การเกิดมาแต่ละภพแต่ละชาตินั้น มีเป้าหมายสูงสุดเพื่อฝึกฝนอบรมจิตใจของเราให้สะอาดบริสุทธิ์ ให้หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ หลุดพ้นจากทุกข์เข้าถึงความสุขที่แท้จริง ได้เข้าถึงกายธรรมอรหัต ซึ่งเป็นกายที่บริสุทธิ์ที่สุด มีแต่สุขล้วนๆ ไม่มีทุกข์เจือปนเลย เสวยวิมุตติสุขอย่างเดียว คือสุขที่เกิดจากการหลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ จากความทุกข์ทรมาน ไปสู่ความสุขที่ไม่มีขอบเขต ไม่มีประมาณ นี่คือเป้าหมายของชีวิตทุกๆ คนในโลกและตัวของเราเอง ดังนั้นเราจะต้องมุ่งแสวงหาความสุขที่แท้จริงอย่างนี้กัน
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ใน มัจฉริสูตร ว่า
“เยธ ลทฺธา มนุสฺสตฺตํ วทญฺญู วีตมจฺฉรา
พุทฺเธ ปสนฺนา ธมฺเม จ สงฺเฆ จ ติพฺพคารวา
เอเต สคฺเค ปกาเสนฺติ ยตฺถ เต อุปปชฺชเร
ชนเหล่าใดในโลกนี้ ได้ความเป็นมนุษย์แล้ว เป็นผู้ปราศจากความตระหนี่ เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า
พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นผู้มีความเคารพแรงกล้า ชนเหล่านี้ ย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์”
พวกเราทั้งหลาย นับว่าเป็นผู้มีบุญมาก จึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา และได้ยินได้ฟังพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้นเราจะต้องตั้งใจหมั่นสั่งสมบุญบารมีให้มากๆ เพราะบุญที่ทำไปแล้วนั้น จะเป็นผังสำเร็จให้เราสมปรารถนาในทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บุญจากการสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ ที่พวกเราได้ร่วมแรงร่วมใจกันสถาปนาขึ้นมา ให้เป็นศูนย์รวมใจของชาวโลก ให้ผู้มีบุญได้มีโอกาสมาสร้างบารมีร่วมกัน ในบุญสถานอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ จะได้มาตามระลึกนึกถึงพระรัตนตรัย ยังจิตให้เป็นกุศล จะได้เป็นบุญใหญ่ไปสู่สวรรค์และนิพพาน
การสร้างเจดีย์นั้น เป็นสิ่งที่บังเกิดขึ้นได้ยากอย่างยิ่ง หากในยุคใดสมัยใดที่ไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระสงฆ์บังเกิดขึ้น การที่จะสร้างเจดีย์ให้เป็นที่สักการบูชากราบไหว้ของมนุษย์และเทวาก็จะเกิดขึ้นไม่ได้ ต้องมีพระรัตนตรัยบังเกิดขึ้นก่อน จึงจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้เกิดขึ้น
* ในสมัยพุทธกาล พระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงเคยรับสั่งให้พระภิกษุสงฆ์ทำการสร้างพระเจดีย์ เพื่อบรรจุพระธาตุของพระอรหันต์ที่ท่านปรินิพพานไปแล้ว ดังเช่น พระพาหิยะ ผู้เป็นเลิศในด้านการตรัสรู้เร็ว เพราะแค่ได้ฟังกระแสพระธรรมเทศนาเพียงไม่กี่บท ก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ แต่เนื่องจากกรรมในอดีตชาติตามมาทัน จึงถูกโคแม่ลูกอ่อนขวิดเอา ในขณะที่ท่านกำลังแสวงหาบริขาร เพื่อจะมาบวชเป็นพระภิกษุ เมื่อพระพุทธเจ้าทรงทราบเรื่อง ก็ให้ภิกษุทำฌาปนกิจ แล้วให้นำพระธาตุมาบรรจุลงในสถูปเจดีย์ เพื่อให้ผู้คนทั้งหลายได้มาสักการบูชา จะได้เกิดบุญกุศลใหญ่มาสู่บุคคลผู้เคารพกราบไหว้บูชา
ในสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์อื่นๆ ก็มีการสร้างพระเจดีย์เหมือนกัน พระเจดีย์ล้วนทำมาจากสิ่งที่มีค่าที่สุดเท่าที่จะหาได้ในยุคสมัยนั้น เช่นสมัยพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า เมื่อพระองค์ดับขันธปรินิพพานไปแล้ว สาธุชนได้ร่วมใจกัน สถาปนาเจดีย์ที่ทำด้วยทองคำที่มีค่ามากมายมหาศาลขึ้นมา ให้พุทธศาสนิกชนมาเคารพบูชาระลึกถึงพระรัตนตรัย เป็นสถานที่สำหรับสร้างบุญบารมีของมนุษย์และเทวาทั้งหลาย
บุญที่เกิดจากการบูชาเจดีย์นั้นมีอานิสงส์มาก ทำให้ได้ไปบังเกิดในโลกสวรรค์ และยังเป็นพลวปัจจัยให้บรรลุมรรคผลนิพพานอย่างง่ายดายอีกด้วย ดังมีปรากฏในพระไตรปิฎกบันทึกเอาไว้ว่า
* มีพระอรหันต์รูปหนึ่งชื่อ พระอุมมาปุปผิยเถระ ขณะที่ระลึกชาติ ด้วยบุพเพนิวาสานุสติญาณ ท่านเห็นด้วยธรรมจักขุของท่านว่า ชาติหนึ่งท่านได้เกิดในตระกูลเศรษฐีที่รํ่ารวย เมื่อเล่าเรียนวิชาความรู้ต่างๆ ได้สำเร็จ ก็กลับสู่ภูมิลำเนาเดิม ครั้นต่อมา ได้ยินข่าวอันเป็นมงคลว่า ประชาชนในเมืองกำลังทำการฉลองพระเจดีย์ของพระสิทธัตถพุทธเจ้า ซึ่งดับขันธปรินิพพานไปแล้ว พอได้ข่าวก็ปีติยินดีขนลุกชูชัน มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะไปร่วมฉลองพระเจดีย์กับสาธุชนในเมืองนั้นด้วย อยากจะมีส่วนร่วมในบุญของผู้ที่สถาปนามหาเจดีย์ ถึงแม้ตัวเองไม่ได้สร้าง แต่ก็ขอให้ได้มีส่วนในการอนุโมทนาบุญกับเขาก็ยังดี จึงได้เดินทางไปที่ลานพระเจดีย์ด้วยใจที่เบิกบาน
ขณะที่เดินไปนั้น ได้พบดอกผักตบสีแก้วมรกต งดงามมาก ท่านจึงลงไปเก็บขึ้นมาจากในน้ำ เพื่อจะเอาไปบูชาพระเจดีย์ แม้หนทางที่จะไปสู่พระเจดีย์นั้นยาวไกล แต่ท่านก็เดินไปอย่างเบิกบานใจ ไม่มีความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเลย เมื่อมาถึงพระเจดีย์ ก็ได้มาร่วมฉลองบูชาพระเจดีย์ด้วยความเลื่อมใสในพระรัตนตรัย ระลึกนึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์
ด้วยบุญกุศลที่ท่านได้บูชาพระเจดีย์ในครั้งนั้น ทำให้ท่านได้บังเกิดในสุคติโลกสวรรค์ ได้เสวยทิพยสมบัติยาวนาน เมื่อมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็ได้เกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิถึง ๘๕ ครั้ง และท่านก็ได้สั่งสมบุญบารมีเรื่อยมา โดยไม่ประมาทในชีวิต จนกระทั่งชาติสุดท้าย ได้เกิดเป็นผู้มีชาติตระกูลสูง เมื่อบรรลุนิติภาวะแล้ว ได้ฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ก็เกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงตัดสินใจออกบวชอุทิศชีวิตในบวรพระพุทธศาสนา ตั้งใจบำเพ็ญสมณธรรม ไม่นานก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์
เราจะเห็นได้ นี้คือตัวอย่างของนักสร้างบารมี ที่ท่านมีความเลื่อมใสศรัทธาในพระรัตนตรัย เพียงแค่นำผักตบสีแก้วมรกตไปบูชาพระเจดีย์ที่เขาสถาปนากันเสร็จแล้ว เพื่อระลึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านยังได้บุญใหญ่ถึงเพียงนี้ นี่ขนาดยังไม่ได้ร่วมสร้าง ยังมีสมบัติจักรพรรดิบังเกิดขึ้น จนสุดท้ายได้บรรลุมรรคผลนิพพาน
ส่วนผู้ที่ได้ลงมือสถาปนามหาเจดีย์ด้วยตนเองคงไม่ต้องพูดถึงว่า จะได้บุญกันขนาดไหน ยิ่งมีมหาชนได้มาใช้สถานที่นี้ สำหรับประพฤติธรรม กลั่นกาย วาจา ใจให้สะอาดบริสุทธิ์ผ่องใส จนได้เข้าถึงพระรัตนตรัย เข้าถึงที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง ยิ่งเข้าถึงกันมากเพียงไร บุญกุศลก็จะเกิดขึ้นอย่างมากมหาศาล สุดจะนับจะประมาณได้แก่ผู้สถาปนามหาเจดีย์ เป็นบุญที่ทับทวีคูณยิ่งๆ ขึ้นไป
คงไม่ต้องกล่าวถึงบุญของพวกเรา ที่ได้ช่วยกันสถาปนามหาธรรมกายเจดีย์ และยังได้ร่วมกันฉลองเจดีย์อีก ว่าจะได้บุญขนาดไหน แต่สรุปโดยย่อก็คือ จะส่งให้เราไปถึงที่สุดแห่งธรรม มหาธรรมกายเจดีย์นี้จะเป็นศูนย์รวมใจของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย ให้มาสักการบูชากราบไหว้ เป็นทางมาแห่งมหากุศลผลบุญของผู้ที่เคารพสักการบูชา โดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนาและเผ่าพันธุ์ เป็นบุญที่จะนำไปสู่การพ้นทุกข์ สิ้นอาสวกิเลสน้อยใหญ่ทั้งหลาย จะเป็นพลวปัจจัยต่อหนทางพระนิพพาน มหาธรรมกายเจดีย์นี้ จึงเป็นอริยสถานของผู้มีบุญ เป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของมนุษย์และเทวา ที่ประพฤติปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระรัตนตรัยสำหรับผู้มีบุญทั้งหลาย
ดังนั้น ให้ตามระลึกนึกถึงบุญให้ดี ให้ใจใสใจละเอียด แล้วบุญจะติดตัวเราไป ติดอยู่ในศูนย์กลางกายติดซ้อนกันไปหมดทุกกาย เป็นชั้นๆ เข้าไป เหมือนกับเสาไฟฟ้าที่เรียงกันอย่างนั้น เวลาเขาเสียบปลั๊กที่ขั้วใหญ่ ก็จะสว่างพรึบไปหมด ติดทีเดียวทั่วกันตลอดไปเลย บุญก็เช่นเดียวกัน จะหลั่งไหลเป็นท่อธารแห่งบุญ จากอายตนนิพพานสู่ศูนย์กลางกายเรา ติดไปทุกภพทุกชาติ จนกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม ฉะนั้นให้ทำใจปลื้มปีติในบุญที่เราได้สั่งสมเอาไว้ ด้วยการสถาปนามหาธรรมกายเจดีย์เพื่อเป็นปูชนียสถานสำหรับสาธุชนผู้มีจิตเลื่อมใสในพระรัตนตรัยกันทุกคน
พระธรรมเทศนาโดย: พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย))
* มก. เล่ม ๗๒ หน้า ๒๗๔
* มก. เล่ม ๗๑ หน้า ๔๘๙