ธรรมะเพื่อประชาชน พร้อมภาพประกอบ คติธรรม ข้อคิดสอนใจ

ดูก่อนท่านผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร ท่านทั้งหลายอย่ากลัวต่อบุญเลย เพราะคำว่าบุญนี้เป็นชื่อของความสุข ดูก่อนท่านผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร เราย่อมรู้ชัดผลแห่งบุญอันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ ที่เราเสวยแล้วตลอดกาลนาน

ชาดก : ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for peopleรวมนิทานอีสปพร้อมภาพประกอบ  ข้อคิดสอนใจ

ธรรมะเพื่อประชาชน : ตอน โปริสาท ตอนที่ 09


ธรรมะเพื่อประชาชน : ตอน โปริสาท ตอนที่ 09

Dhammaforpeople
ธรรมะเพื่อประชาชน

ตอน โปริสาท ตอนที่ 09 คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

ตอน โปริสาท ตอนที่ 09

 

             พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเตือนพระภิกษุทั้งหลายไว้ในอัปปมาทะสูตร ความว่า

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอควรทำความไม่ประมาทโดยฐานะ 4 คือ

จงละกายทุจริต จงเจริญสุจริต และอย่าประมาทในการละกายสุจริต และเจริญกายสุจริตนั้น

จงละวจีทุจริต จงเจริญวจีสุจริต อย่าประมาทในการละวจีทุจริต และเจริญวจีสุจริต

จงละมโนทุจริต จงเจริญมโนสุจริตและอย่าประมาทในการละมโนทุจริต และเจริญมโนสุจริต

จงละมิจฉาทิฏฐิ จงเจริญสัมมาทิฎฐิและอย่าประมาท ในการละมิจฉาทิฎฐิและการเจริญสัมมาทิฎฐิ

 

ตอน โปริสาท ตอนที่ 09 คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          พุทธองค์ทรงสอนให้พวกเราเป็นผู้ไม่ประมาทในการทำความดี ด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจ และใช้เวลาที่มีอยู่ในโลกนี้ทำความดี ทำความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ ให้เต็มที่ เพราะการทำความดีเป็นภารกิจหน้าที่สำคัญที่สุดของการเกิดมาเป็นมนุษย์ จะได้เป็นผู้ที่มีชีวิตเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ทั้งทางโลกและทางธรรม

 

ตอน โปริสาท ตอนที่ 09 คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          ขณะเดียวกันก็ถูกสอนให้ละเว้นจากมิจฉาทิฐิคือละความเห็นผิด ซึ่งเป็นทางมาแห่งการทำบาปอกุศลแล้วทรงสอนต่อไปว่า อย่าประมาทในการเจริญสัมมาทิฐิ สัมมาทิฐิคือการเห็นชอบ เห็นถูกต้อง ตรงไปตามความเป็นจริง เจริญสัมมาทิฐิก็คือการปลูกฝังสัมมาทิฐิให้เข้าไปอยู่ในใจ

 

ตอน โปริสาท ตอนที่ 09 คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          ตั้งแต่มีความเชื่อว่าทานที่ให้แล้วมีผลจริง การบูชาบุคคลที่ควรบูชามีผลมีจริง การปฏิสันถารมีจริง วิบากกรรมของกรรมที่ทำดีและชั่วมีจริง โลกนี้โลกหน้ามีจริง มารดาบิดามีคุณจริง สัตว์ที่ผุดเกิดเองมีจริง ซึ่งหมายถึงนรกสวรรค์ และก็มีความเชื่อว่าสมณพราหมณ์ผู้พฤติดีปฏิบัติชอบจนหมดกิเลส เป็นพระอรหันต์มีจริง

         ท่านมีความเห็นถูกต้องเช่นนี้แล้ว ชีวิตเดินทางไกลในสังสารวัฏจะปลอดภัย แม้ละโลกไปแล้วจะได้มีสุคติเป็นที่ไป สัมมาทิฐิเหล่านี้จะเจริญงอกงามขึ้นมาในใจได้ ต้องรู้จักศึกษาธรรม เข้าหาครูบาอาจารย์ หาโอกาสฟังธรรมและลงมือปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการหมั่นทำใจหยุดนิ่งอยู่เสมอนั้น จะทำให้สัมมาทิฐิครบถ้วน บริบูรณ์มากยิ่งขึ้น ทั้งสัมมาทิฐิเบื้องต้น ระดับกลาง และระดับลึก

 

ตอน โปริสาท ตอนที่ 09 คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          ครั้งที่แล้วหลวงพ่อเล่าถึงตอนที่เทวดาแปลงเป็นนักบวชเพื่อสอนจอมโจรโปริสาทให้เลิกกินเนื้อมนุษย์และไม่ให้ทำการบรวงสรวงรุกขเทวาเพราเป็นบาปมหันต์ แต่คำสอนนั้นก็ไม่สามารถเข้าไปอยู่ในใจโจรโปริสาทได้เลย

 

ตอน โปริสาท ตอนที่ 09 คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          สมแล้วที่ท้าวมหาราชทั้งสี่รวมไปถึงท้าวสักกะจอมเทพที่ทรงเห็นพร้องต้องกันว่าช่วยอะไรไม่ได้ มีแต่ความตายเท่านั้นที่จะทำให้โปริสาทหยุดกินเนื้อมนุษย์ เมื่อเห็นว่าโจรนี้ใจบาปยิ่งนัก แม้นักบวชเองยังสั่งสอนไม่ได้ จึงเปลี่ยนเป็นพูดข่มขู่ว่า

 

ตอน โปริสาท ตอนที่ 09 คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          “เจ้าโปริสาท เจ้านั่นแหละกล่าวมุสาวาส เพราะเจ้าสาบานว่าจะนำพระราชาในชมพูทวีปทั้งหมดมาทำพลีกรรมให้เรา เจ้านำเฉพาะพระราชาสามัญธรรมดาผู้มีกำลังทุรพลมาให้ แต่กลับละเลยพระเจ้าสุตโสมผู้เป็นใหญ่ในพื้นชมพูทวีปทั้งหมด แสดงว่าเจ้าพูดโกหก เพราะฉะนั้นเจ้าต้องไปจับพระเจ้าสุตโสมมาด้วย มิฉะนั้นพลีกรรมนี้ถือว่าเป็นโมฆะ และตัวเจ้าจะต้องไปลงนรกอีกด้วย”

          พอพูดข่มขู่เสร็จแล้วก็บันดาลให้เพศบรรพชิตหายไปกลับกลายเป็นร่างเพศเทวดายืนโชตช่วงอยู่ดุจดวงอาทิตย์ในอากาศและบอกความจริงว่าตัวเรานี่แหละคือเทวดาผู้สิงสถิตอยู่ที่ต้นไม้แห่งนี้

 

ตอน โปริสาท ตอนที่ 09 คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          โจรโปริสาทดีใจว่าตนเองได้เห็นเทวดาด้วยตาเนื้อ จึงให้สัญญากับเทวดาว่า “เทวราช ท่านอย่าได้วิตกเรื่องพระเจ้าสุตโสมไปเลย เชิญเสด็จเข้าต้นไม้พักผ่อนตามสบายเถิด ข้าพเจ้าจะจับพระเจ้าสุตโสมมาให้ได้”

         เมื่อเทวดาหายเข้าไปในต้นไม้แล้ว โจรโปริสาทก็แหงนมองดูดวงจันทร์ที่กำลังทอแสงสว่างไสว ขณะเดียวกันก็ใคร่ครวญว่าการจับพระเจ้าสุตโสมนั้นเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าพลาดแม้นิดเดียวก็ไม่อาจรอดชีวิตมาได้

 

ตอน โปริสาท ตอนที่ 09 คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people
          เพราะทั่วทั้งราชอุทยานมีทหารคอยคุ้มกันอย่างหนาแน่น ในเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะมีการจัดแจงอารักขาอย่างพรั่งพร้อม โจรโปริสาทได้แอบเข้าไปซ่อนตัวอยู่ในราชอุทยานเสียก่อน

ตอน โปริสาท ตอนที่ 09 คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          จากนั้นก็แอบลงสระโบกขรณี และซ่อนตัวโดยใช้ใบบัวปกคลุมศีรษะเอาไว้ พอช่วงสาย ทางด้านเจ้าพนักงานก็ได้จัดการอารักขาอย่างหนาแน่นโดยรอบ ประมาณสามโยชน์เพื่อความปลอดภัยของพระเจ้าสุตโสม

 

ตอน โปริสาท ตอนที่ 09 คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          ส่วนพระเจ้าสุตโสมเสวยอาหารเช้าเสร็จแล้วเสด็จขึ้นทรงมงคลหัตถีแวดล้อมด้วยจตุรงคเสนา เสด็จออกจากพระนครเพื่อประพาสอุทยาน

 

ตอน โปริสาท ตอนที่ 09 คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          สมัยนั้นมีพราหมณ์ชื่อว่านันท ได้นำคาถาชื่อสตารหา ๔ คาถา มาจากเมืองตักกศิลา ซึ่งอยู่ไกลถึง ๑๒๐โยชน์ มายังเมืองอินทปัต เมื่อมาถึงแล้วก็ได้เข้าไปพักที่บ้านใกล้ประตูเมือง พอเช้าตรู่วันใหม่ก็ได้เข้าไปในเมือง พราหมณ์ครั้นได้เห็นพระราชากำลังเสด็จออกทางเมืองด้านทิศตะวันออก จึงเหยียดมือออกถวายชัยมงคล

 

ตอน โปริสาท ตอนที่ 09 คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          พระราชาทอดพระเนตรเห็นมือของพราหมณ์ซึ่งยืนอยู่ไกล ทรงสงสัยว่าพราหมณ์ต้องการอะไรจากตน หรือต้องการให้อะไรที่เป็นของวิเศษ ทรงไสพญาช้างเข้าไปใกล้และตรัสถามว่า “ท่านพราหมณ์ ชาติภูมิท่านอยู่แคว้นแดนไหน ท่านมาถึงเมืองนี้เพื่อต้องการอะไร ท่านพราหมณ์จงบอกความประสงค์นั้นแก่เราเถิด ท่านปรารถนาอะไร เราจะได้ให้สิ่งที่ท่านปรารถนาในวันนี้”

          พราหมณ์รู้ว่าพระราชาเป็นบัณฑิตนักปราชญ์ ใฝ่ใจในความรู้ เหมือนทะเลที่ไม่อิ่มด้วยน้ำ ไฟไม่อิ่มด้วยเชื้อ จึงทูลท้าวเธอว่า “ข้าแต่พระจอมธรณีมหิศร พระคาถา ๔ คาถา มีอรรถอันลึกซึ้ง วิเศษยิ่งนัก เปรียบประดุจสาครที่ลึกเกินจะหยั่งได้ ข้าพเจ้าเดินทางมาพระนครนี้ก็เพื่อประโยชน์ของพระองค์เท่านั้น ขอพระองค์จงทรงสดับพระคาถาที่ประกอบด้วยประโยชน์อย่างยอดเยี่ยมเถิดพระเจ้าค่ะ”

 

ตอน โปริสาท ตอนที่ 09 คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          พราหมณ์ทูลสืบต่อไปว่า “ข้าแต่มหาราชเจ้า คาถาชื่อว่าสตารหา ๔ พระคาถานี้ พระกัสสปทศพลทรงแสดงเอาไว้ ข้าพาเจ้าได้สดับว่าพระองค์ทรงโปรดปรานในการศึกษาจึงเดินทางมาเพื่อแสดงแก่พระองค์ผู้เป็นจอมปราชญ์ในชมพูทวีป” พระราชามีพระทัยโสมนัสจะได้ฟังธรรมะอันบริสุทธิ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่หาฟังได้ยากในโลก

 

ตอน โปริสาท ตอนที่ 09 คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          จึงตรัสว่า “ท่านอาจารย์ท่านมาก็ดีแล้ว แต่ข้าพเจ้าไม่อาจจะกลับตอนนี้ได้ ข้าพเจ้าจะมาฟังในวันพรุ่งนี้ ขอท่านอย่าได้รีบด่วนกลับไปเลย”ทรงหันไปรับสั่งอำมาตย์ให้ช่วยจัดที่พักอาศัย จัดหาอาหารและเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม และคอยต้อนรับอย่างดีเหมือนแขกผู้มีเกียรติของพระองค์ จากนั้นก็เสด็จเข้าสู่พระราชอุทยาน ราชอุทยานนั้นล้อมรอบด้วยกำแพงสูง ๑๘ ศอก นอกจากนี้ยังมีขบวนช้างยืนเรียงต่อๆกัน

 

ตอน โปริสาท ตอนที่ 09 คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

          จากนั้นก็เป็นขบวนม้า ขบวนรถ ขบวนนายขมังธนู ถัดจากนั้นเป็นขบวนพลเดินเท้าตั้งล้อมเป็นชั้นๆลงไป นับเป็นการจัดอารักขาที่หนาแน่นมาก เพราะมีสายรายงานมาว่าโจรโปริสาทกำลังจับกษัตริย์ทั่วชมพูทวีปไปบวงสรวงเทวดา

 

 

อ่านตอนต่อไป

ตอน โปริสาท ตอนที่ 10 คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for people

 

 

 

 

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล