แก้ไขทุกข์มนุษย์

วันที่ 15 มิย. พ.ศ.2560

แก้ไขทุกข์มนุษย์

 

 

                   ผู้ทําวิชชาจะต้องทําหน้าที่อยู่ในโรงงานทําวิชชาเป็นกิจวัตร แต่ก็สามารถออกมาทําหน้าที่ ข้างนอกได้บ้างในเวลาที่พระเดชพระคุณหลวงปู่รับแขก ซึ่งก็คือช่วงเวลาที่ญาติโยมมากราบหลวงปู่ เพื่อขอบารมีท่านให้ช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ พระเดชพระคุณหลวงปู่จะให้ผู้ทําวิชชาในโรงงานออกมากับท่านด้วยหนึ่งคน บางครั้งก็เป็นคุณยายหรืออาจจะเป็นท่านอื่นๆ หลวงปู่จะใช้งานโดยให้ไปดูว่า พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ของแขกที่มากราบนั้นตายแล้วไปไหน ท่านจะสั่งว่า “ลูกจันทร์ไปตามมาซิ” คุณยายก็จะรับคําว่า “เจ้าค่ะ” แล้วก็นั่งทําสมาธินิ่งๆ เพื่ออาศัยอานุภาพวิชชาธรรมกายในการตามหาผู้ที่ละโลกไปแล้ว

                    นอกจากนี้ พระเดชพระคุณหลวงปู่ยังช่วยแก้ไขทุกข์ภัยให้กับมนุษย์ หาวิธีการที่จะไม่ให้มนุษย์ รบราฆ่าฟันกันเอง ไม่ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย ให้อยู่ดีกินดีฝนตกต้องตามฤดูกาล ผลไม้มีรสโอชา เป็นการแก้ไขโดยรวม ถ้าหากใครมาขอบารมีเป็นการส่วนตัว ท่านก็จะให้คนเหล่านั้นเขียนปัญหาความทุกข์ยากต่างๆ ใส่กระดาษแล้ววางในภาชนะที่เตรียมไว้จากนั้นท่านจะส่งเข้าไปในโรงงานทําวิชชา เพื่อให้ผู้ทําวิชชาช่วยเหลือเป็นเฉพาะรายต่อไป บางท่านก็มา ขอให้หลวงปู่ตั้งชื่อให้ลูกหลาน ท่านก็ให้ผู้ทําวิชชา ตรวจดูก่อนว่าเด็กที่มาเกิดนั้นมาจากที่ไหน หรือไม่ก็ให้ไปดูว่าเทพบุตรเทพธิดาในเทวโลกมีชื่อว่าอะไรกันบ้าง แล้วก็เลือกมาตั้งชื่อให้ซึ่งคุณยายเองก็เป็น หนึ่งในหัวหน้าเวรที่ต้องควบคุมดูแลการทําวิชชาเพื่อช่วยเหลือแก้ไขทุกข์ภัยให้มนุษย์ด้วย

                    คุณยายเคยเล่าให้หลวงพ่อฟังว่า งานของพระเดชพระคุณหลวงปู่มีมากมาย เฉพาะกับมนุษย์ที่มาขอให้ท่านช่วยก็มีมาก นับตั้งแต่ถ่ายไม่ออกทั้งหนักและเบา จนกระทั่งเป็นโรคร้ายแรงถึงชีวิต ซึ่งผู้คนก็ล้วนมาขอบารมีในทุกเรื่อง เช่น ในกรณีของโรคมะเร็งที่แพทย์รักษาไม่หายและยืนยันว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่กี่เดือน แต่เมื่อมาถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่แล้ว ท่านจะสั่งผู้ทําวิชชาให้แก้จากข้างใน คือ แก้กันที่ต้นเหตุทําให้หลายๆ คนมีชีวิตยืนยาวขึ้นอีก

                   ครั้งหนึ่งพระเดชพระคุณหลวงปู่ได้มอบหมายหน้าที่ให้คุณยายอาจารย์ทองสุข และคุณยายอาจารย์ จันทร์ ไปช่วยรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย ที่ใกล้จะละโลกแล้ว แต่หมู่ญาติยังมีความหวังจึงมาขอพึ่งบารมีหลวงปู่ ครั้งแรกท่านได้ส่งคุณยายอาจารย์จันทร์ไปก่อน เมื่อไปถึงแล้วคุณยายก็มอง เข้าไปข้างใน พิจารณาดูแล้วเห็นว่าไม่ไหวเพราะใกล้จะหมดอายุขัยเต็มทีแต่ด้วยอัธยาศัยที่ตรงไปตรงมา และด้วยการเป็นนักรบกองทัพธรรมที่จะต้องทํา ภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากแม่ทัพให้เต็มที่สุดความสามารถ เมื่อหลวงปู่สั่งว่าอย่าให้เขาตาย ให้ไปต่ออายุขัยเขา คุณยายก็ทําหน้าที่ด้วยการเชื่อมกายมนุษย์ละเอียดกับกายมนุษย์หยาบเอาไว้ไม่ให้หลุดออกจากกันด้วยอานุภาพของวิชชาธรรมกาย เสร็จแล้วท่านก็กลับมาวัดปากน้ํา

                   วันถัดมา พระเดชพระคุณหลวงปู่ส่งคุณยายทองสุขไปบ้าง คุณยายทองสุขท่านก็เห็นว่าภายในร่างกายเน่าแล้ว ถึงต่อชีวิตไปก็จะทรมาน จึงตัดสินใจเอาไปส่ง ท่านจึงคุมบุญพาผู้ป่วยนั้นไปส่งยังปรโลก ผู้ป่วยจึงเสียชีวิตในที่สุด เมื่อหลวงปู่ทราบเรื่องเข้า จึงเอ็ดคุณยายทองสุขที่ตัดสินใจทําดังนั้น

                   ถ้าหากมีผู้ใดมาขอบุตรกับพระเดชพระคุณหลวงปู่ แม้ท่านกําลังฉันภัตตาหารอยู่ ท่านก็ฉันไปรับคําไป หลังจากฉันเสร็จแล้วท่านก็เข้าโรงงานทําวิชชามาบอกให้คุณยายตรวจดูว่ามีเทวดาตนไหนที่ ใกล้จะหมดบุญแล้ว ให้ไปเชิญมาเกิดเป็นอภิชาตบุตรโดยเลือกเทวดาที่มีบุญพอเหมาะพอสมกับผู้ที่เป็นพ่อแม่ คุณยายก็รับคําว่า“เจ้าค่ะ” แล้วก็ใช้ญาณทัสนะของพระธรรมกายตรวจดูทั่วภพ แล้วรวบรวมเทวดาที่กําลังจะจุติมาคํานวณดูว่า ใครมีความเหมาะสมตาม กําลังบุญของพ่อแม่ เมื่อพบแล้วก็จะเชิญลงมาเกิดกับพ่อแม่คู่นั้น ครั้นแม่ตั้งครรภ์และคลอดเด็กออก มาแล้วก็จะนํามาถวายเป็นลูกของหลวงปู่ ซึ่งท่านก็จะให้ศีลให้พร

                    วิชชาธรรมกายนั้นมีประโยชน์มหาศาลสามารถช่วยเหลือแก้ไขทุกข์มนุษย์ได้มากมาย หลวงปู่วัดปากน้ําศึกษาค้นคว้าวิชชาธรรมกายควบคู่ไปกับการแก้ไขทุกข์มนุษย์ แก้ไขไม่ให้มนุษย์รบกันเอง เพราะมนุษย์ไม่รู้ว่าตนเองเกิดมาทําไม อะไร คือเป้าหมายของชีวิต จึงถูกพญามารจับปั่น เหมือนการปั่นจิ้งหรีดให้กัดกัน โดยใช้กิเลสอาสวะมาบังคับ และบดบังไม่ให้มนุษย์รู้เป้าหมายชีวิตของตน ไม่ให้รู้ว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน เป็นพี่เป็นน้องกัน ไม่ให้รู้เรื่องราวว่าจะต้องมุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรมด้วยกัน ท่านจึงต้องอาศัยวิชชาธรรมกายในการแก้ไขพร้อมกับหาเหตุในเหตุเรื่อยไป โดยมีหมู่คณะซึ่งมีธาตุธรรมพิเศษอยู่จํานวนหนึ่ง ซึ่งคุณยายก็เป็นหนึ่งในนั้น

 

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.011442816257477 Mins