สามเณรอรหันต์
สามเณรปิโลติกะ
อดีตเด็กขอทาน
ในสมัยพุทธกาลมีเด็กขอทานคนหนึ่งชื่อว่า ปิโลติกะ นุ่งผ้าเก่าๆ ขาดวิ่น ถือชามกระเบื้องเดินขอทานอยู่ไปมา พระอานนท์เห็นเข้าจึงเกิดความเมตตาชวนให้เด็กขอทานได้บวชในพระพุทธศาสนา สามเณรปิโลติกะจึงได้บวชกับพระอานนท์นับแต่บัดนั้น แต่อยู่มาวันหนึ่งสามเณรเกิดกิเลสกำเริบรู้สึกอยากสึกจึงเดินไปยังต้นไม้ต้นที่พาดผ้าที่ตนเคยนุ่งตอนยังเป็นขอทานไว้ พอสามเณรเห็นผ้าเก่านั้นก็สลดใจ คิดขึ้นมาได้ว่า "เรานี่ช่างไม่อายญาติโยมที่ถวายผ้าอย่างดีให้ด้วยศรัทธา" พอเตือนตัวเองดังนั้น สติก็กลับมา ใจก็ผ่องใสขึ้น แต่วันต่อมาก็คิดจะสึกอีก สามเณรปิโลติกะเดินกลับไปกลับมาที่ต้นไม้นั้น เป็นเช่นนี้อยู่หลายวันแต่ก็เตือนตนให้ได้สติทุกครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่งสามเณรได้เกิดบรรลุอรหันต์จึงบอกกับพระทุกรูปว่าตนได้เลิกเดินไปต้นไม้ต้นนั้นแล้ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ฟังดังนั้นจึงกล่าวกับพระภิกษุทั้งหลายว่า
"ผู้ที่สามารถห้ามตัวเองจากความติดอกุศลได้มีน้อยคนนัก ผู้มีศีลที่ด่างพร้อยก็เหมือนนุ่งผ้าเก่าสกปรก แต่พอได้ประพฤติพรหมย์ มีศีลบริสุทธิ์ ก็เปรียบเหมือนกับได้นุ่งผ้าสะอาดหมดจดไร้มลทิน จิตใจก็แช่มชื่น"