ฉบับที่ ๑๔ ประจำเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๖

พิธีอัญเชิญหลังคาหอฉันคุณยายแผ่นสุดท้าย พระธรรมเทศนาพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)

โอวาทพระราชภาวนาวิสุทธิ์

 

(วันอาทิตย์ที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๖)

                        วันนี้ วันอาทิตย์ที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๖ เป็นวันอันอุดมมงคล ที่ลูกหลานคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ผู้มีบุญทุกท่าน ได้พร้อมใจกันมาประกอบพิธีอัญเชิญหลังคาหอฉัน ซึ่งเราได้อัญเชิญเจดีย์น้อยของคุณยายมาประดิษฐานไว้ ณ เบื้องบนหอฉัน เสมือนเป็นเรือนยอดมณฑป ใช้เป็นที่สำหรับสร้างมหาทานบารมีของเรา

                        เมื่อเห็นหอฉันคุณยายครั้งใด ก็จะทำให้หวนระลึกนึกถึงวันงานสลายร่างคุณยาย เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๕ ที่เราได้สร้างมหาทานบารมีอันยิ่งใหญ่ ได้ถวายภัตตาหารเป็นมหาสังฆทาน และถวายปัจจัยไทยธรรมกับพระภิกษุสามเณรทั่วประเทศกว่า ๓๐,๐๐๐ วัด กับพระภิกษุจำนวน เรือนแสนรูป เราจะได้ตามระลึกนึกถึงบุญนั้น ด้วยความปลื้มปีติ และยังได้ระลึกนึกถึงคุณยาย ผู้เป็นยอดมหาปูชนียาจารย์ นึกถึงปฏิปทา ข้อวัตร ปฏิบัติที่งดงามของท่าน นึกถึงคุณธรรม คุณวิเศษ และมโนปณิธานอันยิ่งใหญ่ที่ท่านมุ่งจะไป ปราบมารประหารกิเลสให้ถึงที่สุดแห่งธรรม

                        เราจะมีท่านเป็นแบบอย่าง เป็นต้นบุญต้นแบบในการสร้างความดี ยามใดที่เราอ่อนล้า พลังใจถดถอย เมื่อเรามาเห็นอนุสรณ์สถานเจดีย์ของคุณยาย จะทำให้เรานึกถึงคุณยาย กำลังใจก็จะเกิดขึ้น เพราะตลอดชีวิตของคุณยาย คำว่าท้อแท้ ท้อถอย ไม่เคยมีอยู่ในใจท่านเลย ท่านเป็นยอดนักสู้ นักรบกองทัพธรรม ผู้ไม่ครั่นคร้ามต่ออุปสรรคอันใด ได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งไม่มีสอง ฉะนั้นเจดีย์น้อยของท่านบนหอฉันหลังนี้ จึงเปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งชัยชนะของยอดนักรบกองทัพธรรม ที่ใครมาเห็นแล้ว นอกจากจะเกิดกำลังใจแล้ว ยังเกิดจิตสำนึกของนักรบกองทัพธรรม ที่ไม่หวั่นไหวในการสร้างบารมี คล้ายๆ กับเทวดาที่เมื่อเห็นธงรบของพระอินทร์แล้วก็ไม่หวั่นไหวต่ออสูรทั้งหลาย

                        อาคารหอฉันคุณยายหลังนี้จะเป็นโรงทาน ขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับพระภิกษุสามเณร ได้ถึง ๖,๐๐๐ รูป ถ้าเราได้ทำบุญเลี้ยงพระเณรทุกๆ วัน วันละ ๖,๐๐๐ รูป เราจะปลื้มปีติทีเดียว หลวงพ่อก็ตั้งผังเอาไว้ ฝันๆ เอาไว้ก่อนว่า อยาก จะทำบุญอย่างนี้ทุกๆ วันไปจนกว่าจะหมดอายุขัย เพราะบุญนี้มีอานิสงส์ใหญ่ จะเป็นเสบียงสนับสนุนให้เราได้สร้างบารมีอย่างสะดวกสบาย เราจะไม่รู้จักคำว่า อดอยากยากจนกันอีกต่อไป จะมีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง มีอายุขัยยืนยาว ได้สร้างบารมีกันอย่างเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ ไปทุกภพทุกชาติ ตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม

                        จะเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ อย่างมหาอุบาสิกาวิสาขา ที่ท่านขวนขวายในการบำรุงเลี้ยงพระเณรทุกวัน เป็น ผู้ให้กำลัง ให้อายุพระพุทธศาสนา ด้วยอานิสงส์นี้จึงทำให้ท่านมีอายุยืนยาวถึง ๑๒๐ ปี มีผิวพรรณ วรรณะที่ผ่องใส ดูงดงามตามวัย ท่านเป็นผู้มีความสุขมากๆ เพราะได้สั่งสมบุญทุกวัน และท่านยังเป็นผู้มีพละกำลังมากเท่ากับช้างสาร ๕ เชือก มีปฏิภาณเฉลียวฉลาด อายุเพียง ๗ ขวบ ก็สามารถต้อนรับปฏิสันถารพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

                        ถ้าเราทำบุญสร้างหอฉันนะลูกนะ แล้วก็ถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน ให้การสนับสนุนพระภิกษุสามเณรผู้ประพฤติธรรม เราก็จะได้อานิสงส์อย่างนี้ ถ้าเราสังเกตดูผู้มีบุญทั้งหลายในกาลก่อน เราก็จะพบว่า เมื่อท่านเหล่านั้น ตั้งความปรารถนาอะไรเอาไว้ ก็จะปรารภเหตุเริ่มต้นด้วยการทำบุญถวายทาน และท่านมักถวายมหาสังฆทานกันตลอดต่อเนื่องถึง ๗ วัน และก็ตั้งความปรารถนา ในที่สุดเมื่อบารมีเต็มเปี่ยม ท่านก็สำเร็จสมความปรารถนาทุกอย่าง

                        เราเป็นนักรบกองทัพธรรม เป็นนักสร้างบารมี ความปรารถนาของเรานั้นสูงส่งและยิ่งใหญ่ เพราะเรามุ่งจะไปสู่ที่สุดแห่งธรรม ดังนั้นเราต้องสร้างมหาทานบารมีกันให้มากๆ ทำบุญทุกๆ วัน ทำไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ เพราะตราบใดที่เรายังไม่บรรลุเป้าหมาย เราจำเป็นต้องมีบารมีมากๆ ถ้าบุญบารมีน้อยๆ ไปสู่ที่สุดแห่งธรรมไม่ได้

                        เราจะได้อาศัยบุญสถานแห่งนี้สร้างมหากุศล ณ ที่ตรงนี้ บุญใหญ่จะเกิดขึ้นทุกวัน เพราะจะมีการถวายภัตตาหารเป็นมหาสังฆทาน ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า มีอานิสงส์มากกว่า ปาฏิบุคลิกทาน คือทานที่ถวายเฉพาะเจาะจงภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง และสังฆทานก็เป็นประมุขของผู้หวังบุญ พระสงฆ์คือเนื้อนาบุญ เป็นประมุขของผู้บูชา ที่ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า

                        ฉะนั้น บุญนี้ถือเป็นหลักเป็นประธานกันทีเดียว แม้แต่พระบรมโพธิสัตว์ทุกๆ พระองค์ เมื่อท่านได้รับพุทธพยากรณ์ว่า จะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สิ่งแรกที่ท่านจะต้องลงมือกระทำ คือ สร้างมหาทานบารมี ดังนั้นทาน บารมีจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างบารมีทั้งหมด บุญนี้เปรียบเสมือนบันไดก้าวแรก ที่จะทำให้การสร้างบารมีอย่างอื่นก้าวไกลต่อไปได้อีก ฉะนั้น ใครปรารถนาความเจริญก้าวหน้าในชีวิต ก็ให้มาทำบุญนี้กันนะจ๊ะ

                        วันนี้ เรามาร่วมกันสถาปนาหอฉัน ช่วยกันสร้างศาสนสถาน ฝากฝังทรัพย์ไว้ในพระพุทธศาสนา ทรัพย์นี้ก็จะเปลี่ยนไปเป็นบุญ ให้เราได้สมบูรณ์ทั้งโลกียทรัพย์และอริยทรัพย์ เราจะได้ที่สุดแห่งรูปสมบัติ ที่สุดแห่งคุณสมบัติ ที่สุดแห่งทรัพย์สมบัติ ได้สมบัติอันเลิศ ทั้งมนุษย์ ทิพย์ และนิพพานสมบัติ เมื่อเราละโลกไป ก็จะเสวยสุขอยู่ในดุสิตบุรี แม้อยู่ในสุคติโลกสวรรค์แล้ว แต่ศาสนสถานนี้ก็ยังคงอยู่ จะมีนักสร้างบารมีรุ่นต่อๆ ไป มาใช้สร้างบารมีกัน เราก็จะได้บุญตลอดเวลาเลย รัศมีกายก็จะสว่างไสว มีความสุขทั้งในปัจจุบัน และเมื่อละโลกไปแล้วก็มีความสุข

                        เรากำลังสร้างประวัติศาสตร์ชีวิตอันงดงาม ด้วยการสืบสานอริยประเพณีการให้ทานของบัณฑิตนักปราชญ์ทั้งหลาย รวมทั้งจะได้สานฝันของคุณยายให้เป็นจริง เพราะคุณยายท่านมีความตั้งใจมากในเรื่องของการทำบุญเลี้ยงพระ ท่านไม่อยากให้พระเณรเป็นกังวลในเรื่องขบฉัน จะได้เอาเวลามาประพฤติปฏิบัติธรรม นำเรี่ยวแรงมาต่อสู้กับศัตรูที่แท้จริง คือ กิเลส มาศึกษาพระธรรมวินัยให้แตกฉาน ทั้งปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ เทศนา เป็นเนื้อนาบุญให้กับพวกเราและชาวโลกทั้งหลาย เพราะฉะนั้นเราจะช่วยกันทำความปรารถนาของคุณยายให้สำเร็จ แล้วเราก็จะได้น้อมนำบุญนี้ถวายแด่คุณยายของเรา

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล