หลวงพ่อเจ้าคะ ลูกเคยชวนญาติมาทำบุญด้วยกันที่วัด แต่เขาไม่ยอมมาค่ะ ได้แต่ฝากปัจจัยมาทำบุญด้วยทุกครั้ง เพราะเขาคิดเอาเองว่า ถึงตัวเขาจะมาหรือไม่มา เขาก็ได้บุญอยู่แล้ว เพราะเงินนั้นเป็นเงินของเขา ลูกจะอธิบายให้ญาติเข้าใจได้อย่างไรเจ้าคะ?
ความจริงการที่ฝากเงินใครไปทำบุญ ถามว่าได้บุญไหม ความจริงก็ได้บุญ แต่ว่าได้เต็มที่หรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
การที่ฝากเงินใครไปทำบุญ บุญเกิดขึ้นหรือไม่เกิด แต่จะเกิดมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ ดังนี้
๑. วัตถุบริสุทธิ์ ของที่เขาเอามาทำบุญหรือเงินนั้น เป็นเงินที่ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรง หรือเงินที่บริสุทธิ์นั่นเอง
๒. เจตนาบริสุทธิ์ เขามีเจตนาต้องการจะทำบุญจริงๆ โดยไม่มีอย่างอื่นแอบแฝง
๓. ผู้ให้บริสุทธิ์ ผู้ให้ก็เป็นคนมีศีล
๔. ผู้รับบริสุทธิ์ พระที่รับปัจจัยไทยธรรมที่เขาทำมา ก็ตั้งใจอยู่ในศีลในธรรมวินัยอย่างดี
ตกลง ๔ องค์ประกอบพร้อมแล้วก็ถือว่า ได้บุญ ตรงนี้ชัดเจนลงไปก่อน แต่ว่าบุญที่เกิดขึ้นนั้นมันเป็นระยะๆ ตั้งแต่
๑. เกิดเมื่อตอนคิดจะทำบุญ เพียงแค่คิด บุญก็เกิดแล้ว แต่เกิดไม่มาก
๒. เกิดเมื่อลงมือหรือกำลังทำบุญ
๓. เกิดเมื่อตอนตามระลึกถึงบุญที่เคยทำมา
พูดง่ายๆ ว่า เวลาเราทำบุญนั้น ไม่ใช่มันเกิดปุ๊บ หรือแวบเดียวเหมือนสายฟ้าแลบ แต่บุญจะไหลต่อเนื่องกันไป เหมือนอย่างกับสายน้ำ
วันนี้ เราเองก็มีปัจจัย มีเงินทอง และมีพระที่ตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างดีมาเป็นเนื้อนาบุญให้ องค์ประกอบการทำบุญครบแล้ว เลยฝากปัจจัยคุณมาทำบุญ ถามว่าได้บุญไหม ได้บุญ แต่เนื่องจากเขาไม่ได้มาทำบุญด้วยตัวเอง เลยไม่ได้เห็นพระ ความปลื้มใจขณะทำก็เลยหย่อนไป
เพราะฉะนั้น บุญเลยเกิดแป๊บหนึ่งตอนส่งปัจจัยให้คุณมาทำบุญแทน เหมือนกับสายฟ้าแลบ แล้วจากนั้นก็ไม่ได้ภาพแห่งการทำบุญประทับอยู่ในใจ นึกภาพของพระก็ไม่ออก นึกภาพว่าเอาปัจจัยนั้นไปทำอะไรก็นึกไม่ออก
แต่ถ้าเขามาทำบุญด้วยตัวเอง ตั้งแต่ออกจากบ้านมา ใจก็นึกว่า จะมาทำบุญ ใจเขาเป็นบุญเป็นกุศลตลอดระยะทางจากบ้านมาถึงวัด บุญก็ยังเกิดต่อเนื่องไหลเป็นสาย
พอถึงเวลาก็ถวายปัจจัยด้วยมือตัวเอง พระรูปนี้ พระกลุ่มนี้ พระวัดนี้ ช่างมีจริยวัตรงดงามดีเหลือเกิน ทั้งหมู่ ทั้งคณะ ทั้งวัด งามพร้อมกันหมดทั้งวัดเลย แถมท่านยังเทศน์ให้ฟังเสียอีก ประทับอยู่ในใจนานดี
ยิ่งกว่านั้น วันหลังกลับมาเยี่ยม ก็นึกออกว่า วันนั้น เรามาทำบุญสร้างสิ่งนี้ เช่น
มาสร้างอาคารของพระภิกษุสามเณร พอเห็นปุ๊บ บุญต่อเนื่องเกิดขึ้นใหม่อีกแล้ว จากบุญที่เราเคยทำครั้งนั้น
แต่ถ้าตัวเองแค่ฝากเขามาทำบุญ บุญที่จะไหลกันเป็นสายต่อเนื่องไม่มีหรอก มีแค่ แวบเดียวเหมือนสายฟ้าแลบ เลยน่าเสียดาย เพราะฉะนั้นวันหลังเวลาใครจะฝากเงินมาทำบุญ ถ้าดูแล้วเขาก็พอมีเวลาว่างละก็ คว้าข้อมือดึงขึ้นรถมาเลย ให้มาทำบุญด้วยตัวเอง เขาจะได้บุญตั้งแต่คิดจะลงมือทำและเมื่อตามระลึกถึงบุญนั้น ไม่อย่างนั้นก็ได้บุญเหมือนน้ำค้างไม่กี่หยด
แต่ถ้าเขาไม่ว่างจริงๆ ถ้าอย่างนั้นก็รับเงินมาทำแทนเขา แล้วถ้าจะให้ดี ถ่ายภาพ อัดเสียงที่พระให้พร ภาพที่ท่านรับปัจจัย เอาไปให้เขาดู ก็พอไปได้นะคุณโยม ได้บุญเพิ่มขึ้น อีกหน่อย ถึงกระนั้นก็ยังไม่เท่ากับที่มาทำบุญด้วยตัวเองหรอก