สรรพศาสตร์ในพระไตรปิฎก

วันที่ 08 พค. พ.ศ.2560

สรรพศาสตร์ในพระไตรปิฎก

GB 406 สรรพศาสตร์ในพระไตรปิฎก , ความรู้ทั่วไปทางพระพุทธศาสนา , DOU , พระไตรปิฎก

     องค์ความรู้ในพระไตรปิฎกนั้นมีความลึกซึ้งและกว้างขวางมาก นอกจากจะมีหลักคำสอนเพื่อความพ้นทุกข์แล้ว ยังมีองค์ความรู้ครอบคลุมศาสตร์ทางโลกต่างๆ มากมายอีกด้วยกล่าวคือครอบคลุมทั้งหมวดวิชามนุษยศาสตร์สังคมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ซึ่งศาสตร์ทั้งปวงในทางโลกนั้นสรุปรวมลงได้ใน 3 หมวดวิชานี้

      มนุษยศาสตร์นั้นกล่าวถึงตัวมนุษย์โดยเน้นโลกภายในของมนุษย์ ได้แก่ เรื่องจิตใจความรู้สึกนึกคิดคุณค่าของความเป็นมนุษย์ เป็นต้น ซึ่งมีสาขาวิชาย่อยดังนี้ เช่น วิชาศาสนาวิชาปรัชญา วิชาภาษาศาสตร์ อารยธรรม และ วิชาประวัติศาสตร์ เป็นต้น

    สังคมศาสตร์นั้นกล่าวถึงมนุษย์กับความสัมพันธ์ของมนุษย์ด้วยกัน เป็นเรื่องโลกภายนอกของมนุษย์ทางด้านสังคม ซึ่งมีสาขาวิชาย่อยดังนี้ เช่น รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ วาทศาสตร์ การจัดการ และสังคมวิทยา เป็นต้น

   ส่วนวิทยาศาสตร์นั้นมีชื่อเต็มว่า "วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ" เป็นหมวดวิชาที่ว่าด้วยเรื่องมนุษย์และสิ่งแวดล้อมทางกายภาพซึ่งเป็นโลกภายนอกของมนุษย์เช่นกัน มีสาขาวิชาย่อย ดังนี้ เช่น เคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยา แพทยศาสตร์ ดาราศาสตร์ และ เกษตรศาสตร์ เป็นต้น

      วิชาสรรพศาสตร์ในพระไตรปิฎกนี้กล่าวถึงศาสตร์ที่สำคัญๆ ทั้งหมด 7 ศาสตร์ โดยมีศาสตร์ที่เป็นหมวดวิชาใหญ่ 2 ศาสตร์ คือ มนุษยศาสตร์ กับ วิทยาศาสตร์ และศาสตร์ที่เป็นสาขาวิชาย่อยอีก 5 ศาสตร์ คือ รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ วาทศาสตร์ และแพทยศาสตร์ ซึ่ง 4 ศาสตร์แรก ได้แก่ รัฐศาสตร์ เป็นต้น จัดอยู่ในหมวดวิชาสังคมศาสตร์ส่วนแพทยศาสตร์นั้นจัดอยู่ในหมวดวิชาวิทยาศาสตร์

    องค์ความรู้ในพระไตรปิฎกนั้นเน้นเรื่องมนุษยศาสตร์เป็นหลัก รองลงมาคือสังคมศาสตร์ส่วนด้านวิทยาศาสตร์นั้นมีกล่าวไว้เพียงส่วนน้อย แต่แม้จะมีน้อยถึงกระนั้นก็มีความลึกซึ้งและกว้างไกลกว่าองค์ความรู้ในทางโลกมาก เพราะเป็นความรู้แจ้งที่เกิดจากเห็นแจ้งด้วยภาวนามยปัญญาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้เป็นความรู้ที่เกิดจากการอ่านการคิดและตั้งสมมติฐานแบบนักวิทยาศาสตร์

       ความรู้ที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ที่ปรากฎอยู่ในพระไตรปิฎกนั้นเป็นความรู้ที่น่าทึ่งมากกล่าวคือ เรื่องโลกธาตุหรือเอกภพซึ่งเป็นสิ่งที่กว้างใหญ่ไพศาลที่สุดและเรื่องอะตอมซึ่งเป็นสิ่งที่เล็กจิ๋วที่สุดมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เพิ่งค้นพบเมื่อไม่นานมานี้ มีกล่าวไว้ในพระไตรปิฎกและอรรถกถาเป็นเวลานับพันๆ ปีมาแล้ว

   ความรู้เรื่องเอกภพในทางวิทยาศาสตร์นั้น เพิ่งถูกพันาขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมเมื่อไม่กี่ร้อยปีที่ผ่านมานี้คือ ตั้งแต่กาลิเลโอ(พ.ศ.2107-2185)สร้างกล้องโทรทรรศน์สำหรับส่องดูดวงดาวสำเร็จ นำมาซึ่งการค้นพบเทหวัตถุในห้วงอวกาศมากมาย เป็นการเริ่มต้นการศึกษาเอกภพอย่างจริงจังและพันาเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

      ในปัจจุบันการศึกษาเรื่องเอกภพก้าวหน้าไปมากเพราะมีเทคโนโลยีอันทัน มัยมากมายเข้าช่วย เช่น มีกล้องโทรทรรศน์ับเบิลซึ่งถูกส่งออกไปโคจรรอบโลกสามารถตรวจจับภาพของเทหวัตถุในระยะไกลเป็นพันล้านปีแสงได้ แต่ถึงกระนั้นอาณาบริเวณของเอกภพที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบเพิ่งได้แค่ 10-11% ของความกว้างของ 1 โลกธาตุขนาดใหญ่ที่มีกล่าวไว้พระไตรปิฎกเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่าโลกธาตุไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียวแต่มีเป็นหมื่นเป็นแสนโลกธาตุทีเดียว นี้คือความมหัศจรรย์ขององค์ความรู้ในพระไตรปิฎก

       ทางด้านการแพทย์นั้นก็มีหลายอย่างที่น่าสนใจ เช่น ในสมัยพุทธกาลวิชาการแพทย์มีความก้าวหน้ามากถึงกับมีการผ่าตัด มองและลำไส้ด้วย ทั้งๆ ที่การผ่าตัดครั้งแรกด้วยการแพทย์แผนปัจจุบันในเมืองไทยเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อในรัชกาลที่ 3 หรือ 170 กว่าปีมานี้เอง นอกจากนี้การดีท๊อกซ์(Detox) และการอบซาวน่า(Sauna) เพื่อขับพิษก็ไม่ได้เป็นสิ่งใหม่ แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระภิกษุใช้วิธีเหล่านี้รักษาสุขภาพกันมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว

       สำหรับสังคมศาสตร์นั้นก็มีองค์ความรู้ที่สำคัญและน่าสนใจมากมาย ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้สำหรับแก้ปัญหาสังคมในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องการเมืองการปกครอง ปัญหาการแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ ปัญหาเศรษฐกิจโดยเฉพาะเรื่องน้ำมันและข้าวยากหมากแพง ปัญหาความยากจนและการคอร์รัปชั่น เป็นต้น ปัญหาเหล่านี้มีสาเหตุมาจากอะไร และควรจะแก้ไขอย่างไร ก็มีแนวทางแก้ไขบันทึกไว้ในพระไตรปิฎกทั้งสิ้น

      สำหรับมนุษยศาสตร์นั้นเป็นเนื้อหาหลักของคำสอนในพระไตรปิฎก เพราะจุดประสงค์หลักในการตรัสอนธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือ เพื่อช่วยให้มนุษย์พ้นจากความทุกข์วิชาต่างๆ ของมหาวิทยาลัยธรรมกายแคลิฟอร์เนียที่นักศึกษาได้เรียนผ่านมาแล้วนั้นก็มุ่งเน้นเรื่องมนุษยศาสตร์เป็นหลักในวิชาสรรพศาสตร์นี้ถือเป็นการสรุปใจความสำคัญของมนุษยศาสตร์ที่ปรากฎอยู่ในพระไตรปิฎก เพื่อให้นักศึกษามีความเข้าใจชัดเจนมากขึ้น

 

*----------------------------------------------------------------------------------------------------------*
หนังสือ GB 406 สรรพศาสตร์ในพระไตรปิฎก
กลุ่มวิชาความรู้ทั่วไปทางพระพุทธศาสนา

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.022225550810496 Mins