ฉบับที่ ๒๔ ประจำเดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๗

สกู๊ปพิเศษ "เทพธิดา..แม่ค้าขายปลา" โดย : กองบรรณาธิการ

 

 

               ..คงจะอึดอัดใจมาก หากจะปล่อยให้สิ่งที่อยากทำในชีวิต เป็นเพียงความคิดที่มีอยู่ในใจ ซึ่งเรื่องราวที่จะนำเสนอต่อไปนี้ก็เช่นกัน เป็นเรื่องราวที่แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ทำได้ยากสำหรับใครหลายๆ คน แต่ก็มีคนเป็นจำนวนมากทำได้ ซึ่งเธอในที่นี้ก็เช่นกัน แม้จะเป็นเพียง หม่าม้าสูงอายุ ที่มีอาชีพแม่ค้าขายปลาในตลาดกรมภูธเรศ กรุงเทพฯ ต้องตื่นตั้งแต่ตี ๑ ทุกวัน ต้องลำบากตรากตรำในวัยสูงอายุ แต่เธอก็มีหัวใจที่คิดจะทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต ด้วยเงินที่เก็บหอมรอมริบไว้สำหรับดูแลชีวิตในบั้นปลาย ด้วยใจที่ปีติ เบิกบาน อย่างไม่คิดเสียดาย เพราะเห็นถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในชาติปัจจุบันและอนาคต...
 

 

               โปรดสำรวจดูว่า คุณวางใจไว้ที่ศูนย์กลางกายดีพอหรือยัง.. ถ้าดีพอแล้ว เราจะไปติดตาม เรื่องราวของเธอพร้อมๆ กัน จากจดหมายที่เธอเขียนถึงพระเดชพระคุณหลวงพ่อ เพื่อเล่าถึงเรื่องราวในชีวิต เพียงเพื่อหวังจะให้เป็นกำลังใจกับคนอีกหลายคนที่น่าจะมีโอกาสทำสิ่งนี้ได้มากกว่าเธอ และกำลังคิดอยากจะทำ...อย่างเธอด้วยคน !!!

               กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ด้วยความเคารพอย่างสูง

               ลูกชื่อ บุญช่วย วัชระสุกิจ แต่ใครๆ มักจะเรียกลูกว่า หม่าม้าหรือยาย เพราะลูกอายุได้ ๖๐ ปีแล้วค่ะ ลูกเกิดในครอบครัว คนจีน ต้องขายผักที่ตลาดสดตั้งแต่อายุ ๖-๗ ขวบ

               นับตั้งแต่ลูกจำความได้ ลูกไม่เคยสบายกับเขาเลย ลูกได้แต่งงานตอนอายุ ๒๘ ปี ต่อมาได้แยกทางกับสามีทั้งๆ ที่ตัวลูกพึ่งคลอดลูกได‰เพียง ๕ เดือน ยิ่งลำบากกว่าเดิมขึ้นไปอีก เพราะเราต้องทำงานเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ต้องเลี้ยงลูกเพิ่มขึ้นอีกคน ตอนนั้นลูกทำอาชีพแบกถุงกระดาษเร่ขาย เอาถุงกระดาษใส่รถเข็นไป เอาลูกชายเล็กๆ ใส่รถเข็นไปด้วยกัน เข็นรถเร่ขายท่ามกลางเปลวแดด และลมฝน ได้ย่ำไปทุกหย่อมหญ้า ตามตรอกซอกซอย แค่ไหนก็ไป เพียงเพื่อหวังว่า จะขายถุงให้ได้สักใบ ลูกเร่ขายไปตามถนนเส้นเยาวราชจนถึงสนามหลวง ต้องยอมรับว่าเหนื่อยเหลือเกินกว่าจะได้เงินมา ๔๐-๕๐ บาท ลูกต้องประหยัดอดออมทุกอย่าง จะยอมเหนื่อยยอมหนักในการขนถุงจำนวนมากลากใส่รถเข็นไป โดยจะพยายามไม่ขึ้นรถ ๓ ล้อ เพราะเงิน ๘-๑๒ บาทที่ต้องจ้าง ๓ ล้อ มันก็มากเหลือเกินสำหรับลูก

               ซึ่งลูกยอมเหนื่อยยอมแลกทุกอย่างก็เพื่อ จะได้ประหยัดเอาเงินเก็บไว้เลี้ยงลูก และเพื่ออนาคตของเขา แต่ต่อมารายได้ไม่พอ ลูกจึงต้องเปลี่ยนอาชีพมาขายปลาทู ปลาเก๋า โดยไปรับมาจากสะพานปลากรุงเทพ แล้วมาเช่าหน้าบ้านเขาขาย ลูกต้องตื่นตั้งแต่ตี ๑ ทุกวัน เพื่อกุลีกุจอไปเลือกปลามาขาย จนกระทั่งเอาปลามาลง แล้วยืนขาแข็งขายจนกระทั่งหมด

               เมื่อก่อนจะขายดีจนพอมีเงินเก็บ แต่ เดี๋ยวนี้ขายไม่ดีเลย บางวันต้องยืนขายถึง ๔ โมงเย็นกว่าปลาจะหมด เพราะถ้าเก็บปลาไว้จะไม่สดและเน่า ต้องหาทางระบายออกไป แม้ขาดทุนก็ต้องยอม

               มีหลายคนมาขอดูมือของลูก แล้วก็ทักว่าข้อแตก และหงิกไปหมด รักษาก็ไม่หาย เพราะเราทำงานหนักอย่างนี้มานานมาก แม้เราแก่ ๖๐ แล้วก็ยังไม่ได้พักอย่างเขา เราก็ต้องอดทนทำ ประหยัดในทุกสิ่งทุกอย่าง จะกินอะไรก็ต้องคิด อาศัยกินอยู่อย่างง่ายๆ เอาปลาที่เราขาย มานึ่ง มาต้ม มาทอด สลับกันไปอย่างนั้น มีเสื้อผ้าพอใส่เพียงไม่ก็ชุดก็พอ มีเพียงตึกแถว ที่มีตั่งไม้เล็กๆ ที่อำนวยความสะดวกใช้สอยได้ในทุกเรื่อง กิน นอน ทำงาน คิดบัญชี ที่เดียวกัน ในครอบครัวส่วนตัวแม่ลูก ไม่คิดฟุ่มเฟือยอะไรเลย เพราะคิดเสมอว่าเงินทองนั้นหายาก กว่าจะได้มาแต่ละบาทแต่ละสตางค์ เราลำบากเหลือเกินเวลาคนเขานอนหลับสบายกัน เราก็ต้องตื่นไปทำงาน
 

               ถึงแม้ลูกจะประหยัดอย่างนี้ แต่ในเรื่องบุญไม่เคยประหยัดเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากที่ลูกชายได้มาบวชที่วัดพระธรรมกาย แล้วกลับไปชวนลูก มาวัดทำบุญ ติดจานดาวธรรมให้แม่ ทำให้คิดว่าชาตินี้เรา ลำบากมากขนาดนี้ ชาติต่อไปก็ไม่อยากเกิดมาแล้วลำบากอีก เงินที่ลูกพอมีเก็บไว้บ้าง ตอนที่ขายปลาได้ดีมีกำไร ถ้าเราเก็บต่อไปก็ไม่ได้เกิดประโยชน์ หากเราตายตอนนี้ ก็เอาไปไม่ได้ แล้วเราก็ยังไม่เคยเห็นใครเอาไปได้สักคน ทำให้ตัดสินใจทำบุญกับวัดมาตลอด โดยเฉพาะในการทอดกฐินจักรพรรดิปีนี้ อยากเห็นมหารัตนวิหารคดมาก อยากเห็นการรวมตัวของสงฆ์ ๓ แสนรูป อยากเห็นคนมาวัด เป็นล้านคน คิดว่าถ้าเราทำบุญตรงนี้แล้วจะได้บุญมาก และบุญที่มากขนาดนี้ จะไปหาที่ไหนทำก็ไม่มี เลยตัดสินใจเป็นประธานกองกฐินปีนี้ แม้ลูกจะเป็นเพียง หม่าม้าขายปลาที่อายุมากคนหนึ่ง ที่ยังต้องตรากตรำทำงานหนักอยู่ มีเงินเก็บจำนวนหนึ่ง แต่ก็คิดว่าเงินก้อนนี้แหละจะเปลี่ยนเป็นผลบุญทำให้ชีวิตดีขึ้น ในชาตินี้และชาติหน้า เงินก้อนนี้จะทำให้ครอบครัวลูกมีความสุข ซึ่งชาติหน้า ลูกไม่อยากลำบากแบบชาตินี้อีกแล้ว

               สุดท้ายนี้ลูกต้องขอกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่ออย่างสูงสุดด้วย ลูกดูดาวธรรมเห็นหลวงพ่อทางทีวีทุกวัน รู้สึก หลวงพ่อสอนเก่งมาก รู้ได้ทันทีว่าหลวงพ่อเป็นคนมีบารมีมาก ทำงานหนัก เพื่อต้องการให้ ชาวโลกมาทำทาน รักษาศีล นั่งสมาธิ หลวงพ่อทำถูกต้องแล้วค่ะ และทุกวันนี้ลูกมีที่พึ่งทางใจ รู้จักการทำบุญที่ทำให้ได้บุญมากก็จากที่หลวงพ่อได้สอน ได้ช่วยบอกค่ะ

 

จากลูกบุญช่วย วัชระสุกิจ

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล