เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนา พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)
ในพระชาติที่สำคัญอีกพระชาติหนึ่ง พระโพธิสัตว์ได้จุติจากเทวโลก มาบังเกิดในตระกูลพราหมณ์มหาศาล ชื่อว่า พรหมกุมาร
|
เรามาศึกษาพุทธประวัติอีกพระชาติหนึ่งเป็นพระชาติแรกที่พระโพธิสัตว์เปล่งวาจาว่า จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระโพธิสัตว์ได้จุติจากเทวโลกมาบังเกิดในตระกูลพราหมณ์มหาศาลชื่อว่า พรหมกุมาร ท่านได้ศึกษาไตรเพทจนสำเร็จ และได้มาเป็นอาจารย์สอนไตรเพทให้แก่ลูกศิษย์ ๕๐๐ คน
|
|
พระโพธิสัตว์ได้ศึกษาไตรเพทจนสำเร็จ
และได้มาเป็นอาจารย์ไตรเพทแก่ลูกศิษย์ ๕๐๐ คน
|
เมื่อมารดาและบิดาของพระโพธิสัตว์สิ้นชีพแล้ว พระโพธิสัตว์จึงเรียกประชุมลูกศิษย์ทั้ง ๕๐๐ คน ให้โอวาทถึงเรื่องความไม่ประมาทในชีวิต จากนั้นจึงประกาศตนว่าจะออกบวช เพื่อแสวงหาทางพ้นทุกข์
|
|
|
พร้อมกับแบ่งสมบัติทั้งหมดของตนให้กับลกศิษย์ทั้งหมด
|
พระโพธิสัตว์ได้ออกบวชเป็นพระดาบส บำเพ็ญพรตอยู่ใกล้ภูเขาบัณฑระ ส่วนลูกศิษย์ทั้ง ๕๐๐ คน เมื่อมารดาและบิดาของตนสิ้นชีพแล้ว ก็ออกบวชตามพระโพธิสัตว์ บำเพ็ญพรตอย่างเคร่งครัดเสมอมา
|
เมื่อมารดาบิดาของพระโพธิสัตว์สิ้นชีพลง พระโพธิสัตว์จึงได้เรียกลูกศิษย์ทั้ง ๕๐๐ คน ให้มาประชุมพร้อมหน้ากัน ให้โอวาทว่า เธอควรดำเนินชีวิตโดยความไม่ประมาท ให้เชื่อเรื่อง กฎแห่งกรรมว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว แล้วก็ประกาศว่า เราสอนศิลปวิทยาแก่เธอจนหมดแล้ว เธอก็เอาตัวรอดได้แล้ว ต่อจากนี้ไปเราจะออกบวช เพื่อแสวงหาทางพ้นทุกข์
พระโพธิสัตว์จึงได้นำทรัพย์สมบัติทั้งหมดของตนมาแบ่งเป็น ๕๐๐ ส่วน มอบให้แก่ลูกศิษย์ทั้ง ๕๐๐ คน เพราะว่าหมดความจำเป็นในการใช้ทรัพย์แล้ว อิ่มแล้วกับชีวิตของฆราวาส พระโพธิสัตว์จึงออกบวชเป็นพระดาบส บำเพ็ญพรตอยู่ใกล้ภูเขาบัณฑระ
เหล่าลูกศิษย์ทั้ง ๕๐๐ คน เมื่อมารดาบิดาของตนสิ้นชีพแล้ว ก็ได้ออกบวชตามพระโพธิสัตว์ เพราะเกิดความเบื่อหน่ายในชีวิตฆราวาส
|
|
อยู่มาวันหนึ่ง พระโพธิสัตว์พร้อมกับลูกศิษย์คนหนึ่ง
|
ในขณะที่หาผลไม้อยู่นั้น พระโพธิสัตว์มองลงไปที่เชิงเขาแห่งหนึ่งเห็น แม่เสือตัวหนึ่ง พร้อมกับลูกน้อยที่พึ่งเกิดมาได้ไม่นาน แม่เสือตัวนั้นมีร่างกายที่ผอมโซ เนื่องจากอดอาหารมา หลายวัน ถูกความหิวกระหายคุกคามอย่างแรง
|
|
|
แม่เสือมองลูกน้อยของตนด้วยจิตที่โหดร้าย โดยคิดว่า จะจับลูกของตนเคี้ยวกินเป็นอาหาร
|
พระโพธิสัตว์เห็นอาการของแม่เสือนั้นแล้ว ก็รู้ว่าแม่เสือนั้นจะกินลูกของตนอย่างแน่นอน จึงรำพึงว่า โอหนอ! นี่หรือชีวิตของสัตวโลก แม่เสือตัวนี้จักเคี้ยวกินลูกในไส้ของตนเอง เพื่อรักษาชีวิตของตนเพียงฝ่ายเดียว
|
อยู่มาวันหนึ่ง พระโพธิสัตว์พร้อมกับลูกศิษย์คนหนึ่ง เดินขึ้นไปบนยอดเขาบัณฑระเพื่อหาผลไม้บริโภค ขณะที่กำลังหาผลไม้อยู่นั้น พระโพธิสัตว์มองลงไปที่เชิงเขา เห็นแม่เสือตัวหนึ่ง พร้อมกับลูกน้อยที่เพิ่งจะเกิดมาได้ไม่นาน แม่เสือ ตัวนั้นมีร่างกายผอมโซ เนื่องจากอดอาหารมาหลายวัน ถูกความหิวกระหายคุกคามอย่างรุนแรง เมื่อมองไปรอบทิศก็ไม่เห็นมีอะไรจะกินได้ จึงได้หันมามองลูกน้อยของตัว ด้วยจิตที่โหดร้าย โดยมีความคิดตามประสาสัตว์ดุร้ายว่า เราจะจับลูกของเรามาเคี้ยวกินเป็นอาหาร เรื่องทั้งหมดนั้นอยู่ในสายตาของพระโพธิสัตว์
พระโพธิสัตว์เห็นอาการของแม่เสือตัวนั้น รู้ได้ทันทีว่า แม่เสือตัวนี้ กำลังจะกินลูกของตนอย่างแน่นอน จึงรำพึงขึ้นว่า นี่หรือชีวิตของ สัตวโลก แม่เสือตัวนี้กำลังจะเคี้ยวกินลูกในไส้ของ ตัวเอง เพื่อรักษาชีวิตของตนเพียงฝ่ายเดียว วัฏสงสารนี้เต็มไปด้วยทุกข์และภยันตราย ช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก เราจะต้องออกจากคุก คือ สังสารวัฏนี้ให้ได้
|
|
วัฏสงสารนี้เต็มไปด้วยทุกข์ และภยันตราย ช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก
|
พระโพธิสัตว์จึงให้ลูกศิษย์ของตน ไปหาเศษเนื้อที่ราชสีห์ หรือเสือกินเหลือมาให้ตนด่วน ท่านรอลูกศิษย์ ไปหาเศษเนื้ออยู่นาน ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมาสักที้
|
|
|
พลันคิดขึ้นมาว่า ร่างกายของเรานี้เป็นร่างกาย ที่ปราศจาก แก่นสาร ยังเกลือกกลั้วด้วยบาปอกุศล ที่หมักดองใจมานาน แสนนานมิใช่น้อย และร่างกายนี้เองเป็นเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวง
เถิด"
|
จึงคิดต่อไปอีกว่า จะมีวิธีใดที่สามารถปลดเปลื้อง จากความทุกข์นั้นได้ จึงทราบชัดว่า มีแต่เพียงบารมีธรรมซึ่งเป็นธรรม ที่ทำให้บริสุทธิ์ หลุดพ้นเท่านั้น ที่จะช่วยสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ได้ เมื่อพระโพธิสัตว์รู้วิธีพ้นทุกข์แล้ว จึงคิดต่อไปอีกว่า การบำเพ็ญบารมี ๓๐ ทัศ นี้เป็นสิ่งที่ทำได้โดยยาก
|
พระโพธิสัตว์จึงสั่งให้ลูกศิษย์ของตนไปหาเศษเนื้อที่ราชสีห์กินเหลือ เอามาให้ตนโดยด่วน ลูกศิษย์นั้นก็รีบไปหาเศษเนื้อตามที่พระโพธิสัตว์สั่ง
พระโพธิสัตว์รอลูกศิษย์ไปหาเศษเนื้ออยู่เป็นเวลานาน ไม่มีวี่แววว่าจะมาสักที เห็นว่าไม่ทันการณ์แล้ว เดี๋ยวแม่เสือจะกินลูกเสือเสียก่อน พระโพธิสัตว์จึงคิดว่า ร่างกายของเรานี้ เป็นร่างกายที่ปราศจากแก่นสาร ยังเกลือกกลั้วด้วยบาปอกุศลที่หมักดองใจมานานแสนนานมิใช่น้อย และร่างกายนี้เองเป็นเหตุแห่งทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง จะมีวิธีใดที่สามารถปลดเปลื้องจากความทุกข์นั้นได้ ซึ่งท่านก็ทราบชัดว่า มีแต่บารมีธรรมเพียงอย่างเดียว เท่านั้น ที่จะทำให้ท่านบริสุทธิ์หลุดพ้น ที่จะช่วยตัวท่านและสรรพสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ได้
|
|
เพราะเหตุว่า ประการที่หนึ่ง ถ้าบุคคลใดที่จะปฏิบัติตาม แต่ไม่สละสิ่งที่สละได้ยาก ย่อมไม่อาจที่จะหลุดพ้นจากทุกข์ เข้าถึงความสุขที่แท้จริงได้
|
ประการที่สอง ถ้าบุคคลใดที่จะปฏิบัติตาม แต่ไม่อดทนต่อสิ่งที่อดทนได้ยาก เช่น อดทนต่อความหนาวร้อน อ่อนแข็ง มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ มีสรรเสริญ มีนินทา มีสุข มีทุกข์ เป็นต้น ย่อมไม่อาจจะหลุดพ้นจากทุกข์ เข้าถึงความสุขที่แท้จริงได้
|
เมื่อพระโพธิสัตว์รู้วิธีและเข้าใจอย่างนั้นแล้ว จึงคิดต่อไปอีกว่า การบำเพ็ญบารมี ๓๐ ทัศนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้โดยยาก เพราะเหตุว่า
ประการที่หนึ่ง ถ้าบุคคลใดที่จะปฏิบัติตาม แต่ไม่สละสิ่งที่สละได้ยาก ย่อมไม่อาจที่จะหลุดพ้นจากทุกข์ เข้าถึงความสุขที่แท้จริงได้
ประการที่สอง ถ้าบุคคลใดที่จะปฏิบัติตาม แต่ไม่อดทนต่อสิ่งที่อดทนได้ยาก เช่น อดทนต่อความหนาวร้อน อ่อนแข็ง มีลาภเสื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ มีสรรเสริญ มีนินทา มีสุข มีทุกข์ เป็นต้น ย่อมไม่อาจจะหลุดพ้นจากทุกข์ เข้าถึงความสุขที่แท้จริงได้ นี่ก็เป็นสิ่งที่เราจะต้องศึกษากันเอาไว้
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรขอให้ติดตามตอนต่อไป