ฉบับที่ ๒๓ ประจำเดือนกันยายน พ.ศ. ๒๕๔๗

พระธรรมเทศนา พิธีประดิษฐานองค์พระเป็นปฐมเริ่มบนยอดโดมอาคาร ๖๐ ปี พระราชภาวนาวิสุทธิ์ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)

 

 

เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๗ เดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๗


             วันนี้เป็นวันมหามงคลที่ลูกทุกคนได้พร้อมใจกันมาร่วมประกอบพิธีกรรมอันสำคัญ คือการอัญเชิญพระพุทธปฏิมากรประดิษฐานบนยอดโดมอาคารภาวนา ๖๐ ปี ซึ่งพุทธปฏิมากรนี้เราได้ร่วมกันหล่อในวันที่ ๒๒ เมษายนที่ผ่านมา โดยได้ทำการหล่อองค์พระธรรมกาย ๓๐๐,๐๐๐ องค์ ซึ่งจะนำไปประดิษฐานที่อาคารภาวนาต่อไป

             การที่เราได้สร้างองค์พระพุทธปฏิมากร ถือว่าเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาอีกทางหนึ่ง แล้วก็จะได้เจริญพุทธานุสติด้วย คือ เป็นเครื่องช่วยระลึกนึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใจของเราก็จะได้ผูกพันอยู่กับพระรัตนตรัย และยังเป็นการแสดงออกถึงความเลื่อมใสอย่างยิ่งในพระรัตนตรัยอีกด้วย ทำให้ชาวโลกทั้งหลายได้ประจักษ์ว่า สิ่งที่เป็นที่พึ่งที่ระลึกอันแท้จริงนั้น มีลักษณะเป็นอย่างไร พุทธลักษณะของกายมหาบุรุษที่เป็นกายมาตรฐานสากล เป็นกายของผู้รู้ที่สมบูรณ์ที่สุดนั้นเป็นอย่างไร เขาก็จะสามารถศึกษาดูได้จากพุทธปฏิมากรที่ถอดแบบลักษณะมหาบุรุษภายในออกมา ซึ่งพุทธปฏิมากรก็เปรียบเสมือนองค์แทนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

             การที่เราบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยหล่อรูปของพระองค์ แล้วอัญเชิญมาประดิษฐานเอาไว้ ให้มนุษย์และเทวาได้เคารพกราบไหว้บูชานี้ เราก็จะได้ชื่อว่าเป็นผู้บูชาทักขิไณยบุคคลผู้ที่สมควรบูชาอย่างยิ่ง ซึ่งการบูชาบุคคลที่ควรบูชา ถือเป็นมงคลอันสูงสุด เราเองก็จะได้รับอานิสงส์ใหญ่อันนี้ด้วย คือ จะทำให้เป็นผู้ที่มนุษย์และเทวาเคารพยกย่องบูชา แล้วก็จะเป็นผู้เพียบพร้อมไปด้วยที่สุดแห่งมนุษย์สมบัติ ทิพยสมบัติ และนิพพานสมบัติ ได้ที่สุดของทุกสิ่ง ทั้งที่เป็นโลกียทรัพย์ และอริยทรัพย์

             ดังนั้น การที่เรามาบำเพ็ญมหากุศลในวันนี้ ลูกทุกคนจะต้องตั้งใจกันให้ดีเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่เราทำในวันนี้ก็เกี่ยวเนื่องกับการสถาปนาอาคารภาวนา สำหรับศึกษาวิชชาธรรมกาย ซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดแห่งการสถาปนาถาวรวัตถุ ที่มีอานิสงส์อันยิ่งใหญ่อย่างจะนับจะประมาณมิได้ เนื่องจากการให้สถานที่สำหรับปฏิบัติธรรม ทำภาวนาศึกษาวิชชาธรรมกายเป็นสุดยอดแห่งมหากุศลแห่งการให้



             เพราะสิ่งนี้จะเป็นต้นของกุศลธรรมทั้งหลาย ที่จะเพิ่มเติมบุญบารมีทุกอย่างให้เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ได้อย่างดีที่สุด อาคารภาวนานี้จะเป็นที่ศึกษาความรู้ภายในให้เข้าไปถึงแหล่งแห่งความรู้อันบริสุทธิ์ ความสุขและพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุดในการที่จะทำให้ทุกคนมีความสุขสดชื่นเบิกบาน และก็สมปรารถนาในชีวิต บุญสถานแห่งนี้จะสว่างไสวไปด้วยธรรมธาตุ ธรรมรังสีของพระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่ตลอดเวลา และจะไม่มีการหยุดพักในระหว่างของการเชื่อมโยงวิชชาธรรมกายกับผู้รู้แจ้งเห็นแจ้งภายในเลย ซึ่งจะมุ่งเข้าไปทำงานละเอียดภายใน ไปรบกับศัตรูตัวจริง รบกับกิเลสอาสวะกับพญามารในสมรภูมิของผู้รู้ผู้มีอานุภาพ ที่มาชุมนุมกันทำงานที่แท้จริง เพื่อมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรม

             ฉะนั้น อาคารภาวนาสำหรับศึกษาวิชชาธรรมกายนี้ จึงเป็นศาสนสถานที่บริสุทธิ์ เป็นที่ชุมนุมกันของผู้รู้ ผู้ที่จะมาศึกษาธรรมะขั้นละเอียด แล้วมาช่วยกันทำงานที่แท้จริงรวมทั้งมาสืบทอดวิชชาธรรมกาย ซึ่งก็จะเป็นการสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา โดยอาศัยการปฏิบัติให้เข้าถึงแก่นแท้ของพระพุทธศาสนา สิ่งนี้ก็จะเป็นมรดกโลก มรดกธรรมในการที่จะสืบทอดความรู้อันบริสุทธิ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากันต่อไป แล้วเมื่อทีมงานนักสร้างบารมี ทีมนักรบกองทัพธรรมที่จะมาภายภาคหน้า ได้มายังศาสนสถานแห่งนี้ ท่านก็จะได้ทราบโครงงานที่ได้ทำต่อเนื่องกันมายาวนาน แล้วก็จะมาสานงานกันต่อไป เพื่อมุ่งไปให้ถึงที่สุดแห่งธรรม

             พวกเราทั้งหลายได้ร่วมกันสถาปนาสิ่งนี้ขึ้นมา นับได้ว่าเป็นผู้มีส่วนอย่างสำคัญยิ่งในการสืบทอดและจรรโลงพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายให้คงอยู่คู่กับโลก มหากุศลใหญ่ที่จะทำให้ชีวิตเราเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรมก็จะบังเกิดขึ้นกับเรา บุญนี้ก็จะไปเชื่อมโยงวิชชาธรรมกายกับพระต้นวิชชามาสู่ตัวเรา ไม่ว่าเราจะไปบังเกิดในที่ใดก็จะเกิดอยู่ในร่มเงาบวรพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายตลอดไป แล้วก็จะได้สร้างบารมีร่วมกันไปทุกภพทุกชาติตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล