ชีวิตของเราดำรงอยู่ได้ต้องอาศัยปัจจัย ๔ เราจึงแสวงหาปัจจัย ๔ มาหล่อเลี้ยงชีวิต แต่พวกเราทั้งหลายมีศรัทธาในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มองชีวิตไกลกว่าบุคคลทั่วไป เห็นว่าชีวิตในปรโลกคือโลกหน้า ไม่ได้ใช้ปัจจัย ๔ แต่ใช้บุญเป็นที่พึ่ง จึงได้ขวนขวายสั่งสมบุญด้วยการให้ทาน รักษาศีล และเจริญภาวนาอยู่เป็นประจำ
พวกเราตระหนักในคุณค่าของบุญ จึงพากันมาสั่งสมบุญ ซึ่งแตกต่างจากบุคคลทั่วไป คือสิ่งที่หาไม่ได้ใช้ สิ่งที่ใช้ไม่ได้หา หมายความว่าปัจจัย ๔ ที่แสวงหาตลอดชีวิตเมื่อละโลกไปแล้วกลับไม่ได้ใช้ สิ่งที่ต้องใช้ในโลกหน้าคือบุญ กลับไม่ได้แสวงหา เพราะอวิชชาคือความไม่รู้ปกปิดเอาไว้
ท่านทั้งหลายได้ชื่อว่า เป็นผู้ให้แสงสว่างแก่ชาวโลก เป็นแบบอย่างของผู้ดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท ให้ปลื้มใจเถิดว่า วันเวลาที่ผ่านไปคุ้มค่าไม่สูญเปล่า บุคคลผู้สั่งสมบุญไว้ดีแล้ว ย่อมเสวยสุขในโลกทั้งสอง คือ ในโลกนี้ เมื่อระลึกนึกถึงบุญที่ตนกระทำไว้ ยิ่งมีความปีติ อิ่มเอิบ เบิกบานใจเป็นเครื่องตอบแทน ในโลกหน้าบุญย่อมคอยต้อนรับบุคคลผู้ทำความดี ประดุจหมู่ญาติคอยต้อนรับบุคคลอันเป็นที่รัก ที่จากไปนานแล้วกลับมาด้วยความสวัสดี.
-----------------------------------------------------------------
หนังสือ " ร่าเริงบันเทิงใจ ด้วยสัมโมทนียกถา เล่ม๑ "
พระไพบูลย์ ธมฺมวิปุโล และคณะ