ธรรมะเพื่อประชาชน พร้อมภาพประกอบ คติธรรม ข้อคิดสอนใจ

ดูก่อนท่านผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร ท่านทั้งหลายอย่ากลัวต่อบุญเลย เพราะคำว่าบุญนี้เป็นชื่อของความสุข ดูก่อนท่านผู้เห็นภัยในวัฏสงสาร เราย่อมรู้ชัดผลแห่งบุญอันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ ที่เราเสวยแล้วตลอดกาลนาน

ชาดก : ธรรมะเพื่อประชาชน Dhamma for peopleรวมนิทานอีสปพร้อมภาพประกอบ  ข้อคิดสอนใจ

ธรรมะเพื่อประชาชน : ทำสิ่งแวดล้อมให้เป็นปฏิรูปเทส ตอน 1


ธรรมะเพื่อประชาชน : ทำสิ่งแวดล้อมให้เป็นปฏิรูปเทส ตอน 1

Dhamma for people
ธรรมะเพื่อประชาชน

DhammaPP127_01.jpg

ทำสิ่งแวดล้อมให้เป็นปฏิรูปเทส ตอน 1

                  ความทุกข์ยากลำบาก เป็นสิ่งที่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ต่างก็ไม่พึงปรารถนา จะให้บังเกิดมีกับตัว มีผู้คนจำนวนมาก แม้มีความสุขมั่งคั่งไปด้วยทรัพย์สินเงินทอง หรือยศฐาบรรดาศักดิ์ แต่ก็ยังต้องทุกข์ใจในหลายๆ เรื่องบางคนแสวงหาความสุขทั้งชีวิตก็ไม่พบ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราพระองค์ทรงค้นพบว่า ทางที่จะนำไปสู่ความสุขอันเป็นอมตะนิรันดร์ จะต้องทำใจให้หยุดนิ่ง ให้ใสบริสุทธิ์หลุดพ้นจากต้นเหตุแห่งทุกข์ หลุดพ้นจากความไม่รู้คืออวิชชาแล้วกลายมาเป็นผู้รู้แจ้ง ซึ่งก็ไม่มีอะไรดีไปกว่า การฝึกฝนใจให้หยุดให้นิ่ง  เพราะเป็นวิธีที่ดีที่สุด สำหรับชีวิตของผู้ที่ปรารถนาความรู้แจ้ง และความหลุดพ้นจากทุกข์ ให้พบกับความสุขนิรันดร์ 

 

                         ในบทมงคลสูตรได้กล่าวไว้ว่า คนเราหากตกอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ดี ถึงจะมีความรู้ความสามารถ ก็ยากที่จะเอาดีได้ แต่ถ้าอยู่ในถิ่นที่เหมาะสมแล้ว ก็สามารถสร้างความเจริญก้าวหน้าได้โดยง่าย ถิ่นที่เหมาะสมหมายถึงถิ่นที่สิ่งแวดล้อมดี ไม่เป็นพิษเป็นภัยแก่สุขภาพ ร่างกายและจิตใจ ยิ่งกว่านั้นยังสนับสนุนให้ผู้อยู่อาศัย สามารถประกอบกิจการงานในหน้าที่ อันเป็นสัมมาอาชีพให้เจริญก้าวหน้าได้โดยง่าย และก็ยังสร้างสมคุณงามความดีได้เต็มที่ โดยเฉพาะถิ่นที่เหมาะสมต่อการสร้างบารมี ไม่ใช่ได้มากันง่ายๆ นะจ๊ะ ต้องอาศัยบุญวาสนาในปางก่อน ที่เราเคยสั่งสมเอาไว้ดีแล้ว ประกอบกับการอธิษฐานที่เคยตั้งความปรารถนาเอาไว้ หลวงพ่อถึงได้ต่อกย้ำให้ลูกทุกคน หมั่นอธิษฐานจิตกำกับไว้ให้ดีว่า ทำบุญแล้วขอให้ได้บังเกิด ในปฏิรูปเทศ เกิดในบวรพระพุทธศาสนา ในครอบครัวที่เป็นสัมมาทิฏฐิ จะได้สั่งสมบุญได้ อย่างสะดวกสบายอย่างง่ายดาย 

 

                      อานิสงส์การอยู่ในถิ่นที่เหมาะสม จะทำให้เราได้รับความสุขกายสุขใจ ทำให้ได้รับความเจริญก้าวหน้า ทั้งทางโลกและทางธรรม และก็มีโอกาสบำเพ็ญบุญ ได้รับความเจริญก้าวหน้า ทั้งทางโลกและทางธรรม และก็มีโอกาสบำเพ็ญบุญได้เต็มที่ทั้งทาน ศีล ภาวนารวมถึงบารมีอื่นๆ การได้เกิดในบวรพระพุทธศาสนานี้ เรียกว่าได้เกิดในปฏิรูปเทส ถือว่าเป็นอุดมมงคล เพราะเราจะได้ทัศนานุตตริยะคือ ได้การเห็นอันประเสริฐ คือเห็นพระรัตนตรัย ได้ศึกษาศีล สมาธิ ปัญญา ได้มีโอกาสบำรุงพระพุทธศาสนา ใจจะผูกพันอยู่กับพระรัตนตรัย ทำให้ไม่ประมาทในชีวิต อีกทั้งเป็นเหตุให้ได้ที่พึ่งอันสูงสุดคือ ได้เข้าถึงพระรัตนตรัย เราก็จะได้อริยทรัพย์ได้หนทางไปสู่สวรรค์นิพพาน

 

                 เห็นไหมจ๊ะว่าหากอยู่ในถิ่นที่เหมาะสมแล้วจะดีอย่างนี้ เพราะเนื่องจากปัจจุบัน มีนักสร้างบารมีหลายๆ ท่าน มักจะรำพึงว่า จะทำบุญกุศลอะไรก็ทำได้ไม่เต็มที่ เพราะอยู่ในแวดวงของคนที่ไม่ค่อยจะเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา บ้างก็ว่ามีครอบครัวอยู่ห่างจากวัดวาอาราม มาวัดก็ไม่สะดวก จะหาพระสงฆ์เดินบิณฑบาตผ่านหน้าบ้านก็ไม่มี หรือแม้มีทั้งทรัพย์สมบัติ มีเนื้อนาบุญมาโปรด แต่ครอบครัวกับไม่สนับสนุน ห้ามไม่ให้ทำบุญเหล่านี้เป็นต้น 

 

                     ที่เป็นเช่นนี้เนี่ยเป็นเพราะว่า ไม่ได้อยู่ในถิ่นที่เหมาะสม ทำให้การสร้างบารมีน่ะติดๆ ขัดๆ แต่เรานักสร้างบารมี อย่างไรก็ต้องสร้างบารมี อย่าให้อุปสรรคเหล่านั้นน่ะ มาเป็นข้อแม้ข้ออ้างและเงื่อนไขนะจ๊ะ เพราะวิสัยของนักสร้างบารมี จะไม่มัวมาเสียเวลากับเรื่องไร้สาระ ไม่รอคอยโอกาส แต่จะสร้างโอกาสดีๆ ขึ้นมาเสมอ เหมือนดั่งเรื่องของมหาอุบาสิกาวิสาขา ที่ลูกๆ ได้ยินได้ฟัง เรื่องราวการบำเพ็ญมหาทานบารมีของท่านเป็นประจำ

 

                       ประวัติการสร้างบารมีของท่าน หลวงพ่อเคยนำมาเล่าสู่ลูกๆ ได้รับฟังกันหลายครั้งแล้ว ส่วนประเด็นในวันนี้ หลวงพ่ออยากจะให้ลูกทุกคน ได้พิจารณาถึงความเฉลียวฉลาด และการทำตนเป็นยอดกัลยาณมิตรของท่าน ที่สามารถเปลี่ยนบุคคลผู้เป็นมิจฉาทิฏฐิในครอบครัว ให้กลับมาเป็นสัมมาทิฏฐิได้ จากอยู่ในถิ่นที่ไม่เหมาะสม ก็สามารถเปลี่ยนสถานที่นั้น ให้เป็นสถานที่ที่เหมาะผสมต่อการสร้างบารมีได้

 

                   เรื่องของท่านตอนหนึ่งก็มีอยู่ว่า เนื่องจากมหาอุบาสิกาวิสาขา ได้แต่งงานกับลูกชายของเศรษฐีชื่อ ปุณณวัฒนกุมาร ก่อนออกเดินทาง ท่านธนันชัยเศรษฐีก็ได้ให้โอวาทลูกสาวเอาไว้ว่า ลูกเอ๋ยธรรมดากุลสตรีควรจะศึกษา มารยาทของการเป็นคนดีศรีสะใภ้เอาไว้ว่า ไฟในก็ไม่พึงนำออก ไฟนอกก็อย่านำเข้า พึงให้แก่ผู้ที่ให้ไม่พึงให้แก่ผู้ที่ไม่ให้ พึงให้ทั้งแก่ผู้ที่ให้ทั้งแก่ผู้ที่ไม่ให้ พึงนั่งเป็นสุข พึงบริโภคเป็นสุข พึงนอนเป็นสุข พึงบำเรอไฟ พึงนอบน้อมเทวดาภายใน 

 

                     ครั้นให้โอวาส ๑๐ อย่างนี้แล้ว วันรุ่งขึ้นก็ส่งตัวลูกสาวไปอยู่กับครอบครัวของพ่อสามี แต่เนื่องจากโอวาท ๑๐ ข้อที่คุณพ่อได้มอบให้ลูกสาวนั้นน่ะ เข้าใจกันเพียง ๒ คนเท่านั้น เพราะมหาอุบาสิกาวิสาขา เป็นกุลสตรีที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดมาก โอวาทย่อๆ ที่พ่อได้ให้ ท่านก็สามารถแทงตลอด โดยไม่มีข้อสงสัยเลย แต่บังเอิญว่าท่านมิคารเศรษฐี ซึ่งเป็นพ่อของว่าที่สามี นั่งอยู่ในห้องข้างๆ ได้ยินถ้อยคำนั้นเข้า ก็เกิดความคลางแคลงสงสัย จึงบังเกิดความไม่พอใจ ได้แต่เก็บความไม่พอใจนั้นเอาไว้คนเดียว 

 

                      วันที่มหาอุบาสิกาย้ายไปอยู่กับครอบครัว ของพ่อสามี ธนันชัยเศรษฐีได้มอบเครื่องประดับชื่อ มหาลัดดาประสาทมีค่า ๙โกฏ ให้ทรัพย์อีก ๕๔  เล่มเกวียน เป็นมูลค่าสำหรับผงเครื่องหอม สำหรับผสมน้ำอาบ ให้ทาสีรูปสวยคอยปรนนิบัติธิดาในเวลาเดินทาง ๕๐๐ นาง รถเทียมม้าอาชาใน ๕๐๐ คัน สักการะทุกอย่างอย่างละ ๑๐๐ 


                          เวลาที่มหาอุบาสิกาวิสาขาออกเดินทาง คุณพ่อก็ได้มอบโคให้ไปด้วย วิธีการก็คือท่านเศรษฐีได้เรียกพนักงานควบคุมคอกโคมา แล้วสั่งให้แบ่งโคนม โคใช้งานและโคเทียมเกวียนให้ลูกสาว โดยให้เอาโคใช้งาน ๘ ตัวที่อ้วนพีเป็นตัวนำฝูงโค เมื่อประตูคอกเปิดออกแล้ว แม่โคทั้งหลายที่อ้วนพีก็ทยอยกันออกไป แต่เมื่อประตูปิดลงเท่านั้นแหละฝูงโคที่มีกำลัง ก็โลดแล่นออกไปข้างนอกอีกหลายพันตัว แล้วเดินติดตามท่านไปเป็นขบวนยาวทีเดียว ที่เป็นเช่นนั้นน่ะ ก็เพราะแรงบุญของท่าน ที่รักในการถวายทานมาหลายภพหลายชาติ 

 

                           โดยเฉพาะในสมัยของพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านเคยเป็นพระธิดาของพระราชา เวลาที่ท่านทำบุญนี้นะจ๊ะ ท่านจะรู้สึกอิ่มเอิบเบิกบาน แม้พระสงฆ์จะบอกว่าพอแล้วโยม แต่ท่านก็ยังยินดีที่จะทำให้ยิ่งๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ มือก็ตักข้าว วาจาก็กล่าวเชื้อเชิญพระคุณเจ้า ให้รับอาหารหวานคาว ที่อุตส่าห์ตระเตรียมมาด้วยตนเอง ทำอย่างประณีต ด้วยผลแห่งบุญนั้น ทำให้โคทั้งหลาย แม้คนดูแลคอกจะปิดประตูแล้ว ก็ยังอุตส่าห์กระโดดออกจากคอกติดตามท่านไปด้วย 

 

                   ครั้นได้พาหมู่คณะ ย้ายมาอยู่ที่บ้านของนิคารเศรษฐีแล้ว ท่านก็ตั้งใจทำหน้าที่ของคนดีศรีสะใภ้  ไม่ขาดตกบกพร่องเลย ทำหน้าที่ได้ครบสมบูรณ์ทุกอย่าง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ท่านอยากทำมากๆ แต่กลับไม่ได้ทำ นั่นก็คือถวายสังฆทานแด่ภิกษุสงฆ์ เพราะเนื่องจากทั้งตระกูลเป็นมิจฉาทิฏฐิ ไม่มีความศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนา แต่ไปศรัทธาในรัฐธิชีเปลือย ด้วยความเข้าใจผิดว่า ชีเปลือยเหล่านั้นน่ะ เป็นพระอรหันต์ 

 

                      แต่เนื่องจากท่านเป็นคนฉลาด แม้จะอยู่ในแวดวงแวดวงของผู้ที่ไม่เลื่อมใส ในพระพุทธศาสนา ก็นึกวิธีการที่จะต้องทำบุญให้ได้ แล้วก็ตั้งใจว่าจะเปลี่ยนใจ ทั้งพ่อแม่ของสามี แล้วเหล่าข้าทาสบริวาร ให้หันมานับถือพระพุทธศาสนาให้ได้ 

 

                        ส่วนว่าจะมีวิธีการอย่างไรนั้น วันนี้เวลาใกล้จะหมดลงแล้วเอาไว้วันต่อไป ค่อยมารับฟังการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ของตระกูลที่เป็นมิจฉาทิฏฐิ นับถือนักบวชนอกศาสนา ได้หันมานับถือพระพุทธศาสนาว่า ท่านจะมีกุศโลบายอย่างไร ส่วนพวกเราในขณะนี้น่ะได้เกิดในบวรพระพุทธศาสนาแล้ว ครอบครัวก็เป็นสัมมาทิฏฐิ เคารพในพระรัตนตรัย ก็ให้ใช้โอกาสที่ดีนี้ สั่งสมบุญบารมีกันให้เต็มที่นะจ๊ะ อย่าให้โอกาสดีๆ นี้ผ่านเลยไป อย่าประมาทแล้วก็อย่าชะล่าใจ บุญกุศลอันใดที่ยังบกพร่องอยู่ ก็ต้องรีบเติมให้เต็ม แล้วก็มันอธิษฐานจิตตอกย้ำให้ดี ให้ได้เกิดในปฏิรูปประเทสทุกภพทุกชาติกันทุกๆ คนนะจ๊ะ 

 

พระธรรมเทศนาโดย : พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)

 

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล