมบุญร่วมกันในครั้งนี้ และด้วยอานุภาพบุญบารมีธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์และมหาปูชนียาจารย์ทุกท่าน จงดลบันดาลให้ทุกท่าน เจริญด้วยจตุรพิธพรชัยทั้ง ๔ ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ อีกทั้งความปรารถนาอันใดที่ตั้งใจไว้อย่างดีแล้วอันประกอบด้วยกุศล จงสัมฤทธิผลสมดั่งที่ตั้งใจไว้ทุกประการและขอพระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย จงสถิตอยู่คู่โลกตราบนานเท่านานเทอญ


 

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล