วันนี้วันที่ ๑๔ กุมพาพันธ์ พุทธศักราช..... ชาวโลกสมมติให้เป็นวันแห่งความรัก พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเหตุแห่งความรักไว้ มีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล พระบรมศาสดาเสด็จเข้าไปบิณฑบาตในเมืองสาเกตุ พราหมณ์เฒ่าสามีภรรยาได้พบพระพุทธองค์แล้ว ต่างร้องไห้ด้วยความยินดี เรียกพระองค์ว่าลูก
พระบรมศาสดาเสด็จไปที่บ้านของพราหมณ์ทั้งสอง แสดงธรรมจนพราหมณ์ทั้งสองบรรลุธรรมเป็นพระอริยบุคคล ภิกษุทั้งหลายที่เห็นเหตุการณ์ เมื่อกลับมาที่วัดสนทนากันว่าพุทธบิดาและพุทธมารดาไม่ใช่พราหมณ์ทั้งสองนี้ แต่พราหมณ์ทั้งสองกลับเรียกพระองค์ว่าลูก พระบรมศาสดาทรงทราบจึงตรัสว่า พราหมณ์ทั้งสองเคยเกิดเป็นบิดามารดา เป็นลุงป้าน้าอาต่อเนื่องกันมาถึง ๑๕๐๐ ชาติ พราหมณ์ทั้งสองจึงคุ้นเคยกับพระองค์ เรียกพระองค์ว่าเป็นลูก แล้วพระองค์ก็ตรัสว่า “ ความรักเกิดด้วยเหตุ ๒ ประการ คือ เพราะความคุ้นเคยกันมาในอดีตชาติและการเกื้อกูลกันในปัจจุบัน เหมือนดอกบัวเจริญงอกงามเพราะอาศัยน้ำและโคลนตม ”
ประโยชน์ของความรักคือ การเกื้อกูลเป็นกัลยาณมิตรประคับประคองกันไปสู่หนทางสวรรค์ และพระนิพพานเหมือนพระบรมโพธิสัตว์กับพระนางพิมพา หรือปิปผลิมาณพ คือพระมหากัสสปะและพระนางภัททกาปิลานี ที่เป็นคู่บุญสร้างบารมีร่วมกันมาตลอดระยะเวลาอันยาวนานจนได้บรรลุมรรคผลนิพพานในครั้งพุทธกาล
ความรักจะมีคุณค่าหากเป็นความรักที่หลุดออกจากกองทุกข์ เป็นเป้าหมาย มิใช่ความรักที่วนเวียนอยู่ในวัฏสงสาร.
-----------------------------------------------------------------
หนังสือ " ร่าเริงบันเทิงใจ ด้วยสัมโมทนียกถา เล่ม๑ "
พระไพบูลย์ ธมฺมวิปุโล และคณะ