5 ห้องชีวิต เนรมิตนิสัย
การ์ตูน เรื่อง ชุดวิเศษข้ามมิติ ห้องแต่งตัว
“ข้าวฟ่าง” เด็กหญิงจอมซน กำลังนั่งหน้ามุ่ย อยู่หน้าตู้เสื้อผ้าเพราะคุณแม่บอกให้เธอจัดเก็บตู้ให้เป็นระเบียบ
“ เสื้อผ้าตั้งเยอะแยะ เมื่อไหร่จะเก็บหมดนะ” ข้าวฟ่างบ่นกับตัวเองและนี่คือสภาพภายในตู้เสื้อผ้าของข้าวฟ่าง
ด้วยเหตุนี้เอง ข้าวฟ่างจึงอยากให้มีชุดวิเศษสักชุดหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนเป็นชุดอะไรก็ได้อย่างใจคิด จะได้ไม่ต้องมีเสื้อผ้าเยอะแยะให้จัดเก็บมากมายขนาดนี้ แล้ววันนี้ ความฝันของข้าวฟ่างก็เป็นจริง…
ณ โรงเรียนออกแบบแฟชั่นบนดาวดวงหนึ่ง ซึ่งเป็นดาวที่มีวิทยาการอันล้ำหน้ากว่าโลกมนุษย์มากบนดาวแห่งนี้เต็มไปด้วยนักคิดนักประดิษฐ์ และผู้สร้างสรรค์ผลงานมากมายหลายแขนง
“เธอรู้ไหมว่าพี่และเพื่อนๆ ทุ่มเทแค่ไหนในการประดิษฐ์ “ชุดวิเศษ” ขึ้นมาทุกอย่างพร้อมแล้วสำหรับงานแสดงแฟชั่นในอาทิตย์หน้า แต่เป็นเพราะความเลินเล่อของเธอแท้ๆ”
“ขอโทษค่ะ หนูจะรีบนำชุดนั้นกลับมาให้ทันก่อนวันงานค่ะ”
“งั้นเธอรีบไปจัดการนะ”
ปัง รุ่นพี่ปิดประตูออกไปอย่างฉุนเฉียวปล่อยให้ณัชชา นั่งคอตกด้วยความรู้สึกผิด
เรื่องราวต่างๆ เกิดจากเมื่อวานนี้ ณัชชาได้รับมอบหมายหน้าที่สำคัญให้นำชุดวิเศษข้ามประตูมิติไปยังดวงดาวต่างๆ เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของชุดว่าสามารถใช้งานได้ทุกสภาวะที่แตกต่างกันหรือไม่
แต่เมื่อมาถึงโลก ณัชชาเดินชนกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ทำให้ถุงผ้าหล่น และหยิบถุงผ้าที่เหมือนกันสลับกับของเด็กคนนั้น วันนี้เธอจึงต้องเดินทางกลับมายังโลกอีกครั้ง เพื่อตามหาชุดวิเศษกลับคืน
“ไม่อยากจะเชื่อเลย ในที่สุดฉันก็ได้ชุดวิเศษแล้ว เย้ เย้ ” ข้าวฟ่างนอนกลิ้งไปกลิ้งมาด้วยความดีใจ เมื่อค้นพบว่าชุดที่หยิบสลับมาของเธอเป็นชุดวิเศษที่ สามารถเปลี่ยนเป็นชุดอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ เพียงแค่ออกคำสั่งเสียงดังฟังชัดแบบนี้…
“ฉันอยากใส่ชุดนักบินอวกาศ”
วืบ วืบ วืบ ชุดวิเศษของข้าวฟ่างก็เปลี่ยนรูปร่างเป็นชุดนักบินอวกาศทันทีแล้วข้าวฟ่างก็เริ่มสำรวจดาวห้องนํ้า ดาวห้องรับแขก ดาวห้องครัว และร่อนยานลงจอดที่ดาวเตียงนอนก่อนจะหลับปุ๋ย จากการเล่นซนในโลกจินตนาการของเธอ
ณัชชา เดินทางมาถึงโลกแล้วและตามสัญญาณเรดาห์จนพบว่าชุดวิเศษอยู่ที่เด็กหญิงข้าวฟ่าง เธอจึงสวมหมวกย่อส่วนจนตัวเล็กจิ๋วและแอบเฝ้าดูอยู่ในบ้าน
“เฮ้อ… เจอจนได้ พรุ่งนี้เมื่อเด็กคนนี้ถอดชุดออก เราจะรีบนำชุดกลับดาวทันที” ณัชชาพูดกับตัวเอง
เช้าวันรุ่งขึ้น ข้าวฟ่างตื่นขึ้นมาแล้วรีบไปยังห้องแต่งตัว ณัชชาดีใจและคิดว่าข้าวฟ่างกำลังจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่เปล่าเลย ข้าวฟ่างไปส่องกระจกบานใหญ่ในห้องแต่งตัว แล้วออกคำสั่งกับชุดวิเศษให้เปลี่ยนชุดไปเรื่อย ๆ อย่างสนุกสนาน
ณัชชาถอดหมวกย่อส่วนออก และแสดงตัวเพื่อเล่าเรื่องที่หยิบถุงผ้าสลับกันและบอกว่าชุดวิเศษเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีความสำคัญมาก แต่…“ฉันจะไม่คืนชุดวิเศษให้เธอหรอกนะ” ข้าวฟ่างตอบเสียงดัง
เพียงแค่ประโยคเดียวจากข้าวฟ่าง ก็ทำให้ณัชชารู้สึกทันทีว่า สิ่งที่พยายามพูดมาทั้งหมดช่างไร้ประโยชน์ที่สุดในโลก
“โอย… จะทำยังไงดีนะ” ณัชชารำพึงหลังจากที่ข้าวฟ่างวิ่งหนีออกไปจากห้องแต่งตัวแล้ว
“อืม… ลองวิธีนี้ดีกว่า ตกแต่งชุดสวยๆ สักชุดเพื่อให้เด็กคนนั้นยอมใส่ พอเค้าถอดชุดวิเศษออก เราก็รีบชิงชุดกลับดาวทันที”
เมื่อคิดได้ดังนั้น ณัชชาจึงเดินเข้าไปเปิดตู้เสื้อผ้าของข้าวฟ่าง “โอ้โฮ… ในนี้รกมากเลย เราจะหาชุดที่ต้องการได้ไหมนะ” ณัชชาบ่น
เห็นทีจะต้องจัดทุกอย่างในตู้ให้เข้าที่เข้าทางก่อนล่ะ ไม่งั้นหาอะไรไม่เจอแน่” ณัชชาพูดกับตัวเองด้วยความมุ่งมั่น
ณัชชา แบ่งพื้นที่ออกเป็น ๒ ส่วน คือ หยิบใช้ถี่ และนานใช้ที พื้นที่ “หยิบใช้ถี่” ใช้สำหรับจัดเก็บเสื้อผ้าที่หยิบใช้บ่อยๆ และพื้นที่ส่วนที่สองแรกว่า “นานใช้ที” ใช้สำหรับจัดเก็บเสื้อผ้าที่นานๆ ทีจะหยิบออกมาใช้
พื้นที่ “หยิบใช้ถี่” ส่วนนี้มีผ้าเช็ดหน้า ชุดชั้นใน และถุงเท้าที่ข้าวฟ่างต้องใช้ทุกวันจัดเก็บไว้ให้ในกล่องใสๆ สามกล่องแยกกัน พร้อมติดป้ายชื่อไว้อย่างชัดเจน และมีเสื้อผ้าที่ยับยากพับแยกเก็บไว้ เพื่อความสะดวกในการหยิบใช้ ส่วนเสื้อผ้าที่ยับง่าย จะแขวนบนไม้แขวน หรือพาดบนราวและแขวนเรียงลำดับจากสั้นไปยาว
“เอ๊ะ มีเสื้อยึดที่ขาดเป็นรูด้วยอันนี้แยกไว้ก่อนดีกว่า เผื่อเจ้าของเค้าจะนำ ไปใช้ประโยชน์อะไรได้”
ส่วนพื้นที่ต่อมาณัชชาเรียกว่า “นานใช้ที” พื้นที่ส่วนนี้สำหรับเก็บเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ไม่ค่อยได้ใช้ ซึ่งพับไว้ให้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยบนชั้นด้านบนสุดของตู้ ในส่วนนี้มีเสื้อกันหนาว ผ้าพันคอ หมวกไหมพรม ชุดกระโปรงใส่ในโอกาสสำคัญต่างๆ เช่น งานเลี้ยงและงานโรงเรียน
“โห… มีชุดกระโปรงเล็กจิ๋วขนาดนี้ด้วย ยังใส่ได้หรือเนี่ย แยกไว้กับเสื้อยืดมีรูดีกว่า แล้วค่อยถามเจ้าตัวว่าจะเอาไปทำอะไรดี” ณัชชาพับเสื้อที่ขาดและชุดกระโปรงเล็กๆ ตั้งไว้ด้วยกันนอกตู้
“ป่านนี้คงหลงใหลกับชุดวิเศษอยู่แน่ๆ เลย เปลี่ยนเป็นร้อยๆ ชุดแล้วมั้ง” ณัชชาคิดและเริ่มเห็นจุดอ่อนของชุดวิเศษว่า เป็นแฟชั่นที่ยั่วยุกิเลส ทำให้ผู้สวมใส่ไม่รู้จักความพอดีจริงๆ
“ฉันอยากใส่ชุดเต้นรำ” “ฉันอยากใส่ชุดนักร้อง”
“ฉันอยากใส่ชุดเจ้าหญิง” “ฉันอยากใส่ชุด…”
ข้าวฟ่างกำลังหลงใหลกับชุดวิเศษอย่างที่ณัชชาคิดไว้จริง ๆ และยิ่งไปกว่านั้นคือ ข้าวฟ่างไม่สนใจสิ่งแวดล้อมว่าตนอยู่ในสถานที่แบบไหน แต่สนใจแค่ว่าตอนนั้นอยากเปลี่ยนเป็นชุดอะไร จึงทำให้ข้าวฟ่างใส่กระโปรงสั้นในวัด ใส่ชุดเสื้อผ้ากันหนาวในตลาดตอนกลางวัน และที่โชคร้าย คือ ข้าวฟ่างเผลอเปลี่ยนชุดนักเรียนเป็นชุดลายดอกไม้ในโรงเรียน และเพราะชุดลายดอกไม้นี่เองที่ทำให้ข้าวฟ่างโดนคุณครูทำโทษ ด้วยการให้คัดลายมือห้าสิบหน้า เป็นประโยคที่ว่า… “บัณฑิตย่อมรับรู้ และปฏิบัติตามระเบียบวินัย”
หลังจากที่ข้าวฟ่างคัดลายมือส่งคุณครูจนปวดแขนแล้ว ข้าวฟ่างก็เริ่มระวังในการสั่งชุดวิเศษให้เหมาะสมกับสถานที่มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องไปโรงเรียน ข้าวฟ่างจะต้องห้ามใจไม่ให้อยากเปลี่ยนเป็นชุดอื่นนอกจากชุดนักเรียน
แต่สำหรับการประกวดชุดแฟนซี ที่กำลังจะเริ่มขึ้นที่โรงเรียนในวันนี้ ข้าวฟ่างสามารถใส่ชุดแบบที่ตัวเองต้องการได้เต็มที่
“เราจะต้องคว้ารางวัลชนะเลิศมาให้ได้” ข้าวฟ่างคาดหวังกับการประกวดครั้งนี้มาก
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าวฟ่างตลกจัง”
ทันทีที่ข้าวฟ่างปรากฎตัวบนเวที เพื่อนๆ ต่างก็หัวเราะขำกันยกใหญ่ เพราะชุดของข้าวฟ่างประดับประดาเยอะแยะจนดูแปลกพิลึก มีทั้งเพชรพลอยระยิบระยับ ลูกไม้ ดอกไม้ลูกปัด เลื่อม ไข่มุก และกระโปรงสีแสบตาฟูฟ่องอีกห้าหกชั้น ผลปรากฎว่า ข้าวฟ่างไม่ได้รางวัลเลย
ข้าวฟ่างร้องไห้เสียใจ ออกมานั่งตัดพ้อกับตัวเองเพียงลำพัง “ทำไมนะ ชุดของเราใหม่ก็ใหม่ มีของประดับประดาอีกเยอะแยะ สวยกว่าชุดของคนอื่นเป็นไหนๆ ชุดพวกนั้นน่ะทำจากเสื้อผ้าที่เก่าๆ ขาดๆ แล้วแท้ๆ”
“แต่หัวข้อของงานคือ ‘สร้างสรรค์อย่างรู้ค่า’ พวกเขาสามารถนำชุดที่ขาดและเก่ามาดัดแปลงให้เป็นชุดใหม่ที่ใส่ได้อีกครั้ง แต่ชุดของเธอน่ะเต็มไปด้วยเครื่องประดับที่เกินความจำเป็นและไม่มีอะไรที่คิดใหม่อย่างสร้างสรรค์ เพียงแค่ใส่ไปให้ดูเยอะๆ เท่านั้น”
ณัชชาเตือนสติข้าวฟ่างหลังจากติดตามดูอย่างเงียบๆ มาตลอดสามวัน
“เธอพูดหลอกให้ฉันคืนชุดให้เธอใช่ไหมล่ะ”
“ตอนแรกฉันก็อยากได้ชุดคืนนะ แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ เพราะฉันว่าชุดวิเศษเป็นแฟชั่นที่ไม่สร้างสรรค์เลย มันทำให้ผู้สวมใส่มีความต้องการที่ไม่มีที่สิ้นสุด จนลืมไปว่า เราใส่เสื้อผ้าเพียงเพื่อปกปิดร่างกาย และป้องกันความร้อนหนาวจากสภาพอากาศ ฉันยอมถูกลงโทษจากพวกพี่ๆ ดีกว่านำชุดวิเศษกลับไปที่ดาวของฉัน เพราะมันคือชุดต้นแบบของเสื้อผ้าในอนาคตถ้าคนบนดาวของฉันต้องใส่เสื้อผ้าแบบนี้จริงๆ ที่นั่นคงจะเต็มไปด้วยคนที่ขาดสติ ลุ่มหลงและไม่รู้จักพอ ถ้าเธออยากได้ฉันไม่เอาคืนแล้วล่ะ แต่เธอต้องใส่มันอย่างมีสตินะ” ณัชชาพูดแล้วหันหลังเดินจากไป
“เดี๋ยวก่อน… ฉันก็ไม่อยากได้แล้วล่ะ” ข้าวฟ่างได้ฟังที่ณัชชาพูดก็นึกย้อนกลับมาที่ตัวเอง เพราะตั้งแต่ที่ได้ชุดวิเศษมา วันๆ ข้าวฟ่างก็ไม่สนใจใครไม่ตั้งใจเรียน ไม่เล่นกับเพื่อน มัวแต่สนุกกับการเปลี่ยนชุดใหม่ๆ ข้าวฟ่างจึงขอให้ณัชชากลับไปยังห้องแต่งตัวของตนเพื่อเปลี่ยนชุดคืนให้
ในห้องแต่งตัวของข้าวฟ่าง มีชุดชั้นในและถุงเท้าที่ยังไม่ได้ซักอยู่เต็มตะกร้า
“เดี๋ยววันนี้ฉันจะรีบซักให้หมดเลย” ข้าวฟ่างบอก
“ดีจ้ะ เธอควรเปลี่ยนชุดชั้นนอกและชุดชั้นในที่ใช้แล้วออกแล้วรีบนำไปซักตากด้วยตัวเองทุกวันนะรู้ไหม” ณัชชาเตือน
“จ้ะ” ข้าวฟ่างพยักหน้ารับคำ แล้วหันไปเปิดตู้เสื้อผ้า
“โอ้โฮ! นี่มันตู้เสื้อผ้าของใครกันเนี่ย” ข้าวฟ่างตกตะลึงเมื่อเห็นเสื้อผ้าจัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
“ดีจัง… ความจริงฉันก็มีเสื้อผ้าสวย ๆ เหมือนกันนะ” ข้าวฟ่างมองอย่างภูมิใจ
“แต่เป็นเพราะฉันไม่ชอบจัด มันเลยรกรุงรัง ทำให้หาชุดที่ต้องการใส่ไม่ค่อยเจอ”
“ฉันเป็นคนจัดให้เธอเอง ฉันต้องขอโทษด้วยนะที่มาจัดตู้เสื้อผ้าของเธอโดยไม่ขออนุญาตแล้วฉันก็เอาชุดของเธอไปตกแต่งใหม่ด้วย” ณัชชาเอ่ยขึ้น
“ขอบคุณเธอมากนะ ที่ช่วยจัดตู้เสื้อผ้าให้ ฉันขอดูชุดที่เธอทำหน่อยสิ” ข้าวฟ่างยิ้ม
“นี่ไง” ณัชชาหยิบชุดกระโปรงที่แขวนอยู่ในตู้ให้ข้าวฟ่างดู
“โอ้โฮ สวยจังเลย ความจริงชุดนี้เก่าจนฉันไม่ชอบมันแล้ว แต่ตอนนี้ฉันชอบมันมาก
ขอบคุณนะ” ข้าวฟ่างรีบเปลี่ยนชุดแล้วคืนชุดวิเศษให้ณัชชาทันที
“นี่จ้ะชุดของเธอ ฉันเองก็ขอโทษนะ ที่ไม่ยอมคืนให้ตั้งแต่แรก”
“ไม่เป็นไรจ้ะ เธอใส่ชุดของตัวเองแล้วดูน่ารักเหมาะกับวัย มากกว่าตอนใส่ชุดวิเศษอีกนะ” ณัชชากล่าวชมและยิ้มดีใจที่ข้าวฟ่างชอบชุดที่ตนเองทำให้
ณัชชาจึงถามถึงเสื้อยืดขาดมีรูและชุดกระโปรงตัวเล็กว่าจะเอาไปทำอะไรดี ข้าวฟ่างก็เลยใช้กรรไกรตัดเสื้อยืดทำเป็นเศษผ้าไว้เช็ดฝุ่น และนำชุดกระโปรงที่ใส่ไม่ได้แล้วไปให้น้องข้างบ้าน
“ฉันกลับก่อนนะ” เมื่อฟ้ามืดลง ณัชชาจึงกล่าวลาข้าวฟ่าง
“ฉันจะไปรายงานถึงข้อเสียของชุดวิเศษ และจะคัดค้านเต็มที่หากไม่ได้รับการปรับปรุงก่อนนำออกแสดง” ณัชชาบอก
“เห็นด้วยจ้ะ” ข้าวฟ่างยิ้มรับคำแล้วโบกมือลาให้ณัชชา ที่ตอนนี้กำลังเดินทะลุประตูมิติแล้วหายวับไป
เช้าวันเสาร์ พ่อแม่จะพาข้าวฟ่างไปเยี่ยมคุณยายข้าวฟ่างเลือกใส่ชุดเรียบร้อย สุภาพ ที่เหมาะกับการไปพบผู้ใหญ่ และก่อนออกจากบ้าน ข้าวฟ่างไม่ลืมสมาทานศีล ๕ หยอดกระปุกทำบุญ และพูดถึงความตั้งใจที่จะทำความดีในวันนี้
“แม่ภูมิใจมากที่ข้าวฟ่างเป็นเด็กดีนะจ๊ะ” แม่ยิ้มอย่างมีความสุข
คำศัพท์ชวนรู้
apologize [v.] ขอโทษ
awareness [n.] สติ
clothes [n.] เสื้อผ้า
dressing room [n.] ห้องแต่งตัว
skirt [n.] กระโปรง
tidy [adj.] เป็นระเบียบเรียบร้อย
trousers [n.] กางเกง
wardrobe [n.] ตู้เสื้อผ้า