ธรรมะอินเทรนด์
เรื่อง : ชนนี e-mail: [email protected]
เรื่องใหญ่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ในชีวิตประจำวัน คงหนีไม่พ้น เรื่องปัจจัย ๔ คือ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัยและยารักษาโรค วันนี้จะขอพูดถึงเรื่องการแต่งกาย ซึ่งเป็นเรื่องหนึ่งที่มนุษย์เราให้ความสำคัญกันมาก จนกระทั่งเกิดเป็นแฟชั่นออกมาหลากหลาย ทั้งทรงผม เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ฯลฯ
ในช่วงนี้ ข่าวเด่น ประเด็นฮอต ที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ในสังคมเรื่องหนึ่งก็คือ การแต่งกายล่อแหลมของเด็กสาวๆ ซึ่งเลียนแบบมาจากดาราต่างประเทศ
ถ้าจะพูดกันถึงเรื่องนี้ ก็คงมองได้หลายมุม มุมแรกคือมุมของเด็ก พวกเขาก็มีเหตุผลว่า เพื่อนๆ ก็แต่งแบบนี้กันเยอะแยะ ไม่งั้นตกเทรนด์แต่ถ้ามอง ในมุมของพ่อแม่ ก็ต้องขอบอกว่า หัวใจแทบจะวายอยู่แล้วกับแฟชั่นแบบนี้ ส่วนมุมมองของบุคคล
ที่สาม สี่ ห้า หก...... ก็แตกต่างกันไปแล้วแต่ภูมิหลัง
สำหรับในทางพระพุทธศาสนา การแต่งกายทำนองนี้ เข้าข่าย"นุ่งชั่ว ห่มชั่ว" นุ่งชั่ว คือ การนุ่งที่ชายผ้าสูงเกินกว่าครึ่งหน้าแข้ง ห่มชั่ว คือ การที่ห่มข้างบนแล้วเปิดไหล่ให้เห็นทั้ง ๒ ข้าง
การเลียนแบบแฟชั่นโดยไม่ได้พิจารณาความควร ไม่ควร ในกรณีนี้เป็นเพราะส่วนหนึ่งขาดความเข้าใจในวั
ตถุประสงค์ของการนุ่งห่มเสื้อผ้า ว่า ที่แท้จริงเป็นไปเพื่อบำบัดความร้อนหนาว เพื่อกันแดด กันลม กันฝน กันสัตว์ทั้งหลายมา ไต่ตอม และเพื่อปกปิดอวัยวะที่น่าละอาย
นอกจากนี้ ยังเป็นเพราะขาดคุณธรรม เรื่อง หิริ โอตตัปปะ คือ ความละอาย และความกลัวต่อบาป
หิริ แปลว่า ความละอายแก่ใจ หิริจะเกิดขึ้นได้ด้วยการคิดถึงการศึกษา ฐานะ ยศศักดิ์ ชาติตระกูลของตน ทำให้เกิดความละอายไม่กล้าทำบาป
โอตตัปปะ แปลว่า ความเกรงกลัว หมายถึง สะดุ้งกลัวต่อผลของบาป โอตตัปปะ จะเกิดขึ้นได้เพราะคิดถึงโทษหรือทุกข์ ที่เกิดจากการทำบาป เช่น ทำให้ตนเองต้องเดือดร้อน ถูกตำหนิติเตียน ถูกสังคมรังเกียจ เป็นต้น
แต่ก่อนที่หิริ โอตตัปปะ จะเกิดขึ้นได้ ก็ต้อง มีสัมมาทิฐิก่อน ต้องรักบุญกลัวบาปก่อน ซึ่งทั้งสัมมาทิฐิ และความเข้าใจวัตถุประสงค์ที่แท้จริง ในการนุ่งห่มเสื้อผ้านี้ เป็นเรื่องที่พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์ ควรปลูกฝังให้เกิดขึ้นในใจของเด็กซึ่งเมื่อเด็กโตขึ้น การทำตามแฟชั่นอย่างไม่ลืมหูลืมตาจะไม่เกิดขึ้น
ถ้าจะถามว่า การแต่งกาย เกี่ยวอะไรกับเรื่องบาป ก็ต้องตอบว่า มันเป็นการยั่วยุทางเพศ ทำให้คนใจขุ่นมัว และจะทำให้เกิดอันตรายขึ้นได้ แม้บางครั้งตัวคนที่แต่งกายล่อแหลมอาจไม่ได้รับอันตรายใดๆ เพราะอยู่ในสถานการณ์ที่ปลอดภัย แต่อันตรายอาจไปตกกับผู้หญิงคนอื่นโดยมีจุดเริ่มมาจากการแต่งกายยั่วยุของคนที่แต่งตัวโป๊ และเหตุการณ์เหล่านี้เคยเกิดขึ้นมาจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้วซึ่งเท่ากับผู้แต่งตัวโป๊ มีส่วนยั่วยุให้คนอื่นทำบาปกรรม และมีส่วนในการสร้างความทุกข์ให้กับผู้หญิงด้วยกันอย่างแสนสาหัส
ที่จริงการแต่งตัวตามเทรนด์บ้างก็เป็นเรื่องที่ไม่แปลกอะไร แต่ว่าควรจะยึดหลักทางสายกลางที่ี่พอเหมาะพอดีกับวัฒนธรรมของเรา โดยไม่ต้องวิ่งตามแฟชั่นจนเกินไป เพราะเสื้อผ้าบางเทรนด์ใส่แล้ว แทนที่จะดูดี กลับปิดบังความงามไปจนหมดสิ้น แต่เปิดเผยส่วนที่น่าเกลียดออกมา
กาลเทศะก็เป็นเรื่องที่ควรคำนึง ในสถานที่สำคัญๆ หลายแห่ง มีข้อห้ามไม่ให้ผู้หญิงนุ่งกางเกงเข้าไป หรือห้ามใส่รองเท้าแตะ เป็นต้น แม้ในประเทศสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดี จอร์จ บุช ยังออกมาตรการ "No flipflops! No jeans! in White House" คือ ใครจะเข้าเยี่ยมทำเนียบขาว ห้ามใส่รองเท้าแตะ หรือกางเกงยีนส์
การแต่งตัวตามเทรนด์หรือล้ำเทรนด์ ไม่ใช่ว่าจะได้เกิดเสมอไป ดับมาก็เยอะแล้ว คนดังบางคน ไม่เคยตามเทรนด์เลยจะใส่เฉพาะสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองเท่านั้น ซึ่งจะทำให้รู้สึกมั่นใจ ดูดีมีสไตล์ และอยู่เหนือคำว่าแฟชั่น ดังคำพูดที่ว่า"คนบางคนปรับตัวเองตามโลก แต่คน บางคนปรับโลกให้เข้ากับตัวเองและโลกก็หมุนได้ด้วยคนประเภทหลัง