" วันวิสาขบูชา" เป็นวันสำคัญสูงสุดของพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีในหมู่ชาวพุทธว่าเป็นวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน
ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมาพ้องตรงกันในวันเดียวอย่างน่าอัศจรรย์ และแม้แต่ประชาคมโลกโดยองค์การสห
ประชาชาติ ยังได้ประกาศยกย่องให้วันวิสาขบูชา เป็น" วันสำคัญสากลของโลก" อันสะท้อนถึงความสำคัญของมหาบุรุษเอก
ของโลก ผู้อุบัติขึ้นมาเพื่อนำประโยชน์ใหญ่มาสู่มวลมนุษยชาติ ด้วยคำสอนอันเป็นความรู้สากลที่เป็นไปเพื่อการพ้นทุกข์ของชาวโลก
ได้อย่างแท้จริง
มหาบุรุษผู้ยังประโยชน์ใหญ่ให้แก่โลก
"เมื่อเราข้ามพ้นจากวัฏสงสารได้แล้ว ขอให้เราพึงนำสัตว์ทั้งหลายข้ามพ้นจากทะเลแห่ง วัฏสงสารด้วยเถิด"
นี่คือมโนปณิธานอันยิ่งใหญ่ของพระสัมมา สัมพุทธเจ้า ในพระชาติที่ทรงเกิดเป็นมานพหนุ่ม ที่ต้องประสบภัยเรืออับปาง
กลางทะเล ทำให้ท่านต้อง แบกมารดาไว้บนบ่าและแหวกว่ายอยู่ในทะเลอันกว้างใหญ่ ตลอดทั้งวันทั้งคืน เหน็ดเหนื่อยเจียนตาย จึงเกิดความคิดขึ้นว่า "วัฏสงสารนั้นเป็นทุกข์หนักหนาชีวิตของมนุษย์ก็เปรียบเหมือนกับแหวกว่ายอยู่ในทะเลแห่งความทุกข์"ดังนั้น ท่านจึงตั้ง
ความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ว่า เมื่อตนเองข้ามพ้นจาก วัฏสงสารได้แล้ว จะขอนำสรรพสัตว์ข้ามพ้นจากทะเลแห่งวัฏสงสารตามไปด้วย
กระทั่งอีก ๒๐ อสงไขย กับแสนมหากัป ต่อมาความปรารถนานี้จึงเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ ในคืน วันเพ็ญเดือน ๖ เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ บรมโพธิสัตว์ ทรงบรรลุพระสัพพัญญุตญาณ ณ ใต้ต้นอัสสัตถพฤกษ์ สามารถกำจัดตัณหา อันเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวงได้โดยสิ้นเชิง ดังที่ทรงเปล่งอุทานหลังการตรัสรู้ธรรมว่า
"เราเมื่อแสวงหานายช่าง คือ ตัณหา ผู้กระทำเรือน เมื่อไม่ประสบ ได้ท่องเที่ยวไปยังสังสารมิใช่น้อย การเกิดบ่อยๆ เป็นทุกข์ ดูก่อน
นายช่างผู้กระทำเรือน เราเห็นท่านแล้ว ท่านจักทำเรือนไม่ได้อีกต่อไป ซี่โครงทั้งปวงของท่าน เราหักแล้ว ยอดเรือนเรากำจัดแล้ว
จิตของเราถึงวิสังสาร คือ นิพพานแล้ว เราได้ถึงความสิ้นตัณหาแล้ว"
ดังนั้น การบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงเป็นการเกิดขึ้นของเอกบุรุษผู้นำประโยชน์ใหญ่ คือ"วิธีการกำจัดทุกข์"
มามอบให้แก่มวลมนุษยชาติ เพราะมนุษย์ทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเกิดมามีเชื้อชาติ
|