ปฐมเหตุบัญญัติว้จจกุฎีวัตร ครั้งที่ ๒
ครั้นต่อมา ภิกษุทั้งหลายถ่ายอุจจาระตามลำดับผู้พรรษาแก่กว่า ทำให้ พระภิกษุนวกะทั้งหลายที่มาถึงห้องส้วมก่อน และกำลังปวดอุจจาระก็ต้องรอ เมื่อท่านกลั้นอุจจาระไม่ไหวได้เป็นลมสลบลง
ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนี้แด่พระผู้มีพระภาคเจ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงทรงสอบถาม
พระผู้มีพระภาคเจ้า “ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข่าวว่า ภิกษุทั้งหลายถ่ายอุจจาระในวัจจกุฎี ตามลำดับผู้แก่กว่า นวกะภิกษุทั้งหลายมาถึงก่อน ปวด อุจจาระก็ต้องรอ พวกเธอกลั้นอุจจาระจนสลบล้มลงจริงหรือ”
ภิกษุ “จริง พระพุทธเจ้าข้า”
พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงทรงรับสั่งแก่ภิกษุทั้งหลายว่า
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงถ่ายอุจจาระในวัจจกุฏีตามลำดับผู้ แก่กว่า รูปใดถ่ายอุจจาระในวัจจกุฏีตามลำดับผู้แก่กว่า ต้องอาบัติทุกกฎ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ถ่ายอุจจาระ ตามลำดับผู้มาถึง ”
สิ่งที่สะท้อนคิดจากเหตุการณ์นี้ก็คือ การปฏิบ้ติที่ให้เกียรติกันตามลำดับ ผู้แก่กว่าหรือภันเตนั้น ไม่สามารถใช้ได้ทุกกรณี โดยมีข้อยกเว้นในกรณี
๑) เรื่องการขับถ่าย ซึ่งจะต้องใช้ตามลำดับผู้มาถึงก่อน เพราะทุกคนมี ความทุกข์กายเสมอกันในเรื่องการปวดอุจจาระ-ปัสสาวะ
๒) แม้ในกรณีการ ทำงานก็ยึดถือความรู้ ความสามารถในการทำงานนั้นๆเป็นที่ตั้ง มิใช่ถือภันเต-อาวุโส ดังตัวอย่างพระอัญญาโกณฑัญญะ ซึ่งเป็นปฐมสาวก เป็นพระอรหันต์สาวกรูปแรก ท่านก็เคารพให้เกียรติแก่พระสารีบุตร ผู้เป็นอัครสาวกเบื้องขวา ผู้เลิศด้วยปัญญา แม้บวชหลังท่าน เป็นอาวุโส ท่านก็มิได้ถือหลัก ภันเต-อาวุโส ท่านจึงออกจาริก ปลีกวิเวกในป่าหิมพานต์ เพื่อให้พระสารีบุตร สามารถทำงาน เผยแผ่พระพุทธศาสนาได้อย่างเต็มที่
เรียบเรียงจากพระธรรมเทศนาหลวงพ่อทัตตชีโว
จากหนังสือ ล้างก้น ล้างใจ ไปนิพพาน ฉบับเเก้ไข