เหตุผลของความรักที่ยั่งยืน
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย ความรักก็มักจะมาควบคู่กับความทุกข์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเสมอหากเราจะรักอย่างไร้ทุกข์ก็ดูจะทำได้ยากแสนยาก เพราะความรักเกิดจากความผูกพันระหว่างคน 2 คน ที่มีความแตกต่างกัน
ความรักมักจะเริ่มเกิดขึ้นในช่วงที่เรายังเป็นวัยรุ่น เพราะร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่วัยหนุ่มสาว เริ่มผลิตฮอร์โมนเพศชาย ฮอร์โมนเพศหญิง เริ่มมองเพศตรงข้ามแล้วรู้สึกถูกใจชอบคนนั้นคนนี้ ความชอบเหล่านั้นพัฒนามาเป็นความรัก ซึ่งมีทั้งด้านบวกและด้านลบที่จะทำให้เราเกิดความพอใจ หรือความทุกข์ได้มากทีเดียว
ถ้าเริ่มรักด้วยความปรารถนาดี มีความเสียสละเป็นพื้นฐาน ก็จะถือเป็นความรักในด้านบวก แต่ถ้ามีความรักที่เต็มไปด้วยความเห็นแก่ตัว เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง พอไม่ได้อย่างใจตัวเองก็ตีโพยตีพาย ถือเป็นความรักในด้านลบก็จะสร้างความทุกข์ได้มาก
การจะเริ่มความรักแบบไม่เป็นทุกข์ ให้เริ่มตั้งแต่แรกเริ่มที่จะรัก เมื่อรักใครแล้วก็ควรเรียนรู้ความพอดีของกันและกัน เมื่อรู้จักความพอดีของกันและกันแล้วก็จะมีความเกรงใจระหว่างกันมากขึ้น แต่ถ้ามากเกินพอดี ก็เหมือนกับสินค้าที่ล้นตลาด
แม้จะมีคุณภาพดี แต่มีมากเกินไป ราคาของสินค้าก็จะลดลง ความรักถ้ามีให้และแสดงออกมากเกินไป แคร์มากเกินไป โทรหาบ่อยๆ วันละเป็น 10 ครั้ง นอกจากจะทำให้อีกฝ่ายรู้สึกรำคาญแล้ว ยังทำให้เสียเวลา เสียการงาน เสียการเรียน และคุณค่าในตัวเราก็จะลดลงอีกด้วย
ฉะนั้นถ้าคนไหนรู้จักควบคุมตัวเองให้พอดีๆ แล้ว ตัวเราก็จะมีค่าในสายตาเขามากขึ้น มีความเคารพซึ่งกันและกันมากขึ้นและในขณะเดียวกัน ก็จะทำให้เป็นทุกข์น้อยลง
โดยเฉพาะในช่วงวัยรุ่น ต้องคำนึงถึงความพอดีให้มาก จะได้ไม่เสียการเรียน และไม่ควรมีแฟนหลายคนในเวลาเดียวกัน เพราะจะยิ่งมีผลเสียทั้งต่อตัวเอง และบุคคลรอบข้าง การมีแฟนหลายคนตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นนั้น พอทำบ่อยๆ ก็จะกลายเป็นความคุ้นเคย
เมื่อแต่งงานมีครอบครัว ความคุ้นเคยก็จะทำให้ไปมีกิ๊ก มีบุคคลที่สามก็จะถือเป็นการผิดศีลข้อสาม มีทุกข์รออยู่ในอนาคต ทั้งชาตินี้และในชีวิตหลังความตายอย่างแน่นอน
ส่วนการมีความรักในช่วงเวลาสั้นๆ ต้องพิจารณาดูว่าหากยังเป็นเพียงคู่รักที่ยังไม่ได้แต่งงานเป็นครอบครัวเดียวกันก็อย่าให้ล่วงล้ำก้ำเกินกัน เพราะถ้าล่วงล้ำก้ำเกินกันแล้ว ก็จะผิดศีลเช่นกันต้องรู้จักควบคุมตนเอง
ปู่ ย่า ตา ยาย ท่านสอนไว้ว่า ถ้ารักสนุกก็จะทุกข์ถนัด ในเวลาเฉพาะหน้าเรารู้สึกสนุก แต่พอเอาจริงมีเรื่องกันขึ้นมา หากเป็นดาราที่มีชื่อเสียงก็จะกลายเป็นข่าวคราวใหญ่โตรู้กันทั้งบ้านทั้งเมือง ส่งผลเสียทั้งต่อตนเองและครอบครัว
ยิ่งถ้าเกิดไปพลาดพลั้งมีลูก ก็ยิ่งกระเทือนไปถึงลูกเป็นเรื่องใหญ่ ไม่คุ้มกับความสนุกที่เกิดขึ้นเพียงชั่ววูบ สู้ทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมตัดไฟแต่ต้นลมเสีย ก็จะมีแต่ความสุข
สำหรับการเลือกแฟนที่จะมาเป็นคู่สร้างคู่สมและอยู่กันอย่างมีความสุขตลอดไปนั้น
ให้ปฏิบัติตามหลัก 4 ข้อ คือ
1. แบ่งปันกัน อิ่มด้วยกัน อดด้วยกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน
2. มีปิยวาจา ให้เกียรติซึ่งกันและกัน
3. บำเพ็ญประโยชน์ต่อกันและกัน งานในบ้านอะไรที่ช่วยทำได้ ก็ให้ช่วยกันทำ และช่วยกันทำงานหารายได้มาดูแลครอบครัว ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
4. ต้องวางตัวให้สมฐานะ หากเพื่อนภรรยา เพื่อนสามีมาที่บ้าน ก็ให้ดูแลต้อนรับอย่างดี เมื่อเป็นพ่อแม่ ก็วางตัวให้เหมาะสม ถ้าต้องไปเจอพ่อแม่ของอีกฝ่าย ก็ต้องมีความเคารพให้เกียรติไม่ดูถูกกันทำอย่างสม่ำเสมอ เป็นคน friendly ยิ้มแย้มแจ่มใส พอทุกอย่างลงตัวเหมาะสม
ความรักก็จะยั่งยืน ซึ่งหลักทั้ง 4 ข้อข้างต้นนั้น ก็คือ สังคหวัตถุ 4 ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา และสมานัตตตา สูตรสำเร็จของการครองคู่ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ไว้กับพวกเรานั้นเอง ขอเพียงเราทำตามอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
หมั่นดูแลเอาใจใส่หาความพอดีของกันและกัน เพียงเท่านี้ทุกคนก็จะมีความรักอย่างไม่ต้องทุกข์ได้
เจริญพร
พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ