ฝันในฝัน
เรื่อง : หัวหน้าชั้น วินิช พันธุ์วิริยรัตน์ [email protected] คอลัมน์นี้เฉพาะนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาเท่านั้น
Case Study กรณีศึกษา
ความผูกพัน
(๑๗ มิถุนายน ๒๕๔๗)
กราบแทบเท้าคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพอย่างสูงสุด
คุณแม่มีบุตรทั้งหมด ๑๔ คน เสียชีวิตตั้งแต่เด็ก ๓ คน คุณแม่เล่าว่า ท่านเคยเสียชีวิตและฟื้นขึ้นมาใหม่ในขณะที่ท่านกำลังอยู่ไฟลูกคนที่เสียชีวิตไปตั้งแต่เด็ก โดยคุณแม่หยุดหายใจไปตั้งแต่เวลาประมาณ ๐๗.๑๕ น. ถึงเวลาประมาณ ๑๕.๓๐ น. ญาติพี่น้องได้เตรียมบ้านน้อยไว้ให้ท่านแล้ว คุณแม่เล่าว่าในตอนนั้นมีคนมารับ คุณแม่ก็ตามไปจนถึงโรงพิพากษาซึ่งฟังดูแล้วเหมือนกับเรื่องราวในยมโลกที่คุณครูไม่ใหญ่เล่าและวาดมาให้ดูเลยค่ะ แต่คุณแม่บอกว่า ก่อนกลับมามีผู้ให้คาถามาด้วย ๑ บท สำหรับเอาไว้ช่วยคน ซึ่งบอกใครไม่ได้ถ้าบอกแล้วตัวเองจะต้องตาย แม้พี่ชายพยายามขอ คุณแม่ก็บอกไม่ได้ จนปัจจุบันก็ไม่มีใครทราบคาถาเลยค่ะ และจะมีคนมาหาคุณแม่บ่อย ๆ เพื่อให้ช่วยรักษา เช่น พ่นสุนัขโดยเคี้ยวหมากท่องคาถาพ่นไปที่แผลที่สุนัขกัดหรือท่องคาถาให้สุนัขตายก็ได้ ถ้าสุนัขดุและกัดคนมามาก แต่คุณแม่กลัวบาปจึงไม่ค่อยทำ, กวาดคอเด็ก, พ่นฝี, ใช้ข้าวสารเสกและหว่านไล่ผี, เรียกขวัญ โดยมีบทท่องและอื่น ๆ อีกมากมาย มีคนมาพึ่งพาคุณแม่เป็นประจำค่ะ
คุณแม่เป็นลมวูบบ่อย ๆ และเมื่อรู้สึกตัวมาจะบอกว่า เห็นแม่ชีกับพระมารับไปอยู่ด้วย บางครั้งคุณแม่เห็นองค์พระสีทององค์ใหญ่มาหมุนรอบตัวเองขณะที่หมดสติไป คุณแม่ล้มบ่อยถึง ๑๑ ครั้ง และเดินไม่ได้ก่อนถึงวัยชราคุณแม่เหมือนกับรู้ว่าจะอยู่ได้อีกไม่นาน เมื่อคุณแม่ใกล้จะเสียชีวิต พี่ ๆ เล่าให้ฟังว่า คุณแม่สั่งให้ทุกคนนั่งสมาธิรอบ ๆ ตัวท่านและโบกมือไม่ให้ใครมาแตะตัวท่าน แต่พี่สาวที่ดูแลคุณแม่เป็นประจำร้องไห้และบอกทุกคนว่า คุณยายที่เสียชีวิตแล้วจะมารับและดูแลคุณแม่เอง ห้ามใครมายุ่ง คุณแม่รำพึงก่อนเสียชีวิตว่า “เสียท่าเขาเสียแล้ว” และก็เงียบไปแบบสงบ รวมอายุ ๘๔ ปี ๗ เดือนค่ะ
ในบั้นปลายของชีวิต คุณแม่ได้มาอยู่ธุดงค์กลั่นแผ่นดินในปี พ.ศ. ๒๕๓๘ ได้สร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว ได้ร่วมบุญหล่อรูปเหมือนหลวงปู่ ทั้งทำเองและบอกบุญคนอื่นด้วย และทำบุญอื่นทุก ๆ บุญ งานบุญสุดท้ายที่ทำก็คือ สร้างหอฉัน โดยท่านฝากลูกมาทำบุญในวันอาทิตย์ที่ ๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๖และวันรุ่งขึ้นคุณแม่ก็ถึงแก่กรรม
ลูกเป็นบุตรคนที่ ๘ ของคุณพ่อคุณแม่รู้จักวัดและมาวัดครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๓ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ลูกได้มาร่วมบุญกับหมู่คณะอย่างต่อเนื่องทุกบุญมิได้ขาด พร้อมทั้งทำหน้าที่กัลยาณมิตรมาตลอดเช่นกัน ปัจจุบันลูกและสามีประพฤติพรหมจรรย์ รักษาศีล ๘ทุกวัน เพราะลูกอยากไปดุสิตบุรี วงบุญพิเศษกับหมู่คณะไปทุกชาติ จนกว่าจะถึงที่สุดแห่งธรรมค่ะ
ลูกสาวของลูกเข้าวัดตั้งแต่อายุ ๕-๖ ขวบ มิได้ขาดเลยแม้สัปดาห์เดียวจนปัจจุบัน เธอชอบงานอาสาสมัครมากค่ะ ปีนี้เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ และมีความตั้งใจที่จะเรียนจนจบปริญญาโทและออกมาเป็นอุบาสิกาที่วัดค่ะ
หลังจากส่งคำถามไปกราบเรียนถาม
คุณครูไม่ใหญ่แล้ว ก็มีคำตอบจากโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ดังนี้
๑. จริง ๆ แล้วขณะที่คุณแม่อยู่ไฟท่านไม่ได้ตาย เพียงแต่ช็อกหมดสติไป
๒. ที่เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่มารับเป็นเพียงความฝันเท่านั้น ท่านไม่ได้ไปจริง ๆ แต่อย่างใด
๓. การที่คุณแม่ช่วยเหลือรักษาคนเป็นการช่วยเหลือรักษาแบบพื้นบ้าน หายบ้างไม่หายบ้าง ก็ถือว่าเป็นกำลังใจในการช่วยเหลือรักษากันไป
๔. ก่อนตาย คุณแม่เห็นญาติที่ตายไปแล้วมารอรับและจะพาไปอยู่ด้วย ท่านจึงสั่งให้ลูก ๆ นั่งสมาธิล้อมไว้และไม่ให้ใครแตะตัว
๕. คุณยายที่เสียชีวิตไปแล้วมารับตัวไปจริง
๖. ที่คุณแม่ไม่ให้คนแตะตัวเพราะกลัวจะมีใครมาฉุดตัวไป คุณแม่ยังไม่อยากไป ซึ่งวิธีการนี้ก็เป็นเคล็ดวิชาอย่างหนึ่ง
๗. คุณแม่ตายแล้วไปเกิดเป็นภุมเทวดาสายวิทยาธร ไปเรียนรู้เรื่องมนต์ต่าง ๆ ต่ออีกตามความชอบของท่าน
๘. ที่คุณแม่หกล้มบ่อย ๆ ถึง ๑๑ ครั้ง เป็นเพราะวัยที่มากขึ้น คนแก่แล้วเลือดน้อยจึงทำให้เป็นลมบ่อยและเป็นเพราะเศษกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหาร
๙. สิ่งที่คุณแม่เห็นในขณะเป็นลมหมดสติ เป็นเพราะความคุ้นเคยของท่าน
๑๐. ตัวลูก สามี และลูกสาว เคยสร้างบารมีด้วยกันมา ในอดีตชาติเคยเป็นสามีภรรยากันมาและเป็นครอบครัวนักสร้างบารมี
๑๑. คุณพ่อสามีเป็นอัมพฤกษ์ ๒ เดือนแล้วเสียชีวิต เป็นเพราะกรรมเกิดในสังคมเกษตรกรรมเลี้ยงสัตว์ไว้ฆ่า
๑๒. ตายแล้วไปอยู่หมู่บ้านภุมเทวดาแห่งหนึ่ง
๑๓. ลูกสาวเคยสร้างบารมีมามากพอในการที่จะรักษาศีล ๘ ประพฤติพรหมจรรย์ได้ให้ลูกประคับประคองให้ดี
๑๔. ให้ลูกปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงพระธรรมกายและอธิษฐานจิตอย่างต่อเนื่องก็จะสามารถเกิดเป็นผู้ชาย ได้บวชตั้งแต่เด็กจนหมดสิ้นอายุขัยตามความปรารถนา
บทสัมภาษณ์จากเจ้าของเคส
ฝันในฝันบอกเรื่องราวได้ชัดเจน บางอย่างไม่ได้เขียนเล่าไป เช่น คุณพ่อสามีเป็นอัมพฤกษ์แล้วเสียชีวิต เกิดจากวิบากกรรมเลี้ยงสัตว์เอาไว้ฆ่า ตั้งแต่แต่งงานกับสามี บ้านสามีก็ไม่ได้ทำกิจการอะไรแล้ว เลยต้องถามสามี สามีก็บอกว่า เคยเลี้ยงหมู เลี้ยงมากด้วย ในภาพก็เป็นภาพหมูฝันในฝันรู้ได้อย่างไร ? อีกเรื่องที่ไม่ได้ถาม คือเรื่องของคุณแม่ คำตอบมีมาว่า ไม่ได้ผูกพันกับใครสักคน แถมไปเรียนวิชาวิทยาธรต่อ อุทิศบุญไปให้ก็เอาบุญนี้ไปเรียนวิชาวิทยาธร แปลกใจมาก ๆ ก่อนคุณแม่จะเสียคุณยายจะมาเข้าสิงพี่สาวบ่อย ๆ แล้วบอกว่า เดี๋ยวเขาจะเอาคุณแม่ไปดูแลเอง เรื่องคาถาอาคมเราไม่ทันเห็นของคุณยาย แต่เห็นของคุณแม่ซึ่งท่านไปเรียนมาตั้งแต่เมื่อไรไม่ทราบ
ส่วนเรื่องของลูกสาวฟังฝันในฝันแล้วก็อุ่นใจว่าเขาทำของเขามาพอสมควร ส่วนเราก็ปลูกฝังเรื่องธรรมะให้เขาตั้งแต่ยังเยาว์ อยากให้เขามีที่พึ่ง เพราะไม่ทราบว่าจะจากเขาไปเมื่อไร สอนให้เขาเคารพรักหลวงปู่หลวงพ่อ คุณยาย เขาเรียนด้วย รักบุญด้วย มาเป็นอาสาสมัครที่วัดศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ วันหยุดมาวัด ไม่ไปเรียนพิเศษอะไร อยู่บ้านก็ให้ดู DMC การเรียนเขาก็ไม่ตก เรียนดีมาก มีงานบุญเมื่อไร พ่อแม่จะพาลูกเข้าวัดเสมอบุญในตัวลูกจะได้เพิ่มขึ้น ๆ
ฝากข้อคิดเรื่องของ “ความผูกพัน” ก่อนเสียชีวิตคุณแม่ชอบใส่บาตรตั้งแต่เรายังไม่เข้าโรงเรียน, ได้ทำบุญกับวัดพระธรรมกายไม่น้อย ตั้งแต่การสร้างองค์พระประจำตัว, สร้างสภาธรรมกายสากล, ทำบุญกับหลวงปู่ คุณยายอาจารย์ฯ แต่เพราะคุณแม่ผูกพันกับวิชาวิทยาธร ตายไปก็เรียนวิชาต่อ ทำให้บุญส่งผลไม่เต็มที่ และไม่รู้ว่าเมื่อไรจะหลุดจากวงจรนี้ดังนั้นเราควรจะผูกพันกับพระรัตนตรัย มหาปูชนียาจารย์ ผูกพันกับบุญกุศล ชีวิตจะได้ปลอดภัยในสังสารวัฏค่ะ ซาบซึ้งใจที่คุณครูไม่ใหญ่เมตตาลูกๆ ทำให้ทราบเป้าหมายชีวิตที่แท้จริง จะทุ่มแรงกายแรงใจสติปัญญาทั้งหมดของชีวิตสร้างบารมีกับหมู่คณะ และขอติดตามคุณครูไม่ใหญ่ไปจนถึงที่สุดแห่งธรรม (ปัจจุบันลูกสาวเป็นอุบาสิกา เจ้าหน้าที่เขตใน, อดีตสามีบวชเป็นพระอยู่ที่วัดพระธรรมกาย ๗ พรรษา)