ฉบับที่ ๓๐ ประจำเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๔๘

สมาชิกรัฐสภา คัดค้านอบายมุขเข้าตลาดหุ้น

 

 

 


             กราบเรียนท่านประธานที่เคารพ ดิฉัน ลดาวัลลิ์ วงค์ศรีวงค์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อพรรคไทยรักไทย ในฐานะสมาชิกวุฒิสภา ดิฉันเป็นนักการเมืองมา ๑๓ ปีค่ะ ท่านประธาน ดิฉันใฝ่ฝันอยากจะเห็นการเมืองเชิงนโยบาย ๔ ปีที่ผ่านมาดิฉันได้พบแล้วค่ะ ว่า การเมืองเชิงนโยบายเกิดขึ้นแล้วในประเทศไทยนี้ การเมืองที่ไม่ได้มีสิ่งเพ้อฝันมาให้ประชาชน แต่การเมืองที่มีสิ่งที่เป็นจริงและยังเป็นสิ่งแปลกใหม่เกิดขึ้นในประเทศไทยด้วย

             ดิฉันภูมิใจกับการตัดสินใจทำงานการเมือง ที่ผ่านมาของดิฉัน และภูมิใจกับคนไทยทั้งประเทศ ที่เห็นสอดคล้องกันเลือกพรรคไทยรักไทยมาเป็นรัฐบาล และสิ่งที่พูดไว้ก็เป็นจริงทุกอย่าง แล้วก็ยังทำสิ่งที่ไม่เคยพูดไว้ก่อน การเลือกตั้งอีกหลายโครงการ อย่างน่าประทับใจ ต้องขอชื่นชมว่ารัฐบาลมุ่งมั่นที่จะให้ประชาชน มีสุขภาพดี ลด ละ สิ่งที่เป็นอบายมุขต่างๆ ที่ทำลายสุขภาพต่างๆ น่าชื่นชมมาก และยังจะส่งเสริมบทบาทของคณะสงฆ์ให้เข้ามีมามีส่วนช่วยพัฒนาคน และพัฒนาสังคมให้คนไทยเป็นคนที่มีความรู้คู่คุณธรรม

             สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว รัฐบาลเดินถูกทางแล้วให้ทำต่อนะคะดิฉันขอเป็นกำลังใจให้ แต่ในขณะเดียวกันดิฉันเป็นห่วงค่ะ เป็นห่วงว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันใดวันหนึ่งนั้น มันจะทำให้นโยบายที่รัฐบาลแถลงในวันนี้ล้มเหลวแล้วเป็นจริงไม่ได้เลย นั่นก็คือมีความพยายาม ของบริษัทธุรกิจผลิตเหล้าเบียร์ ที่จะนำเข้ากระจายหุ้นเพิ่มทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่เป็นข่าวที่คณะสงฆ์แสดงพลังออกมาคัดค้านอยู่ในขณะนี้

             ดิฉันเห็นด้วยกับคณะสงฆ์ ดิฉันเข้าใจ ด้วยกับรัฐบาล แต่ดิฉันอยากให้รัฐบาล เลือกดูด้านสังคมด้วย อย่ามองผล ทางด้านเศรษฐกิจ มองดูความเข้มแข็ง ทางตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น อยากจะให้ดูผลกระทบระยะสั้นระยะยาว ดิฉันเจ็บปวดรวดร้าวกับภาพที่เด็กและผู้หญิงถูกข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นข่าวรายวัน พ่อตบตีลูก ภรรยารายวันนับล้านครอบครัวต่อวัน

             ดังนั้น ดิฉันอยากจะให้สังคมสงบร่มรื่น สมกับเป็นสังคมพุทธศาสนา ๙๐ เปอร์เซ็นต์ คนไทยเป็นชาวพุทธ ถ้าหากว่าบริษัทน้ำเมาเข้าตลาดหลักทรัพย์เขาจะมีทุนเพิ่มเป็นแสนล้าน ท่านประธาน เขาจะโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ เด็กดื่มเพิ่ม ผู้หญิงเมาเพิ่ม เขาทำได้ เพราะมีเงินมากขึ้น เพราะฉะนั้นดิฉัน ถือว่าไม่จำเป็นจะต้องเข้าตลาดหลักทรัพย์ เพราะปกติเขาก็กำไรอยู่แล้ว ปีละไม่ต่ำกว่า ๖ หมื่นล้านบาท ก็เพิ่มทุนทำอะไรได้ แต่กระจายในตลาดหลักทรัพย์นั้น เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ดิฉันขอความกรุณา รัฐบาล จริงๆ แล้วอาจจะมองว่า ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล แต่จริงๆ แล้วเกี่ยวค่ะท่านประธาน

             เมื่อปี ๒๕๓๘ รัฐบาลในอดีตโดยรัฐมนตรีว่า การกระทรวงการคลังในสมัยนั้นเป็นประธาน กลต และกรรมการกำกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีมติอนุมัติให้ธุรกิจแอลกอฮอล์ (Alcohol) เข้ากระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้ ดิฉันขออย่างเดียวค่ะ ขอให้รัฐบาลนี้ได้เป็นพ่อพระของคนจน ได้เป็นพ่อพระของเด็กและผู้หญิงสักครั้งหนึ่งค่ะ ปกป้องพระพุทธศาสนาสักครั้งหนึ่ง นั่นก็คือขอให้ยกเลิกมติ กลต ปี'๓๘ ยกเลิกทิ้งไป แล้วห้ามธุรกิจแอลกอฮอล์ (Alcohol) ธุรกิจอาบอบนวด ธุรกิจที่ผิดศีลธรรมจรรยาอบายมุขต่างๆ เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ๒๐ ล้านเสียงไม่พอหรอกค่ะ ถ้าทำได้ ๖๐ ล้านเสียงพร้อมเทให้ไทยรักไทย ดิฉันขอเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เลยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

* * อยู่ในบุญ แนะนำ/เกี่ยวข้อง * *

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล