ยุคของพระศรีอริยเมตไตรย
ยุคพุทธกาลครั้งหน้านั้น พระศรีอริยเมตไตรยจะเสด็จลงมาบังเกิด แล้วมนุษย์ในยุคนั้น จะมีอายุเฉลี่ยประมาณ 80,000 ปี ซึ่งถือว่ามีอายุค่อนข้างยืน เพราะฉะนั้น มนุษย์ในยุคนั้นมีบุญมาก และจะมีสภาพแวดล้อมสุขสบาย
คนส่วนใหญ่เป็นคนดี หาคนคิดร้ายยาก โจรผู้ร้ายไม่มี ทั้งโลกจึงไม่มีความจำเป็นต้องมีทหารตำรวจ เพราะคนไม่รบราฆ่าฟันกัน คนทั้งโลกมีวัฒนธรรมเดียวและปกครองร่วมกันโดยธรรม เราเกิดมาไม่ต้องเรียนภาษาอังกฤษ จีน ฝรั่งเศสเพิ่มเติม เพราะมีภาษาเดียวที่ใช้สื่อสารกันได้ทั่วโลก
โลกอุดมสมบูรณ์ ไม่มีคนชั้นต่ำ มีแต่คนชั้นสูง ไม่มีคนขี้เหร่ ไม่มีการประกวดนางงามจักรวาล เพราะคนทุกคนเกิดมาสวยหล่อ ในยุคนั้นทุกอย่างสมบูรณ์พูนผล
ในยุคของพระศรีอริยเมตไตรยนี้ คนจะไปเกิดได้ต้องมีบุญ เราต้องตั้งใจสร้างบุญมากๆ ทั้งด้วยการให้ทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา แล้วอธิษฐานว่า ด้วยบุญนี้ขอให้ข้าพเจ้าได้ไปเกิดในยุคพระศรีอริยเมตไตรยด้วยเถิด ดังนั้น เราต้องมีต้นทุนคือบุญ แล้วอธิษฐานจิตกำกับก็จะสำเร็จ
ข้อคิดสำคัญที่คนเรามองข้ามซึ่งสามารถชี้ได้ว่า เราจะไปเกิดยุคพระศรีอริยเมตไตรยได้สำเร็จจริงหรือไม่ คือจากยุคของเราในยุคนี้ ไปถึงยุคพระศรีอริยเมตไตรยมีระยะเวลานานหลายอสงไขยปี ซึ่งยาวนานมาก
พระเจ้าจักรพรรดิ ปกครองทวีปทั้ง ๔ ด้วยความเป็นธรรม
หากเราสร้างบุญไว้ เมื่อละจากโลกนี้ได้ไปเกิดบนสวรรค์ คนทั่วไปก็คิดว่าประสบความสำเร็จแล้ว แต่เราได้คิดหรือไม่ว่าอายุขัยเทวดาไม่กี่ร้อยล้านปี อย่างสวรรค์ชั้นดุสิตเทวดามีอายุยืน 4,000 ปีทิพย์ ซึ่งวันหนึ่งคืนหนึ่งบนสวรรค์ชั้นดุสิตนั้น เท่ากับเวลาบนโลกเรา 400 ปี คำนวณแล้ว 4,000 ปีทิพย์ เท่ากับ 576 ล้านปีเมืองมนุษย์ ซึ่งยังห่างอสงไขยปีมาก
แล้วถ้าเราไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิต พอบุญหมดก็ต้องลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ ถึงตอนนั้นไม่มีพระพุทธศาสนา เพราะเลยยุคนี้ไปแล้ว คำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นี้ไม่มีแล้ว พระศรีอริยเมตไตรยก็ยังไม่มาบังเกิดขึ้น เราเกิดมาในยุคนั้นจะไม่เจอพระพุทธศาสนา ไม่มีพระภิกษุ ไม่มีใครสอนเรื่องบุญ บาป
เราจึงมีโอกาสทำบาปมาก พอทำบาปแล้วก็ต้องตกไปอบาย หมดวิบากจากอบายมาเกิดเป็นคน ก็ทำบาปอีกเพราะไม่มีพระพุทธศาสนา แล้วต้องลงอบายอีก เรามีโอกาสตกนรกได้เป็นร้อยเป็นพันรอบเลยทีเดียว จนพลัดหลงไปไม่มีโอกาสเกิดในยุคพระศรีอริยเมตไตรย
เพราะฉะนั้น หนทางเดียวที่จะปลอดภัยคือ เราต้องสั่งสมบุญในชาติปัจจุบันให้เต็มที่ที่สุด จนบุญเรามากพอแล้วไปเกิดบนดุสิตบุรี ซึ่งเป็นสวรรค์ชั้นของนักสร้างบารมี เกิดบนนั้นจะไม่ได้หลงเพลินไปกับเทวดานางฟ้า แต่พอไปเกิดแล้วตั้งใจปฏิบัติธรรมต่อ ถึงแม้ว่ากายละเอียดจะทำได้ผลไม่เต็มที่นัก แต่ยังได้ปฏิบัติธรรมทีละนิดๆ เหมือนน้ำซึมบ่อทราย
พอครบอายุขัย กายเทวดาหมดอายุอยู่ไม่ได้ต้องจุติ คือ ตาย แต่ถ้าบุญเรายังมี ก็จะไปเกิดในที่เก่าวิมานเดิม เกิดใหม่ในเสี้ยววินาทีถัดมา แล้วอยู่ไปอีก 576 ล้านปี พอกายทิพย์หมดอายุก็จุติหายไป แล้วเกิดใหม่ในเสี้ยววินาทีต่อมา อย่างนี้เป็นล้านๆ รอบ
จนกระทั่งถึงยุคพระศรีอริยเมตไตรย อย่างนี้ปลอดภัย แต่บุญเราจะต้องมากพอที่จะอยู่บนสวรรค์ ไม่มาเกิดเป็นมนุษย์โลกเลยตลอด 1 พุทธันดร นานเป็นอสงไขยปี นี่คือความจริงที่คนส่วนใหญ่มองข้าม ดังนั้น ถึงในชาติปัจจุบันของเราจะอายุขัยสั้นเฉลี่ยเพียง 75 ปี แต่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก
เราต้องใช้เวลาทุกวันทุกคืนที่ผ่านไปให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่ “เวลาไม่ใช่เป็นเงินเป็นทอง แต่เวลาเป็นบุญเป็นบารมี” อย่าประมาท จงสร้างบุญสร้างบารมีให้เต็มที่
เรารู้แล้วว่า มีทั้งกัปไขขึ้นและกัปไขลง ส่วนในยุคปัจจุบันอยู่ในช่วงยุคกัปไขลง จึงทำให้มนุษย์ห่างไกลจากศีลธรรมมากขึ้น มีโอกาสทำผิดพลาดสูง วัฏสงสารที่ยาวไกลหาเบื้องต้นและที่สุดไม่ได้นี้ เราจึงจำเป็นต้องสร้างบุญบารมีเพื่อความปลอดภัย และเป็นเสบียงในการเดินทางไกลไปในวัฏสงสาร
อย่างที่เรารู้ว่า อายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์ในยุคปัจจุบันอยู่ที่ 75 ปี ลองนับกันดูเล่นๆ ว่า เราเหลือเวลาในการสร้างบารมีอีกนานเท่าไร ดังนั้น เพื่อความไม่ประมาทเราควรรีบสั่งสมบุญ สั่งสมความดีนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปอย่างเต็มที่
เจริญพร
พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ