ฉบับที่ ๒๓ ประจำเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๔๗

พิธีมุทิตาสักการะเปรียญธรรม ๙ ประโยค และถวายไทยธรรม ๓,๐๐๐ วัด เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนา พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)

 

เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
วันอาทิตย์ที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๗

             วันนี้ เป็นวันที่หลวงพ่อชื่นใจและปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่งที่พุทธบริษัท ๔ ผู้มีบุญ ทั้งภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา มาประชุมพร้อมกันในวาระที่สำคัญหลายๆ วาระในวันเดียวกัน คือ วันนี้เป็นวันพระแรกของวันเข้าพรรษา ที่เราตั้งใจว่า ทุกวัน พระจะรักษาอุโบสถศีล เมื่อเราตั้งใจแล้วเราก็ทำกันให้ได้ทุกวันพระ ถ้าหากวันพระใดตรงกับวันทำงานก็อย่าไปหวั่นไหว อย่าขาดความมั่นใจว่า วันพระอีกแล้ว จะแต่งเนื้อแต่งตัว แต่งหน้าอะไรก็ไม่ได้ แต่ถ้าเรามีรอยยิ้มบนใบหน้าก็ได้ชื่อว่าแต่งตัวเสร็จแล้ว

             นอกจากเป็นวันพระแล้ว วันนี้ยังเป็นวันอาทิตย์ ที่เราเลื่อนจากอาทิตย์ต้นเดือนมาเป็นวันนี้ เพื่อประกอบพิธีบูชาข้าวพระ เราได้สั่งสมบุญนี้มาอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี แล้วก็ยังเป็นวันสมาธิโลก อีกทั้งเรายังได้พร้อมใจกันถวายพระพรชัยมงคลในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๖ รอบ

             และภาคบ่ายเป็นช่วงที่สำคัญ ที่เราได้ประกอบพิธีมุทิตาสักการะเปรียญธรรม ๙ ประโยค ที่เรารอคอยมานาน เพราะ ๑ ปี มีเพียงครั้งเดียว เราก็ได้กราบอาราธนาพระเถรานุเถระ พระสังฆาธิ-การ ผู้เป็นเนื้อนาบุญมาเป็นเกียรติในงานนี้ ท่านก็วางภารกิจ เครื่องกังวลทุกอย่าง แล้วก็มาเป็นกำลังใจให้กับพุทธบุตรที่เรียนจบเปรียญธรรม ๙ ประโยค นอกจากจะมีการมุทิตาสักการะเปรียญธรรม ๙ ประโยคตามปกติทุกปีแล้ว ยังมีพิธีพิเศษ คือ การมอบรางวัลพัดเกียรติยศ ผู้ที่ได้รับรางวัลตามเงื่อนไขในปีนี้ คือ วัดจองคำ

             เราได้มาร่วมประกอบพิธีกันตั้งแต่เช้าจนกระทั่งภาคบ่าย โดยเฉพาะภาคบ่ายนี้ พวกเราทุกคน ได้ทำสิ่งที่น่าชื่นชมอนุโมทนา คือ แม้เราจะเมื่อยแค่ไหน หน้าเราก็ยังยิ้ม ใจก็ยังเบิกบาน และก็ตั้งใจที่จะสร้างบารมีกันอย่างเต็มที่ อยู่เป็นกำลังใจให้แก่พุทธบุตร ที่จบการศึกษาเปรียญธรรม ๙ ประโยค และที่น่าชื่นชมอีกประการ คือ เมื่อถึงคราวที่กล่าวคำอนุโมทนา เราก็อนุโมทนาพร้อมกัน ถึงคราวปรบมือ เราก็ปรบมือพร้อมกัน นี่ก็เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมยินดี ตลอดจนได้ถวายปัจจัยไทยธรรมแด่เนื้อนาบุญ ๓,๐๐๐ กว่าวัดทั่วประเทศที่มาในงานนี้

             ทั้งหมดนี้ เป็นบารมีที่ลูกทุกๆ คนจะได้รับ สมกับที่ได้เกิดมาสร้างบารมี ทุกครั้งที่เราทำบุญอย่าลืมอธิษฐานจิตสองข้อเป็นหลัก นอกนั้นก็เป็นเรื่องรองลงมา คืออธิษฐานว่า ด้วยอานุภาพแห่งบุญนี้ ขอให้เราได้ติดรถด่วนขบวนนี้ไปสู่ที่สุดแห่งธรรม และในระหว่างหนทางแห่งการสร้างบารมี ด้วยอานุภาพแห่งบุญนี้ ให้เราได้ไปอยู่ดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เราจะได้ไม่พลัดพรากกัน เมื่อหมู่คณะลงมาสร้างบารมีในยุคไหน ก็จะได้ลงมาพร้อมๆ กัน มาเติมบารมีแล้วก็กลับไปพร้อมๆ กัน ไม่มีหก ไม่มีหล่น การอธิษฐานนอกนั้นก็เป็นเรื่องรอง เราจะอธิษฐานจิตอะไรก็แล้วแต่เรา จะออกแบบชีวิตของเราให้มีอุปกรณ์ในการสร้างบารมีอย่างไร ก็แล้วแต่เรา

             การไปสู่ที่สุดแห่งธรรมนั้น เป็นการสร้างบารมีแบบไม่มีกำหนดเวลา อาจจะเร็ว หรือช้า อยู่ที่เราจะต้องมีบารมีมากๆ บารมีจะมากได้นั้นก็ต้องสั่งสมบารมีมากๆ จะสั่งสมบารมีได้มากก็ต่อเมื่อเรามีอุปกรณ์ในการสร้างบารมีได้ครบถ้วน เช่น มี รูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข มรรคผล นิพพาน วิชชาธรรมกาย สมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่อง เป็นต้น ถ้าเรามีอุปกรณ์อย่างนี้พร้อม การสร้างบารมีของเราก็จะสะดวกสบาย ก็ให้สังเกตดูในชาตินี้ ตั้งแต่เราเกิดมาจนกระทั่งบัดนี้ เรามีข้อบกพร่องอะไรบ้าง

             เมื่อเราทำบุญทุกครั้งก็ต้องอธิษฐานอย่างนี้ว่า ขอให้ภพนี้เป็นภพสุดท้ายที่ขาดตกบกพร่อง ถ้าภพชาติต่อไปต้องเป็นภพแห่งความสมบูรณ์ของอุปกรณ์ในการสร้างบารมี ให้เราสังเกตดูตัวเองและก็อธิษฐานสร้างบารมีกันไป ภพเบื้องหน้าเมื่อเรามา สร้างบารมี มาเจอกันอีก ต้องมีความพร้อมกว่านี้ เพราะว่าหนทางข้างหน้านั้น จะไม่คอยใครแล้ว ไม่ต้องประคับประคองกันแล้ว ต่างต้องมายืนเข้าแถวเรียงหนึ่ง เป็นหน้ากระดาน ที่จะต้องก้าวไปพร้อมๆ กัน

             เราจะเป็นอย่างนี้ได้ก็ต้องมีความพร้อมในทุกด้าน ซึ่งจะต้องประกอบเหตุในปัจจุบันนี้ให้เต็มที่เต็มกำลัง เรามีเวลาเหลืออยู่ในโลกนี้นับจากวันนี้ไปถึงวันสุดท้ายอีกไม่มาก แล้วก็ไม่เท่ากันด้วย เราจะต้องใช้วันเวลาและสิ่งที่เรามีอยู่ สร้างบารมีกันให้เต็มที่ อย่าประมาทในการดำเนินชีวิต
เราเกิดมาเพื่อการนี้ มาสร้างบารมีก็ต้องมาสร้างบารมี อย่ามัวไปคิดว่า บุญเราทำมามากแล้วขอพักก่อน ขอชะลอไว้ก่อน อย่าไปคิดอย่างนั้น บุญเก่าเราใช้ไปทุกอนุวินาที แต่บุญใหม่นานๆ เราสร้างกันทีหนึ่ง ที่ผ่านมาก็เป็นกันอย่างนี้ เพราะฉะนั้นเวลาที่เหลืออยู่นี้ เราก็จะต้องใช้ทุกอย่างที่เรามีให้เต็มที่เท่ากับที่เราใช้บุญเก่าไป ให้เพิ่มเติมขึ้นทุกๆ วัน

             วันธรรมดาให้หมั่นสั่งสมบุญ ทั้งทาน ศีล ภาวนา วันอาทิตย์ธรรมดาเราก็มาพบกัน ปฏิบัติธรรมะร่วมกันที่นี่ ถ้าใครไม่ติดภารกิจอะไรก็มากัน โดยเฉพาะอาทิตย์ต้นเดือนก็อย่าให้ขาด ให้มาพร้อมๆ กันอย่างนี้ อย่าไปกลัวความปวด ความเมื่อย ความหิวกระหาย ความร้อนอบอ้าว ความสะดวก ความสบายเหมือนเราอยู่ที่บ้าน อย่าให้สิ่งเหล่านี้มาเป็นอุปสรรคต่อการสร้างบารมีของเรา เพราะเราก็อยู่ไม่นานแล้ว ถ้าเราอดทนกันในตอนนี้ เวลาบุญส่งผลในเทวโลกก็ยาวนาน เราจะปลื้มใจกันตรงนั้น

             เมื่อเราเดินทางออกจากกายมนุษย์ไปสู่เทวโลกแล้ว มันกลับตัวไม่ได้แล้ว ถ้าเราทำน้อยเราก็มีบุญน้อย มีบุญน้อยเราก็ต้องไปอยู่ท้ายแถว ถ้าเราสร้างบุญให้มากๆ เมื่อเรามีบุญมาก เราก็จะได้ไปอยู่หัวแถว ในภพแห่งการเสวยบุญนั้น เราจะชื่นชมผลบุญที่เราได้กระทำตอนเป็นมนุษย์ เพราะฉะนั้นขอให้ลูกทุกคนพึงคิดสิ่งเหล่านี้เอาไว้ให้ดีทีเดียว

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล