นิทานธรรมะ ตอน พึงทำตนให้เป็นดุจตาชั่ง
.
ในอดีตกาลนานมา พระเจ้ากรุงพาราณสีเสด็จประพาสพระราชอุทยานตลอดวัน จึงเสด็จกลับพระราชวังเมื่อเวลาใกล้ค่ำพักราชรถไว้ ณ พระลานหลวง คืนนั้นฝนตกหนักตลอดคืน บรรดาสุนัขที่เลี้ยงไว้ในพระราชวัง ได้กลิ่นหนังที่หุ้มเเละผูกราชรถ ซึ่งพองขึ้นเพราะถูกฝนเเละส่งกลิ่น จึงพากันกัดหนังที่หุ้มเเละผูกราชรถของพระราชาขาดจนหมดสิ้น
วันรุ่งขึ้น มหาดเล็กกราบทูลพระราชาให้ทรงทราบ พระราชาโกรธสุนัขมาก ดำรัสสั่งให้ฆ่าสุนัขที่พบเห็นทุกตัว
บรรดาสุนัขพากันเดือดร้อน เพราะต้องการหนีการตามฆ่าของราชบุรุษ จึงพากันหนีไปพึ่งบารมีของพระโพธิสัตว์ที่เกิดเป็นสุนัข
พระโพธิสัตว์ทราบเรื่องก็รู้ว่า สุนัขที่เลี้ยงไว้ในพระราชวังกัดหนังหุ้มเเละหนังผูกราชรถ ไม่ใช่สุนัขนอกพระราชวังเข้าไปกัดเเต่อย่างใด
พระโพธิสัตว์จึงเข้าไปยังพระราชวัง ผู้คนที่เห็นสุนัขพระโพธิสัตว์จะโกรธสักคนก็ไม่มี พระโพธิสัตว์จึงวิ่งเข้าไปใต้พระราชอาสน์ที่ประทับในท้องพระโรง
พวกราชบุรุษขับไล่สุนัข เเต่พระราชาทรงห้ามไว้ พระโพธิสัตว์จึงออกมาจากใต้พระเเท่นที่ประทับของพระราชา เเล้วทูลถามว่า "พระองค์รับสั่งให้ฆ่าสุนัขที่พบเห็นทุกตัวหรือ"
พระราชาตอบว่า "รับสั่งให้ฆ่าสุนัขทุกตัว" พระโพธิสัตว์กราบทูลว่า "ข้าเเต่พระองค์ผู้จอมคน สุนัขเหล่านี้มีความผิดอะไร"
พระราชาตอบว่า "สุนัขกัดหนังหุ้มรถเเละหนังผูกรถของเรา" "
พระโพธิสัตว์ : "พระองค์ทรงรู้จักสุนัขที่กัดทุกตัวเลยหรือ"
พระราชา : "ไม่รู้จัก"
พระโพธิสัตว์ทูลถามอีกว่า "ราชบุรุษที่เห็นสุนัขเเล้วฆ่าสุนัขทุกตัว หรือว่าสุนัขที่ไม่ถูกฆ่าก็มี"
พระราชา : "สุนัขที่ไม่ถูกฆ่าก็มี คือ สุนัขที่อยู่ในวังเรา"
พระโพธิสัตว์กราบทูลว่า "ข้าเเต่พระองค์ผู้เป็นจอมคน เมื่อสักครู่พระองค์รับสั่งว่า เราสั่งให้ฆ่าสุนัขทุกตัวที่ได้พบเห็นทั้งหมด บัดนี้มารับสั่งอีกว่า สุนัขทุกตัวที่เลี้ยงไว้ในพระราชวังไม่ถูกฆ่า เมื่อเป็นเช่นนี้ พระองค์ไม่ควรมีอคติ เช่น ฉันทาคติ (ลำเอียงเพราะรัก) เป็นต้น ขึ้นชื่อว่านักปกครองที่มีอคติ ย่อมเป็นนักปกครองที่ดีไม่ได้ เเละเป็นผู้ไม่มีราชธรรม อันธรรมดานักปกครองจะต้องสืบสวนหาเหตุเเละมิใช่เหตุ จะต้องทำตัวเหมือนคันชั่ง จึงจะชอบด้วยเหตุผลพระเจ้าข้า"
พระราชาตรัสถามว่า "พ่อบัณฑิต เจ้ารู้หรือว่าสุนัขตัวใดกัดหนังหุ้มรถเเละผูกรถของเรา"
พระโพธิสัตว์ทูลตอบว่า "ทราบพระเจ้าข้า สุนัขที่กัดหนังหุ้มรถเเละผูกรถของพระองค์นั้น คือสุนัขที่พระองค์ให้ทรงเลี้ยงไว้ในพระราชวังของพระองค์นั่นเอง ขอพระองค์ให้นำเอาเปรียงกับหญ้าเเพรกมาขยำให้เข้ากันให้ดี เเล้วเอากรอกสุนัขเถิด พระเจ้าข้า"
พระราชาก็ให้ทรงกระทำดังนั้น สุนัขทั้งหลายต่างสำรอกเอาเปรียงหญ้าเเพรก เเละหนังหุ้มรถ เเละผูกรถออกมา
พระราชาก็ทรงปลื้มปรีดาว่า "การหาความจริงของพญาสุนัขตัวนี้ช่างสมจริงยิ่งนัก"
พระโพธิสัตว์ได้ทูลเเก่พระราชาไม่ให้ทรงมีอคติ 4 เเละให้ราชธรรมจริยา (กุศลกรรมบถ) 10 ประการ ว่า "ข้าเเต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระองค์จงประพฤติธรรมในพระชนกชนนีเถิด จงเป็นผู้ไม่ประมาทเถิด" เเละถวายพระพรให้พระราชาทรงตั้งอยู่ในเบญจศีล (ศีล5) ตลอดไป
พระราชาทรงเลื่อมใส พระราชทานอภัยทานเเก่สรรพสัตว์ให้ทรงตั้งนิยตภัตทาน(การให้อาหารตลอดไป) เเก่สุนัขทั้งหลาย
ชนทั้งหลายตั้งอยู่ในโอวาทของพระโพธิสัตว์ ทำกุศล มีการให้ทานเป็นต้น ไปเกิดในสุคติ เช่น เทวโลก (โลกสวรรค์) เป็นอันมาก