ฉบับที่ ๒๑๗ เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๖๔

บวช ๑๘ ครั้ง ชีวิตดีกว่าเดิมทุกครั้ง แล้วคุณจะรู้ว่า..บุญบวชเปลี่ยนชีวิต จนประสบความสำเร็จเกินคาด!

บวชเปลี่ยนชีวิต
เรื่อง : กองบรรณาธิการ


บวช ๑๘ ครั้ง
ชีวิตดีกว่าเดิมทุกครั้ง

แล้วคุณจะรู้ว่า..บุญบวชเปลี่ยนชีวิต
จนประสบความสำเร็จเกินคาด !

6401-022.jpg

กัลฯ ชัยนาท กิตติธรกุล

        ความสำเร็จในเรื่องงานของผม จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ผมทำงานด้านประกันชีวิตและไฟแนนเชียล ปกติถ้าจะให้ดีต้องรู้จักคนเยอะ ต้องรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีเงินเยอะ ๆ อะไรอย่างนี้ แต่ผมไม่ค่อยรู้จักใครเลย รู้จักแต่บุญกับวัด

        สมัยเรียนผมเป็นสมาชิกชมรมพุทธฯ ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ผมได้เห็นการใช้ชีวิตแบบพี่น้องชมรมพุทธฯ ซึ่งมีหลักธรรม มีเปิดเทปนำนั่งสมาธิของหลวงพ่อ เราก็ได้ฟังคำสอนของหลวงพ่อไปเรื่อย ๆ ซึมซับมาเรื่อย ๆ แล้วไปวัดพระธรรมกายบ่อย ๆ 

          พอเรียนจบ ผมไปสมัครเป็นซูเปอร์ไวเซอร์คุมโรงงาน ช่วงนั้นไปวัดทุกอาทิตย์ แต่การเดินทางยากลำบาก เพราะว่าไม่มีรถส่วนตัว ออกจากที่พักของโรงงานต้องนั่งมอเตอร์ไซค์มา แล้วขึ้นรถตู้ไปอนุสาวรีย์ชัยฯ จากอนุสาวรีย์ชัยฯ นั่งรถเมล์ไปบางขัน แล้วนั่งมอเตอร์ไซค์เข้าวัด ประมาณ ๕ ต่อในแต่ละอาทิตย์

 

6401-023.jpg

ทำไมถึงบวชทุกปี

         บวชครั้งแรก พ.ศ. ๒๕๔๗ อยากบวชให้พ่อแม่ครับ เลยตัดสินใจลาออก ที่ลาออกเพราะว่าโรงงานไม่ได้มีเวลาให้เราบวชเป็นเดือนสองเดือน เขาให้แค่ ๗ วัน แต่เราคิดว่ามีโอกาสบวชแทนพระคุณของพ่อแม่แล้วยังได้บูชาธรรมหลวงพ่อ ๖๐ ปี ด้วย จึงตัดสินใจลาออก แล้วบวชมาเรื่อย ๆ ๑๘ ครั้งแล้วครับ

 

6401-024.jpg

        หลายคนถามผมว่ามีครอบครัวแล้ว ทำไมถึงกล้าตัดสินใจที่จะบวช ไม่ห่วงคนในครอบครัวหรือ ในความรู้สึกส่วนตัว ผมมีความรู้สึกว่าโลกใบนี้มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่น่ากลัวกว่าการที่เราตัดสินใจมาบวช และการที่ผมซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัวได้มาบวช เท่ากับผมเป็นตัวแทนของครอบครัวที่จะมาเอาบุญใหญ่ให้ครอบครัวของผม ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร คนในโลกใบนี้ก็ยังต้องการบุญ บุญนี้จะปกป้องทุกสิ่ง และบุญจากหัวหน้าครอบครัวเป็นจุดสำคัญที่จะทำให้ครอบครัวอบอุ่นในอนาคตครับ

 

6401-025.jpg

ไปวัดแล้วได้อะไร

         หลายคนที่มีโอกาสไปวัดพระธรรมกาย จะรู้เลยว่า ทุกอาทิตย์ขณะที่หลวงพ่อนำนั่งสมาธิ ท่านจะสอนธรรมะเข้าไปด้วย ทำให้เราเริ่มรู้ว่า ทำไมเราต้องเป็นคนจริงใจ ทำไมเราต้องเป็นคนซื่อสัตย์ ทำไมเราต้องเป็นคนขยัน ทุกอย่างอยู่ในคำสอนเวลาที่หลวงพ่อนำนั่งสมาธิทั้งหมดที่เป็นข้อสำคัญคือความซื่อสัตย์ ผมเชื่อว่าหลายคนที่แนะนำลูกค้าให้ผมเกิดจากการที่ผมมีความซื่อสัตย์ มีความจริงใจต่อลูกค้า ซึ่งเป็นผลทำให้ผมมีโอกาสที่จะได้ลูกค้าต่อ ๆ ไป และไปเจอลูกค้ารายใหญ่ ๆ เรื่องนี้ไม่สามารถอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ได้ว่า ทำไมเราถึงต่อไปได้เรื่อย ๆ อย่างนี้ แต่ผมเชื่อในเรื่องของบุญครับ ถ้าไม่มีหลวงพ่อคงไม่มีตัวผมในวันนี้ที่ดูแลพ่อแม่เป็นอย่างดี ทำให้พ่อกับแม่จากที่ไม่เคยศรัทธาวัดหันมาศรัทธา แล้วมีการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา อย่างที่ผมบอกว่า ผมบวชปีละครั้ง บางปี ๒ ครั้ง เวลาทำงานหดหายไปปีละ ๓ เดือน ในงานที่ผมทำเขาจะมีตัววัดอยู่อย่างหนึ่ง คือ คำว่า “of the year” ซึ่ง “ออฟเดอะเยียร์” นี้ ใน ๑ ปี จัด ๑ ครั้ง แล้วส่วนใหญ่ผมกับครอบครัวที่ทำงานนี้จะได้ “ออฟเดอะเยียร์” บ่อย ๆ แทบทุกปี ซึ่งในปีล่าสุดก็ได้ “ยูนิตเมเนเจอร์ออฟเดอะเยียร์” อันดับ ๓ ภาคประเทศไทย ซึ่งในภาวะแบบนี้ก็อย่างที่ทราบกันว่า เรื่องของผลประกอบการและเรื่องของเศรษฐกิจไม่ค่อยดี แต่เศรษฐกิจไม่ได้มีผลกับพวกเราที่เชื่อมั่นในการทำบุญ ทำบุญไม่มีวันจนเป็นเรื่องจริงนะครับ เพราะว่าผมยังนึกไม่ออกเลยว่า ในภาวะเศรษฐกิจไม่ดีเราจะมีลูกค้าได้อย่างไร แต่ว่าผมก็สวนกระแสจากการทำบุญ จากการไปวัดสม่ำเสมอ อาจจะบอกไม่ได้ชัด ๆ ว่ามันเกิดจากอะไร ช่วงปี ๒๕๔๐ เราก็อยู่ได้ ตอนนี้เราก็ยังอยู่ได้ และอยู่ได้เป็นอย่างดี วันนี้นอกจากมีความสุขแล้ว เรายังมีเงินด้วยครับ

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล