ฉบับที่ ๓๑ ประจำเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๘

" เจ้าอาวาส วัดมหายานในญี่ปุ่น เลิกเหล้า "

 

สัมภาษณ์พิเศษ : ร.ลิ่วเฉลิมวงศ์
Email : [email protected]

             พระพุทธศาสนาเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่น โดยการเผยแผ่มาจากเกาหลีในราวปลายพุทธศตวรรษที่ ๑๐ สมัยพระเจ้าจักรพรรดิคิมเมอิ พุทธมหายานมุ่งเน้นให้ศาสนิกบำเพ็ญโพธิสัตวธรรม คือให้การช่วยเหลือเกื้อกูล เพื่อนร่วมโลกเท่าที่จะสามารถทำได้

             มหายานคิดว่า การเข้าถึงความหลุดพ้นเป็นจุดหมายสูงสุดในชีวิตที่มนุษย์ทุกคนควรดำเนินไปให้ถึง และไม่ควรทำกัน แบบตัวใคร ตัวมัน แต่ควรช่วยเหลือกันเพื่อการเข้าถึงความหลุดพ้นนั้น

             แต่ในคอลัมน์นี้ จะไม่ขอกล่าวถึงคำสอนหรือหลักศาสนา ที่ละเอียดอ่อนลุ่มลึกจนเกินไปนัก เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถหาอ่านได้จากตำรับตำราหลักคำสอนของศาสนาที่มีอยู่ทั่วไป

             แต่เราขอค้นลึกไปถึงเรื่องราวในมุมเล็กๆ ที่มีน้อยคนนัก..ที่จะรู้ ซึ่งอาจทำให้คุณพบกับความยิ่งใหญ่ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ วิถีชีวิตพระญี่ปุ่น ว่าท่านมีความเป็นอยู่กันอย่างไร ทำไม "พระ" จึงมีครอบครัวได้ ท่านมีความเชื่ออย่างไร และอะไรเป็นจุดที่ทำให้ท่านตัดสินใจหันมาสนใจศึกษาหลักคำสอนของพุทธเถรวาท และมาวัดพระธรรมกาย..??

             หากเดินทางไป ที่เมืองนางาโน ประเทศญี่ปุ่น ณ วัดโคลินจิ เราจะได้พบกับ ท่านเจ้าอาวาส โยชิกิ ฟูจิโมโต ซึ่งเป็นพระภิกษุที่ดูแลวัดมหายาน ที่มีความรื่นรมย์งดงามแห่งนี้...

             ทำไม ถึงมาเป็นเจ้าอาวาส..? วัดแห่งนี้มีการ ตกทอดต่อๆ กันมาอย่างไร..? หลายคำถามประดัง กันเข้ามาเมื่อเราได้มาพบตัวจริงที่เป็นท่าน...

            "ตำแหน่งเจ้าอาวาสนั้นถูกสืบทอดกันทางสายเลือด โดยลูกชายคนโตของบ้าน จะเป็น เจ้าอาวาสคนต่อไป ซึ่งวัดหนึ่งก็มักจะถูกผูกขาดโดยตระกูลใดตระกูลหนึ่ง แต่ถ้าครอบครัวนั้นไม่มีลูกชาย ก็จะให้ลูกเขยคนโตได้รับตำแหน่งนี้ไป "

             พระญี่ปุ่น สามารถแต่งงานมีครอบครัวมีลูกได้เพราะตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบทอดกัน ได้ทางสายเลือด โดยลูกเท่านั้น

             พระญี่ปุ่นไม่ต้องรักษาศีล ๒๒๗ ข้อ เหมือนภิกษุในเถรวาท ไม่ต้องบิณฑบาตอาหารทุกเช้า เพราะมีหลักปฏิบัติที่แตกต่างกัน

             " วิถีชีวิตของพระญี่ปุ่นที่นี่ มีวิถีการดำเนินชีวิตและสามารถปฏิบัติตัวได้เหมือนฆราวาส ทุกอย่างสามารถทำงานหลักเป็นนักธุรกิจ ทำงานออฟฟิศได้เหมือนฆราวาสทั่วไป แต่จะต่างกับฆราวาสตรงที่ว่า พระมีหน้าที่ทำพิธีทางศาสนา โดยก่อนจะประกอบพิธีทางพุทธศาสนาทุกครั้งต้องสวมชุดพระ และทุกคนจะให้เกียรติ ให้ความเคารพ ซึ่งใน ๑ วัด มักจะมีพระเพียง ๑ รูปเท่านั้น"

             เจ้าอาวาสจะมีหน้าที่เป็นผู้ดูแลวัด ที่ถูกตกทอดต่อๆ กันมารุ่นแล้วรุ่นเล่า สถานที่ที่เป็นวัด จะถูกแยกออกจากตัวบ้าน แต่บ้านก็มักจะตั้งอยู่ใกล้ๆ กับตัววัด เพื่อสะดวกในการดูแล ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของวัด

             "การเข้าวัดของคนญี่ปุ่น จะถือว่าเป็นหน้าที่ของแต่ละครอบครัวเลยก็ว่าได้ คือในแต่ละครอบครัว อย่างน้อยต้องมีคนใดคนหนึ่งที่เป็นตัวแทนในการเข้าวัด และมาร่วมงาน ทำบุญต่างๆ ของวัด"

             พระจะเป็นผู้ทำพิธีกรรมทางสงฆ์ เช่น การสวดศพ สวดครบรอบวันเสียชีวิตของคนในหมู่บ้าน ซึ่งในแต่ละครอบครัวจะกำหนดกันว่า จะเลือกวันใด เพื่อเรียนเชิญพระให้มาสวดให้พรที่บ้าน ซึ่งความถี่ในการมาสวด ขึ้นอยู่กับความรักและความกตัญญูที่มีต่อบรรพบุรุษ และขณะสวดให้พร คนในบ้านทุกคนก็จะพร้อมกันตั้งใจฟัง หลังจากสวดเสร็จก็จะมีการบริจาคทำบุญให้กับพระ จำนวนมากน้อยขึ้นกับฐานะแต่ละบ้าน

             "ชาวบ้านจะถูกจำกัดให้ทำบุญได้เฉพาะกับวัดของตัวเองเท่านั้น ซึ่งจะมีการแบ่งเขตพื้นที่ไว้แล้วว่า เขตไหนขึ้นอยู่กับวัดไหน เพื่อป้องกันการแย้งสาธุชนกันในแต่ละพื้นที่"

             นอกจากพระมีหน้าที่สวดเมื่อมีคนตายและยังต้องสวดให้พรในพิธีขึ้นบ้านใหม่ งานทำบุญประจำปีที่วัด และไปสวดให้พรตามบ้านตามที่เรียนเชิญอีกด้วย

             "หลังจากที่พระไปสวดตามบ้าน เมื่อสวดเสร็จจะต้องมีการถวายเหล้าสาเกให้พระด้วย เพื่อเป็นการตอบแทน และพระทุกรูปก็ต้องดื่ม เพราะหากไม่ดื่มจะถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติ ซึ่งคนญี่ปุ่นถือว่าเป็นเรื่องปกติ และเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผมต้องดื่มสาเกอยู่เป็นประจำ ดื่มจัดมากแถมกลับมาบ้านยังซดเบียร์แทนน้ำ อีกด้วย"

             การดื่มเหล้าสาเก เป็นธรรมเนียมและวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น ไปที่ไหนก็หาเหล้าสาเกได้ไม่ยากเลย ไม่ว่างานเฉลิมฉลองต่างๆ ก็ต้องมี เพราะชาวญี่ปุ่นถือว่าการดื่มสาเกเป็นการดื่มเพื่อสุขภาพ เพราะสาเกทำจากยอดข้าว

             "การดื่มสาเกจัดขนาดนี้ ทำให้ภรรยาของผมไม่สบายใจมาก เธอบอกผมว่าถ้าจะดื่มเพื่อ ต้องการประโยชน์จากยอดข้าว ก็ให้ผมกินยอดข้าวโดยตรงเลยดีกว่า เพราะเธอนับถือพุทธเถรวาท และมีโอกาสไปที่ศูนย์ฯ สาขาของวัดพระธรรมกายในประเทศญี่ปุ่น ได้ฟังคำสอนของพระเดชพระคุณ หลวงพ่อธัมมชโยผ่านทางจานดาวธรรม ทำให้กลัวมากว่า ผมจะต้องไปตกนรกขุม ๕ เพราะกรรมจาก การดื่มสาเก"

             เธอชวนให้ผมเลิกตั้งหลายครั้ง ด้วยเหตุผลสารพัด จนสุดท้ายเธอต้องบอกว่า

ภรรยาคุณโยชิกิ มีอาชีพเครื่องปั้นดินเผา จัดดอกไม้สไตล์ต่างๆ เพราะเธอมีความมรักในงานศิลปะมาก

            "เธอรักผมมากต้องขอร้องแบบนี้ ถ้าไม่ยอมเลิกเหล้า จริงๆ เธอก็ไม่เดือดร้อนอะไรเลย แต่เธอบอกว่าผม เป็นคนดีทุกเรื่องดีทุกอย่าง ไม่อยากให้คนดีๆ อย่างผม ต้องตกนรกเพราะ ดื่มเหล้า และถ้าผมยอมเลิกเหล้า เธอก็จะยอมเลิกนิสัยไม่ดีของตัวเอง เพราะก่อนนี้ เวลาทะเลาะกันทีไรด้วยเรื่องลูก เธอจะเป็นฝ่ายใช้พลังสตรี (หัวเราะ) คือมีการลงมือลงไม้เข้ามาประกอบด้วย..."

             นับแต่นั้นมา ทำให้คุณโยชิยอมเลิกดื่มสาเกโดยเด็ดขาด ทั้งๆ ที่ดื่มจัดมาตลอดชีวิต จนถึงอายุ ๕๐ กว่า และเริ่มหันมาศึกษาหลักคำสอนของพุทธเถรวาท จากรายการจานดาวธรรมที่ติดตั้งที่บ้าน โดยภรรยาคุณโยชิเป็นผู้ แนะนำ ทำให้คุณโยชิเข้าใจหลักคำสอนต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นเหตุทำให้ วัดมีการติดป้ายห้ามสูบบุหรี่ เอาที่เขี่ยบุหรี่ทั้งหมดออกจากวัด ทำป้ายว่าที่นี่เป็นเขตห้ามดื่มเหล้า และจะไม่มีการเสิร์ฟสาเกที่วัดนี้อีกไม่ว่ากรณีใดๆ

..ผมเลิกแล้ว เพื่อสุขภาพ และต้องขับรถ และถือโอกาสอธิบาย เรื่องศีล ๕ ให้เขาฟังด้วย..

             "ขณะที่ทำอย่างนี้ ผมต้องใช้กำลังใจสูงมาก ต้องสร้างความเข้าใจให้กับสาธุชนที่มาวัดด้วย เพราะการห้ามไม่ให้ดื่มสาเกมันเป็นเรื่องผิดปกติของที่นี่ แต่ผมก็ใช้วิธีการเทศน์สอนธรรมะโดยใช้หลักของศีล ๕ ให้กับสาธุชนที่มาวัด และ บอกว่า การดื่มเหล้า จะเป็นทางมาแห่งเหตุที่ทำให้ผิดศีลในข้ออื่นๆ ได้อีก ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็ยอมรับฟัง และเห็นว่าสิ่งที่ผมเทศน์สอนนั้นเป็นสิ่งดีงาม

             และในวันที่พระจากทุกวัดมาที่วัดของผม มาร่วมงานทำบุญวัด ผมต้องประกาศออกไปว่า พิธีในวันนี้ทางวัดเราจะไม่มีการเสิร์ฟสาเก โดยผมได้อธิบายเหตุผลต่างๆให้ทุกท่านฟัง"

             วัดของผมต้องปรับรูปแบบวัดใหม่ โดยการจัดสถานที่ให้ดูแปลกตา ให้สะอาดสะอ้าน ตกแต่งประดับประดาด้วยดอกไม้ที่ดูสวยงามเป็นพิเศษ มีการเสิร์ฟน้ำชาชั้นดี และขนมที่อร่อยๆอย่างดี แทนเหล้าสาแก ซึ่งสาธุชนส่วนใหญ่ ก็ประทับใจไปอีกแบบ โดยเฉพาะพวกแม่บ้านเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ที่วัดเรามีหลักคำสอนแบบนี้ เพราะว่าทำให้สามีของเขาไม่ต้องดื่มสาเกใน วันนั้นไปด้วย เวลากลับไปก็ไม่ไปอาละวาดที่ บ้านอีก"

             เวลาไปสวดทำพิธีตามบ้าน ถ้าเขาเสิร์ฟเหล้าสาเก คุณโยชิก็จะบอกว่า "ผมเลิกแล้ว เพื่อสุขภาพและต้องขับรถ" และได้ถือโอกาสอธิบายเรื่องศีล ๕ ให้เขาได้ฟังด้วย

            ทุกวันนี้ครอบครัวของคุณโยชิเปลี่ยนไป กลายเป็นครอบครัวที่อบอุ่นยิ่งขึ้นอีก ทุกคนในบ้านดูรายการธรรมะที่ถ่ายทอดจากเมืองไทยผ่านทางจานดาวธรรม แล้วนำไปปรับให้ ผสานกลมกลืน กับการดำเนินชีวิตจนพบความผาสุกของชีวิตที่เพิ่มขึ้น แล้วพากันเดินทางมาเยี่ยม วัดพระธรรมกายที่นี่ ซึ่งทุกคนบอกว่าประทับใจมากๆ และได้มากราบขอบ พระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ที่ท่านให้หลักคำสอน และทำให้คุณโยชิเลิกเหล้าได้ และยังได้นำสิ่งที่ถูกต้องดีงามนี้ไปพัฒนาวัด ของท่านเองอีกทั้งลูกชายทั้งสองคน เคยบวชให้กับคุณพ่อคุณแม่อีกด้วย

            ณ บัดนี้ ครอบครัวนี้ วัดโคลินจิแห่งนี้ แม้จะเป็นวัดมหายาน ที่ไม่ใหญ่นักในญี่ปุ่น แต่ก็ได้ทำสิ่ง ที่ยิ่งใหญ่ มีคุณค่า เป็นวัดมหายาน ยุคใหม่ ที่กล้า ทำในสิ่ง ดีงามและถูกต้อง เพื่อ ประโยชน์สุข ของชาวโลกอย่างแท้จริง

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล