Dhammaforpeople
ธรรมะเพื่อประชาชน
สาตาคิรยักษ์ ตอน ๓
ทุกชีวิตที่เกิดมาในโลกนี้ล้วนต้องแสวงหาความรู้ด้วยกันทั้งนั้น ความรู้ในโลกมีอยู่หลายสาขาวิชา ซึ่งต่างคนต่างก็แสวงหาความรู้ความสามารถและประสบการณ์เพิ่มเติมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อจะได้เป็นปัจจัยสนับสนุนในการเลี้ยงชีพของตนเองและครอบครัวเป็นเช่นนี้มาทุกยุคทุกสมัยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันและก็ต่อไปในอนาคต แต่จะมีใครน่ะรู้บ้างว่า ความรู้ที่แท้จริงนั้นคือความรู้ที่มาจากภายในจึงเกิดจากใจที่หยุดนิ่งอย่างสมบูรณ์ เป็นความรู้ที่เกิดจากปัญญาบริสุทธิ์ เมื่อรู้แล้วสามารถทำให้เราบริสุทธิ์ทั้งกาย วาจา ใจและเป็นความรู้ที่กว้างขวางไม่มีประมาณ ยิ่งศึกษายิ่งมีความสุขและที่สำคัญคือ สามารถทำให้เราน่ะหลุดพ้นจากอวิชชา จากการบังคับบัญชาของพญามารได้ การที่จะศึกษาความรู้อันบริสุทธิ์นี้ได้ ต้องตั้งใจเจริญสมาธิภาวนา น้อมนำใจกลับมาหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ซึ่งเป็นฐานที่ตั้งถาวรของใจกันนะจ๊ะ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ขุททกนิกายธรรมบทว่า
ผลํ เว กทลึ หนฺติ
ผลํ เวฬุํ ผลํ นฬํ
สกฺกาโร กาปุริสํ หนฺติ
คพฺโภ อสฺสตรึ ยถา
ผลกล้วยย่อมฆ่าต้นกล้วย
ขุยไผ่ย่อมฆ่าต้นไผ่
ขุยอ้อย่อมฆ่าต้นอ้อ
สักการะย่อมฆ่าคนชั่ว
เหมือนม้าอัสดรซึ่งเกิดในครรภ์
ย่อมฆ่าแม่ม้าอัสดรฉะนั้น
ผลกล้วยฆ่าต้นกล้วยก็หมายความว่า เมื่อกล้วยออกผลแล้วเจ้าของจะตัดเครือกล้วย ไปขายหรือบริโภค จากนั้นก็จะกลับมาตัดต้นกล้วยทิ้ง เพื่อให้โอกาสหน่อกล้วยที่ยังเล็กอยู่ ได้เจริญเติบโตและออกผลให้เจ้าของต่อไป เพราะธรรมชาติของต้นกล้วย จะออกผลเพียงครั้งเดียวเท่านั้นนะจ๊ะ ธรรมชาติของขุยไผ่ก็ดี ขุยอ้อก็ดีเมื่อมีมากมันก็จะค่อยๆ แก่ขึ้นแก่ขึ้นแล้วก็จะตายในที่สุด
เหมือนกับลาภสักการะที่เกิดขึ้นมา เพื่อทำลายคนโลภทั้งหลาย มีมนุษย์มากมายที่เข่นฆ่ากันเอง เพราะเห็นแก่มรดก เห็นแก่ลาภสักการะก้อนใหญ่ที่จะเกิดขึ้น บางคนยอมเสียเพื่อนเสียญาติเสียแม้กระทั่งคุณธรรมที่สั่งสมมาด้วยความเหนื่อยยาก เพราะลาบสักการะเป็นเหตุ อย่างไรก็ตามลาภสักการะนั้น ถ้าเกิดขึ้นกับผู้ที่มีคุณธรรม ไม่ว่าจะเป็นคฤหัสถ์หรือบรรพชิต ก็จะใช้ในทางที่สร้างสรรค์ คนมีศีลมีธรรมจะครอบงำลาภสักการะ
แต่คนพาลมักจะถูกลาภสักการะครอบงำ ทำให้เป็นคนหลงลืมตัวเอง ลาภสักการะจึงมักฆ่าหรือทำลายคุณธรรม ของคนที่ไม่มีศีลธรรมเท่านั้นนะจ๊ะ ทุกสิ่งทุกอย่างมีคุณและก็มีโทษในตัวของมันเอง เหมือนดาบที่มีสองคม จะใช้ให้เกิดประโยชน์หรือโทษก็แล้วแต่เจ้าของ ดังนั้นเราจะต้องมีสติทุกครั้งที่เจอโลกธรรมทั้งดีและร้าย ให้มีสติมีปัญญาปัญหาก็จะหมดไป
สำหรับวันนี้เราก็มารับฟังเรื่องยักษ์สองสหายกันต่อเลยนะจ๊ะ ลูกๆ ที่ติดตามรับฟังมาจากครั้งที่แล้วคงจำกันได้ เกี่ยวกับพระวินัยธรสองรูป ในสมัยของพระกัสสปพุทธเจ้า ที่ท่านลุ่มหลงในลาภสักการะเพราะคบคนไม่ดี ครั้นละโลกแล้วก็เลยไปเกิดเป็นยักษ์เสนาบดีของท้าวเวสสุวรรณ ด้วยความที่เคยเป็นสหธรรมิกที่รักกันมาก แม้เป็นยักษ์ก็จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเหมือนเดิม
เมื่อยักษ์ทั้งสองได้พูดคุยปรับทุกข์ ถึงอดีตที่ผิดพลาดแล้ว ก็ทำกติกากันว่า ถ้าหากใครได้พบเห็นสิ่งอัศจรรย์หรือสถานที่รื่นรมย์ใจที่ไหนก็ให้มาบอกกันด้วย จะได้ไปเที่ยวสนุกสนานด้วยกันหรือถ้าหากได้ฟังข่าวมงคลเกี่ยวกับการอุบัติขึ้น ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ให้รีบมาแจ้งด้วย จะได้ไปฟังธรรมจากพระพุทธองค์ซึ่งจะเป็นทางแห่งความหลุดพ้นจากทุกข์
เมื่อสหายทั้งสองทำกติกากันเสร็จ ก็ไปมาหาสู่กันเป็นประจำ จนเวลาล่วงเลยไปถึงหนึ่งพุทธันดร มหาปฐพีหนาขึ้นประมาณ ๑ โยชน์ ๓ คาวุต. พระโพธิสัตว์ของพวกเราก็ได้ถือปฏิสนธิในโลกนี้ ทำให้หมื่นโลกธาตุสะเทือนสะท้านหวั่นไหว แต่ยักษ์เหล่านี้ก็ไม่รู้เรื่อง เพราะมัวแต่เล่นสนุกกันอยู่ ฉะนั้นในการประสูติ การออกอภิเนษกรมณ์และการตรัสรู้ ก็เลยไม่รู้เรื่อง แม้ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวก็ไม่ได้หวาดกลัว แล้วก็ไม่ได้ฉงนใจอะไรเลย แต่เมื่อพระผู้มีพระเจ้ากำลังแสดงธรรมจักรกัปปวัตตนสูตรให้ปัญจวัคคีย์ฟัง สาตาคิรยักษ์ได้เห็นแผ่นดินใหญ่หวั่นไหว จึงรู้ว่านี่เป็นบุรพนิมิตแห่งการเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้า
ครั้นรู้แล้วก็ชักชวนบริวารไปฟังพระธรรมเทศนา แต่ก็ไม่ได้บรรลุคุณวิเศษอะไร เพราะมัวแต่ระลึกถึงเหมวตยักษ์ ฟังไปก็เที่ยวสอดส่ายสายตาหาเพื่อนรักว่า สหายของเราน่ะมาแล้วหรือยัง เมื่อไม่เห็นจึงมีจิตฟุ้งซ่านว่า สหายของเราไม่ได้ฟังพระธรรมเทศนา ซึ่งมีปฏิภาณวิจิตรอย่างนี้ คงจะโง่เขลาเป็นยักษ์ไปอีกนาน สาตาคิรยักษ์จึงคิดว่าจะรีบกลับไปพาสหายมาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์เพื่อ ฟังธรรมจะได้เลิกเป็นยักษ์เสียที ว่าแล้วก็ได้เนรมิตยานมีช้างม้าและครุฑเป็นต้น มียักษ์ ๕๐๐ แวดล้อม มุ่งหน้าไปหิมวันตประเทศ
ฝ่ายเหมวตยักษ์เอง ก็เห็นความผิดปกติของหิมวันต์ คือภูเขาหิมพานมีความสวยงามสว่างไสวกว่าปกติ จึงอยากพาสหายมาเที่ยวชมบ้าง ว่าแล้วก็มุ่งหน้าไปที่มัชฌิมประเทศ ทำให้มาพบกันเหนือกรุงราชคฤห์ ได้ไต่ถามสาเหตุของการมาต่อกัน เหมวตยักษ์ชิงกล่าวขึ้นก่อนว่า เพื่อนรัก ช่างหน้าอัศจรรย์เหลือเกิน ตั้งแต่เราเกิดมา ภูเขาลูกนี้ไม่เคยเป็นที่น่ารื่นรมย์อย่างนี้มาก่อนเลย ต้นไม้ทั้งหลายบานสะพรั่งด้วยดอก ในสมัยไม่ใช่ฤดูกาล เพราะฉะนั้นจึงมาชวนท่านให้ไปชมศิริแห่งดอกไม้บาน
ฝ่ายสาตาคิรยักษ์กล่าวว่าเพื่อนรัก ท่านรู้ไหมว่าทำไมดอกไม้จึงบานผิดฤดู ปาฏิหาริย์นี้ไม่ได้เกิดในหิมวันต์แห่งเดียวเท่านั้น แต่ได้เกิดขึ้นในหมื่นโลกธาตุทีเดียว เจ้าชายสิทธัตถะราชกุมารโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะมหาราช ได้ทำให้หมื่นโลกธาตุหวั่นไหวแล้ว เพราะทรงบรรลุพระสัพพัญญุตญาณ ทรงประกาศธรรมจักรอันยอดเยี่ยม ในท่ามกลางเทวดาในหมื่นจักรวาล นี่แหละคือสาเหตุทำให้เกิดปาฏิหาริย์
เพราะฉะนั้นเราควรไปเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้ากันดีกว่า เพื่อรักวันนี้เป็นอุโบสถที่ ๑๕ ราตรีอันเป็นทิพย์ปรากฏแล้ว มาเถิดเพื่อนเราทั้งสองจะไปเฝ้าพระบรมศาสดา เมื่อได้ฟังธรรมจากพระองค์แล้ว เราทั้งสองก็จะได้ว่าจะได้หลุดพ้นจากอัตภาพของยักษ์กันเสียที
เนื่องจากเหมวตยักษ์ถือตัวว่าตนเองเป็นผู้มีอานุภาพมาก มียักษ์บริวารมากมาย เลยมีทิฏฐิมานะตามประสาของยักษ์จึงคิดว่า ไม่จำเป็นต้องเข้าไปหาใคร แต่ก็อยากจะรู้ว่าผู้ที่ตนจะต้องไปหานั้นน่ะมีความยิ่งใหญ่แค่ไหน จึงไต่ถามว่าพระโคดมผู้คงที่ทรงตั้งพระทัยไว้ดีแล้วในสัตว์ทั้งปวงหรือ พระโคดมทรงกระทำความดำริในอิฏฐารมณ์และอนิฏฐารมณ์ให้อยู่ในอำนาจได้จริงหรือ
สาตาคิรยักษ์ตอบว่า เพื่อน พุทธองค์เป็นผู้คงที่ ทรงตั้งพระทัยไว้ดีแล้วในสัตว์ทั้งปวง พุทธองค์ไม่เป็นผู้มักโกรธเหมือนพวกเราหรอก พระพุทธองค์ทรงกระทำความดำริในอิฏฐารมณ์และอนิฏฐารมณ์ให้อยู่ในอำนาจแล้ว ไม่มีใครครอบงำพระองค์ได้ เพราะพระองค์ทรงครอบงำกิเลสทั้งหลายได้หมดสิ้นแล้ว
เหมวตยักษ์ได้ฟังแล้วก็เกิดความเริ่มเกิดความเลื่อมใสขึ้นมาบ้าง แต่ยังมีคำถามอีกหลายข้อ สาตาคิรยักษ์จะสามารถ ทำหน้าที่ยอดกัลยาณมิตรได้สำเร็จหรือไม่ ก็คงต้องมาติดตามรับฟังกันต่อในวันพรุ่งนี้แล้วล่ะ จากเรื่องนี้เนี่ยเราจะเห็นว่ากาลเวลาเปลี่ยนไป ความคิดของคนเราก็เปลี่ยนไปตามได้เหมือนกัน เพราะกิเลสคืออวิชชาคอยห่อหุ้มจิตใจของเราให้ลุ่มหลงอยู่ตลอดเวลา นี่ถ้าไม่ได้กัลยาณมิตรชีวิตคงห่างไกลจากพระสัทธรรมไปอีกนาน
เพราะฉะนั้น เราทุกคนจะต้องตระหนักในความเป็นนักสร้างบารมีกันเอาไว้ให้ดี จะอยู่ในเพศภาวะไหนหรืออยู่แห่งหนตำบลใด ก็ต้องไปลืมที่จะสร้างบารมี เพราะการสร้างบารมี คือหน้าที่สำคัญของเราและให้หมั่นทำใจหยุดใจนิ่ง ให้ละเอียดยิ่งยิ่งขึ้นไป จนกว่าจะได้เข้าถึงพระรัตนตรัยภายในตัวกันทุกๆ คนนะจ๊ะ