มหาทานบารมี

วันที่ 28 กค. พ.ศ.2560

 มหาทานบารมี,วาไรตี้,บทความประจำวัน

 

      มหาทานบารมี

 

      ภาพแห่งการสร้างบารมีเหล่านี้ที่ทำให้ชาวสวรรค์ร่าเริงกัน เพราะเขาเกิดความปีติยินดีที่เห็นพวกเราอยู่ในเมืองมนุษย์สร้างบารมีกันอย่างสนุกสนาน ถูกหลักวิชชาของการสร้างมหาทานบารมี แล้วก็คุยกันต่อๆไปว่า สวรรค์จะไม่ร้างผู้มีบุญ ไม่ร้างเทพบุตรเทพธิดาที่งหลาย บริวารดีใจว่าเจ้านายอยู่ในเมืองมนุษย์สร้างบุญใหญ่เต็มที่ เพราะสร้างบุญบนเมืองมนุษย์ตรงนี้ก็ไปสว่างตรงโน้นวิมานก็โตใหญ่ขึ้น สมบัติกว้างขวางยิ่งใหญ่ไพศาลกันไปตามลำด้บ

       ณ จุดตรงนี้เป็นจุดสว่าง จุดที่เรารวมใจมาร่วมทำบุญกันสร้างบารมี ด้วยอาการที่เบิกบาน ไม่ว่าจะเกิดกี่ชาติกิทุกข์ไม่เป็น จิตใจมืแต่ชื่นบานหน้าตาจะคล้ายเคียงไล่เลี่ยกันไปเลย เพราะยิ้มแย้มแจ่มใสทำบุญกันตลอด จะเป็นหนุ่มเป็นสาวรอบหนึ่ง รอบสอง รอบสาม หลายๆ รอบเลย

    เหมือนนางวิสาขา งามตลอดกาล เป็นสาวหลายรอบ จนกระทั่งอายุ ๑๒๐ ปี ไปก้บลูกหลายคน หน้าตาผิวพรรณดูเหมือนๆ กัน รอยเหี่ยวย่นที่ผ่านกาลเวลามาบนใบหน้าไม่มีเลย จะรู้ว่าเป็นนางวิสาขาตอนเอามือเท้าแขน (มือย้นพื้น) ถึงจะรู้ว่าชราภาพ มีแต่งามทุกวัยตลอดกาล แถมจะแข็งแรงเสียอีกแข็งแรงมาก มืกำลังเท่ากับ ๕ ช้างสาร เพราะฉะนั้นภพชาติต่อไปเราจะดีกว่านี้ยิ่งขึ้นไปอีก

     หลวงพ่อคิดตลอดเลย ถ้าจะไปถึงที่สุดแห่งธรรม ก็ต้องให้ได้ที่สุดของทุกสิ่ง รูปสมบัติต้องได้กายมหาบุรุษครบถ้วนบริบูรณ์ ขาดแม้เพียงหนึ่งก็ไม่เอาเข้าไปแล้วอายเขา สมบัติก็ต้องสุดๆ ไม่ใช่เกิดมายากจนแต่เข้าถึงธรรม อย่างนี้ก็ไม่เอา มีดวงปัญญาก็สว่างไสว เห็นธรรมตั้งแต่ยังเยาว์วัย แตกฉานกันเดี๋ยวนั้น

   การที่จะเข้านิพพานไปที่สุดแห่งธรรมด้วยกายมหาบุรุษครบถ้วนทุกประการ เข้าไปตามลำพังก็ไม่ชอบ แต่ชอบที่จะเข้าไปพร้อมๆกัน ต้องให้ทุกคนได้ถึงที่สุดของทุกสิงแล้วเข้าด้วยกายมหาบุรุษพร้อมๆกัน ถ้าหากขาดไปข้อหนึ่ง ยังไม่ครบทุกข้อก็ยังไม่ไป จนกว่าจะพร้อมกันไปหมดภพโน้นชาติโน้น เมื่อบารมีเราเต็มเปียม เดี๋ยวจะสนุกกันใหญ่ นึกแล้วก็ชื่นอกขึ้นใจเหมือนกับว่าจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้

   พวกเราเป็นมนุษย์พันธ์อัศจรรย์ เพราะฉะนั้น เวลาจะได้สมบ้ติก็จะได้อย่างอัศจรรย์ สมบัติอัศจรรย์ในชาตินี้ มาทางอากาศบ้าง มาทางใต้ดินบ้าง มาถึงแล้วก็โผล่เฉยๆในปัจจุบันม้นก็ไม่ใช่มีเพียงในพระไตรปิฎก นั้นก็หมายความว่า กัาเราสร้างบุญอย่างอัศจรรย์อย่างเช่นเลี้ยงพระครั้งละแสนรูป ให้ทุนการศึกษาครั้งละแสนรูป ถวายกัตตาหารครั้งละแสนรูบ่อยๆ นั่งธรรมะไม่เคยขาดมืบุญเล็ก บุญน้อย บุญใหญ่ทำหมด สมบัติอัศจรรย์ก็จะมาได้จริงๆ

   คุณยาย (คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง) ท่านพูดกับหลวงพ่อบ่อยๆ ซํ้าๆ ท่านบอกว่า "ยายจะเอาสมบัติทุกขึ้นนี่ติดตัวยายไป ให้หมดเลย เอาติดตามไปเลย" ๓๐ ปีที่แล้วยายพูดอย่างนี้กับหลวงพ่อ ตอนนั้นยังไม่ได้บวช ฟังแล้วก็ยังไม่เข้าใจ พอท่านพูดซํ้าๆ ม้นก็ซึมไป แล้วก็แจ่มแจ้งขึ้นในภายหลัง แล้วเป็นอย่างนั้นจริงๆ สังเกตดูจนกระทั่งถึงวันสุดท้ายของยาย ตั้งแต่วันที่ได้ยินท่านพูด มีเท่าไหร่ทำบุญหมด ทำทุกอย่างเลย

   หลวงพ่อวัดปากนํ้าก็เช่นเดียวกันท่านเอาสมบัติติดตัวไปหมดโ ดยการนำออก นำออกก็คือการสร้างมหาทานบารมี สำหรับบารมีอย่างอี่นก็ทำาไปเถิด แต่อย่าขาดมหาทานบารมี แล้วท่านก็ทำเป็นต้วอย่าง พอท่านมรณภาพละสังขาร สมบัติหยาบ ๆไม่มีเหลือเลย เพราะท่านทำบุญหมดทิ้งไวัแด่บารมีให้ศิษยานุศิษย์ ลูกๆ หลานๆ ของท่านได้อาศัยพึ่งบารมี เดี๋ยวสมบัติก็กลับมาใหม่ มันก็หมุนเวียนไปเวียนมาอย่างนี้แหละ สมบัติจะเกิดขึ้นกับเฉพาะผู้มีบุญเท่านั้น ผู้มีบุญก็คือผู้ที่ทำบุญ

     หลวงพ่อก็ตั้งมโนปณิธานอย่างนั้น จะด้องนำติดตัวไปให้หมด ภพชาติต่อไปเวลาเกิดขึ้นไม่อยากให้มนุษย์ทั่งหลายทำมาหากิน อยากให้นั้งหลับตา ศึกษาค้นคว้าวิชชาธรรมกายอย่างเดียว เราคนเดียวจะอาศัยบุญที่เกิดขึ้นทำมาหลายๆชาติ กระทั่งชาตินี้นี่เลี้ยงให้ได้หมดเลย เพื่อให้เขานั่งหลับตากันอย่างเดียว บางครั้งก็ได้ยินยายท่านพูดว่า "ยายนี่จะต้องสร้างบุญเยอะๆ เพื่อจะได้ไปเอาสมบัติใหญ่ สมบัติจักรพรรดิ" หลวงพ่อก็ถามท่านว่า "ยายจะเอามาทำไม"ยายก็ตอบว่า "เอามาแจกเขาให้หมดเลย มันจะได้เลิกทะเลาะกัน"

    ถ้ารวยแล้วสร้างบารมีไปให้หมด เอาติดไปในภพเบื้องหน้า พอเจอหน้ากันภพหน้าต่อไป "เธอช่วยเอาสมบัติของฉันไปหน่อยสิ" อีกฝ่ายก็จะได้พูด "แหมทำไมใจเดียวกัน เธอช่วยเอาของฉันไปหน่อยสิ มันเยอะเหลือเกิน" ต้องอย่างนี้ เพราะฉะนั้นเมื่อบารมีเราเต็มเปี่ยม ต้องตั้งเป้าหมายไว้ให้ดี ต้องให้ได้กายมหาบุรุษครบถ้วนทุกประการ ต้องให้ได้สมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่อง ต้องแทงตลอดในวิชชาธรรมกาย ธรรมอันใดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบรรลุธรรมต่างๆ ให้เราได้บรรลุ นึกอย่างนี้ไวัเรื่อยๆ ทุกวัน ตอกยํ้าทุกวัน

   พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ก็เริ่มต้นสร้างบารมีจากเล็กๆน้อยๆ   อย่างนื้ใปเรื่อยๆจนกระทั่งเป็นบุญต่อบุญ สมบัติต่อสมบัติ ภพชาติต่อไปได้สร้างมากขี้นไปอีก สร้างไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสละราชสมบัตินับภพนับชาติไม่ถ้วน เลยโดยไม่ได้เสียดาย และก็อิ่มอกอิ่มใจที่ได้ให้ ไม่มีเสียดายเลย

  แต่ถ้าทำบุญแล้วเสียดาย ภายหลังเกิดมามีสมบัติมาก แต่ไม่มีอารมถนใช้ ไปใช้แบบมหาทุคตะเขาใช้กัน อย่างนั้นน่ะเพราะความเสียดาย ทำให้เราเกิดอารมณ์ไม่อยากใช้ของที่ประณีต เมื่อทำแล้วอย่าเสียดายให้ปลื้มตลอดเวลา อีกหน่อยเราจะมีบุญใหญ่และก็วิมานของใคร ก็ของคนนั้น ไม่ใช่สามีภรรยาแล้วก็จะไปอยู่วิมานเดียวกัน

    บารมีทุกบารมีบุญทุกๆบุญ ทางมาแห่งบุญทุกๆทาง เป็นทางที่เราจะได้ฟรีๆ ทำให้ครบ ไม่ใช่รวยแล้วขี้เหร่ หรือสวยแต่ไม่ฉลวด ยากจน ต้องทำให้ครบทั้งทาน ทั้งศีล ทั้งภาวนา ทำมากยิ่งรวยมาก ยิ่งทั่งสวยทั่งหล่อมาก ยิ่งฉลาดมากๆ เพราะฉะนั้นให้ครบถ้วนบริบูรณ์ไม่ให้ขาดเลย แม้แต่อย่างเดียว ทบทวนอยู่ทุกวันว่า วันนี้ขาดไหมทั้งทาน ศีล ภาวนา หรือ เอาแค่ภาวนา ทานกับศีลเอาไว้ก่อน หรือทานอย่างเดียว ศีลกับภาวนาไม่ทำ ตรวจดูให้ดี สิ่งเหล่านี้จะบันทึกเอาไว้ในกลางกายของเราเป็นผังสำเร็จไปทีเดียว ถ้าหากภพชาติของเราต่อไปเราขี้ริ้วขี้เหร่มากกว่าเขา ก็ต้องให้รู้ไวัเลยว่าปัจจุบันนี้เราประมาทไป ชะล่าใจไป เพราะฉะนั้นทำให้เต็มที่ ทำมากทำน้อยทำทุกวัน

   หลวงพ่อเห็นยายทำทุกวัน ไม่เคยขาดเลย หลวงพ่อก็ทำทุกวัน ดูยายท่านเป็นต้นแบบต้นบุญ เพราะฉะนั้นใครที่ยังไม่เคย ก็ทำให้มันคุ้น ทำทุกวันให้ได้เลย

 

 

 

จากหนังสือ แม่บท เดินทางข้ามวัฏสงสาร

วันอาทิตย์ที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๔๔

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0011418024698893 Mins