ประวัติคุณยาย ฯ
คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ขนนกยูง เกิดเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2452 ที่อําเภอนครชัยศรีจังหวัดนครปฐม ท่านเป็นลูกคนที่ 5 ในจํานวนพี่น้อง 9 คน ของพ่อพลอยและแม่พัน ขนนกยูง ซึ่งประกอบ อาชีพเกษตรกรรม
ท่านตัดสินใจเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เมื่ออายุได้ 26 ปีเพื่อหาช่องทางไปฝึกสมาธิที่วัดปากน้ํา ภาษีเจริญ โดยอาศัยทํางานอยู่ที่บ้านของคุณนายเลี้ยบ ซึ่งเป็น อุปัฏฐากคนสําคัญของวัดปากน้ําก่อน ในระหว่างนี้เองท่านได้พบกับคุณยายอาจารย์ทองสุข สําแดงปั้น ครูสอน สมาธิจากวัดปากน้ํา ผู้แนะนําธรรมปฏิบัติ จนกระทั่ง ท่านเข้าถึงพระธรรมกาย
เมื่อท่านมีอายุได้29 ปีคุณยายอาจารย์ทองสุข ได้พาท่านไปกราบพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (หลวงปู่วัดปากน้ํา ภาษีเจริญ) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย เมื่อท่านได้พบแล้ว หลวงปู่วัดปากน้ําก็เมตตารับท่านไว้ เป็นศิษย์และอนุญาตให้ศึกษาวิชชาธรรมกายขั้นสูงในทันที
หลังจากที่ได้ย้ายมาอยู่วัดปากน้ําแล้ว ท่านก็ได้ บวชเป็นอุบาสิกาแม่ชีพร้อมๆ กับคุณยายอาจารย์ทองสุข และได้ศึกษาค้นคว้าวิชชาธรรมกาย พร้อมกับปฏิบัติสมาธิภาวนาขั้นสูงอยู่กับพระเดชพระคุณหลวงปู่ วัดปากน้ํา จนกระทั่งหลวงปู่มรณภาพ
ต่อมา ในปีพ.ศ. 2506 ท่านได้พบกับพระเดช พระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ซึ่งในขณะนั้นเป็นนักศึกษา จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผู้มีความสนใจใน พระพุทธศาสนาและการเจริญสมาธิภาวนามาก พระเดชพระคุณหลวงพ่อได้กราบฝากตัวเป็นศิษย์ กับคุณยาย อาจารย์และได้รับการถ่ายทอดวิชชาธรรมกายจากท่าน
ในปีพ.ศ. 2513 ขณะที่คุณยายมีอายุได้61 ปี พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ซึ่งอยู่ในช่วงพรรษาแรกของการเป็นพระภิกษุ ได้ปรารภกับคุณยายถึงการ สร้างสถานที่แห่งใหม่อันเหมาะสมต่อการประพฤติ ปฏิบัติธรรมและเผยแผ่วิชชาธรรมกายสืบต่อไป คุณยาย จึงริเริ่มสร้างวัดขึ้นพร้อมกับให้การส่งเสริมพระเดชพระคุณหลวงพ่อและหมู่คณะในทุกๆ ด้านเพื่อให้งาน สร้างวัดประสบความสําเร็จ
นับตั้งแต่นั้นมา จึงได้มีการก่อตั้ง “ศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม” ณ ตําบลคลองสาม อําเภอคลองหลวงจังหวัดปทุมธานีและได้รับการพัฒนาเรื่อยมาจวบจนกระทั่งกลายเป็น “วัดพระธรรมกาย” ซึ่งมีกิจกรรม ด้านการศึกษาและประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างแพร่หลายทั้งภายในประเทศไทย และต่างประเทศ
หลังจากคุณยายอาจารย์ได้สนับสนุนพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ในการสถาปนาวัดพระธรรมกายและวางรากฐานในการพัฒนาวัดอย่างมีระบบ ระเบียบและมั่นคงแล้ว ท่านได้ละสังขารอย่างสงบในวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2543 ในขณะที่ท่านมีอายุได้92 ปี
...ยามใดก็ตาม
ที่เรามีคุณยายอยู่ในหัวใจแล้ว
ยามนั้น ความสว่างไสว
ความสะอาดบริสุทธิ์ความดีงาม
และความเป็นสิริมงคลทั้งปวง
ก็จะเกิดขึ้นในกาย วาจา และใจ
ของเราอย่างน่าอัศจรรย์...