เรื่องพระเถระชื่อ รมณียวิหารี
เล่ากันมาว่า พระเถระนั้น เป็นผู้มีปุญญาธิการอันกระทำไว้ดีแล้ว ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อน ๆ สั่งสมบุญไว้เป็นอันมากในภพนั้น ๆ ในกัปที่ ๙๑ จากภัทรกัปนี้ ได้เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระนามว่า วิปัสสี แล้วมีจิตเลื่อมใส ถวายบังคมด้วยเบญจางคประดิษฐ์ ทำการบูชาด้วยดอกหงอนไก่ ด้วยบุญกรรมนั้น เขาเกิดในเทวโลกแล้ว ครั้นจุติจากเทวโลก มาเกิดเป็นมนุษย์ก็กระทำบุญอยู่เนืองๆ จึงท่องเที่ยวไปมา อยู่ในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
ในพุทธุปบาทกาลนี้ ได้เกิดเป็นบุตรของเศรษฐีคนหนึ่ง ในกรุงราชคฤห์ เป็นผู้หมกมุ่นในกามคุณ เพราะความมัวเมาในความเป็นหนุ่ม วันหนึ่ง เขาเห็นบุรุษคนหนึ่ง เป็นชู้กับเมียเขา ถูกลงโทษด้วยวิธีต่าง ๆ เกิดความสลดใจ ครั้นได้ฟังธรรมในสำนักของพระศาสดาแล้วจึงออกบวช แม้จะบวชแล้วก็ตาม แต่เพราะความเป็นคนมีราคจริต จึงปัดกวาดบริเวณจนสะอาด ตั้งน้ำฉัน น้ำใช้ไว้อย่างดี ตกแต่งเตียงตั่งอย่างเรียบร้อย. ด้วยเหตุนั้น ท่านจึงมีนามปรากฏว่า" รมณียวิหารี" .
เพราะความเป็นผู้หนาแน่นด้วยราคะ สติของท่านจึงหย่อน ไม่พิจารณาให้ดี จึงต้องอาบัติในเพราะตั้งใจทำน้ำสุกกะให้เคลื่อน แต่นั้นท่านเกิดความเดือดร้อนใจว่า น่าตำหนิตัวเราจริงหนอ เราเป็นอย่างนี้ พึงบริโภคอาหารที่เขาถวายด้วยศรัทธา ได้อย่างไร อย่ากระนั้นเลย เราควรสึกเสียดีกว่า คิดดังนี้แล้ว จึงเดินทางไปเพื่ออำลาพระอาจารย์ ระหว่างทางท่านแวะพักใต้ร่มไม้.
คราวนั้น หมู่เกวียนหมู่หนึ่งเดินผ่านทางนั้นไป โคที่เขาเทียมเกวียนตัวหนึ่งเหน็ดเหนื่อยมา จึงลื่นพาเกวียนตกหล่ม แม้พยายามอยู่ก็ไม่อาจพาเกวียนขึ้นจากหล่มได้ เจ้าของเกวียนจึงปลดมันออกจากแอก ให้หญ้าให้น้ำ พอหายเหนื่อยแล้ว ก็เทียมมันเข้าที่แอกอีก มันพยายามอยู่ไม่นานก็ลากเกวียนขึ้นจากหล่มได้ จากนั้นเดินทางต่อไป.
พระเถระเห็นดังนั้นก็คิดว่า โคตัวนี้แม้พลาดไปแล้วหนหนึ่ง ยังลุกขึ้นนำธุระของตนไปได้ ฉันใด แม้เราก็ฉันนั้น แม้จะพลั้งพลาดไปบ้าง ครั้งหนึ่ง ด้วยอำนาจกิเลส ก็ควรจะลุกขึ้นบำเพ็ญสมณธรรม คิดดังนี้แล้ว เกิดโยนิโสมนสิการ จึงกลับไปแจ้งความเป็นไปของตน แก่พระอุบาลีเถระ ออกจากอาบัติโดยการอยู่ปริวาส กระทำศีลให้บริสุทธิ์ดุจเดิม เจริญวิปัสสนา ไม่นานนักก็ได้บรรลุพระอรหัต
ครั้นบรรลุพระอรหัตแล้ว เสวยวิมุตติสุข ได้กล่าวคาถาอันแสดงถึงการบรรลุอริยธรรม พร้อมกับข้อปฏิบัติเบื้องต้นของตนว่า
โคอาชาไนยตัวสมบูรณ์ พลาดล้มแล้ว ย่อมกลับ ลุกขึ้นตั้งตัวได้ ฉันใด
ท่านทั้งหลายจงทรงจำเราไว้ว่า เป็นสาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้สมบูรณ์ด้วยทัสสนะนั้นเถิด
จบเรื่อง พระเถระชื่อ รมณียวิหารี
ประเด็นน่าสนใจ
เมื่อสติยังไม่บริบูรณ์ย่อมมีโอกาสผิดพลาดเสมอ แต่เมื่อผิดไปแล้ว สมควรแก้ไขตนเอง นั่นคือให้โอกาสตนเองเริ่มต้นทำในสิ่งดีอีกครั้ง โอกาสมีให้เสมอสำหรับการเริ่มต้น เมื่อมีโอกาสสมควรใช้โอกาสให้เต็มที่ ก่อนที่โอกาสนั้นจะหมดไป
Cr.ขุนพลไร้เงา
พบกันใหม่โอกาสหน้า
ราตรีสวัสดิ์พระรัตนตรัย