หัวใจกัลยาณมิตร ตอนที่ ๒
คุณยายสอนหมด ทั้งคนที่มาวัดเก่า คนมาวัดใหม่ หรือคนที่เพิ่งเริ่มจะเข้าวัด หรือไม่ค่อยชอบมาวัด คุยหมด คุยได้ทุกประเภท บางทีนั่งจับเข่าจับแขนเอามือลูบหลังคุยกันเลย ให้ความเป็นกันเอง ไม่ถือตัว คุยไปสอนธรรมะไปด้วย สอนให้เขามีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง สอนให้อยู่ในบุญ
มีอีกตัวอย่างหนึ่งที่อาตมาเคยเห็น มีครอบครัวหนึ่ง ภรรยาเป็นคนมาวัดกับลูกสาวทุกวันอาทิตย์ ส่วนสามีไม่เคยมาวัด แต่ก็ไม่ขัด เพราะเห็นว่ามาวัด พอตัวภรรยามาวัดนานเข้าเริ่มคุ้นเข้าก็ไปกราบขอบารมีคุณยาย ขอให้คุณยายดึงให้สามีเข้าวัดด้วย คุณยายก็บอก เออ...เอาสิ เดี๋ยวยายจะช่วย แล้วคุณพามาหายายนะ บอกยายให้มาหา ท่านพูดง่ายๆ อย่างนี้ อยู่ใกล้ๆ ยาย ดูอะไรมันง่ายไปหมด ท่านพูดเหมือนง่ายๆ ตามประสาผู้มีบุญ
โยมคนนั้นเขากลับไปบ้าน พอวันศุกร์วันเสาร์ เขาก็คุยกับสามี นี่พี่ คุณยายคิดถึง ท่านอยากให้ไปหาสามีเขาก็ว่า เออ... ๒-๓ วันนี้รู้สึกแปลกๆ มันรูสึกอยากจะไปวัด ก็ดีเหมือนกันนะ ไปดูซิ เธอกับลูกไปวัดได้ทุกวันอาทิตย์ ไปทำอะไรกัน
พอวันอาทิตย์เขาก็พากันมาวัด พามาหาคุณยาย คุณยายจำตัวภรรยาได้ โดยปกติคุณยายเป็นคนยกมือไหว้ทักคนก่อนเสมอ ไม่ว่าคนนั้นจะอายุมากกว่าหรือน้อยกว่าก็ตาม แม้จะเดินเจอกันริมถนน คุณยายยกมือทัก สวัสดีคุณ ทักพร้อมกับเดินไปคุยกับทางสามีก่อน เออ คุณๆ เชื่อยายเถอะ คนเราเกิดมามันต้องเข้าวัดทุกคนแหละ ถ้าคุณไม่เข้าตอนเป็น เขาก็ต้องหามคุณเข้าตอนตาย ตอนตายนี่นะ เขาหามแล้วก็เข้าเมรุไปเลยนะ คุณก็จะเหลือแค่ขี้เถ้ากองหนี่ง ตายแล้วสมบัติทางโลกอะไรๆ ก็เอาไปไม่ได้
แต่ถ้าคุณเข้าวัดสร้างความดีตอนเป็น คุณยังได้บุญติดตัวไป บุญนั้นจะติดตัวหลายภพหลายชาติ และบุญนั้นก็ เป็นสมบัติของคุณนั้นแหละ เอาไว้กินไว้ใช้ในภพเบื้องหน้าคุณทำง่ายๆ เวลาเข้าวัด ทำไม่ยากหรอก ตอนเช้าก็มานั้งธรรมะกับเขา หลวงพ่อธัมมะท่านสอน ตอนบ่ายฟังหลวงพ่อทัตตะเทศน์บ้าง ถ้ามันเมื่อยนัก คุณก็ไปช่วยเด็กวัดกวาดใบไม้ ถูศาลา เช็ดภาชนะอุปกรณ์ ทำความสะอาดอะไรต่ออะไร ช่วยๆ เขาไปเรื่อย คุณต้องมาบ่อยๆ นะ ทำให้มันคุ้นเคย ให้มันคุ้นเคยกับกลุ่มพรรคพวกผู้ทำบุญด้วยกัน ทำความคุ้นเคยกับคนที่มาวัดทุกคน แล้วมันจะคุ้นไปจนกระทั่งเทวดาที่รักษาวัดคุ้นกระทั่งสิงสาราสัตว์ในวัดทั้งหมด
มันดีนะ เวลาคุณตาย ไปเจอยมบาลเขาถามว่า คุณทำความดีอะไร คุณจะได้ตอบได้ว่า เคยมาวัดพระธรรมกาย เคยมาทำโน่นทำนี่ ช่วยงานบุญของวัดเคยพบคนโน้นคนนี้ ไม่เชื่อไปถามเทวดาที่เฝ้าวัดดูสิ คุณจะได้อ้างพยานได้ สิงสาราสัตว์ นกกาแถวนั้น กายละเอียดข้างในมันเป็นคนทั้งนั้นแหละ เขาเห็นคุณเขาก็จำได้ เดี๋ยวเขาก็เป็นพยานให้คุณเองแหละ เพราะฉะนั้นคุณมาวัดบ่อยๆ มาให้คุ้นเถอะ อีกหน่อย สิ่งเหล่านี้จะช่วยคุณได้ แล้วคุณก็จะรอดตัว ตายไปแล้วมันไม่สูญนะ มันยังไม่หมดกิเลส มันยังต้องเกิดอีก จะได้มีสมบัติติดตัวไปทุกภพทุกชาติ
คนเราทำความดี ทำความชั่ว ตายแล้วรู้กัน ตอนยังเป็นอยู่บางทีมันยังไม่ค่อยรู้ แต่ตายแล้วรู้หมด ทำความดีอะไร เท่าไหร่ๆ รู้หมดทำความชั่วอะไรเท่าไหร่รู้หมดเลย ปิดบังกันไม่ได้ เทวดาหรือสัตว์นรก เขาไม่มีปกปิดกันนะ ไม่มีการโกหกกัน การปกปิด การโกหกมันมี แต่ภพมนุษย์ภพเดียวเท่านั้นแหละ ภพอื่นเขาไม่ปิด มีอะไรก็พูดกันหมดเลย ไม่มีโกหกกันหรอก เพราะฉะนั้น เวลาคุณทำความดีอะไร มนุษย์เทวดาเขาเห็น อีกหน่อยเขาก็ไปสรรเสริญความดีของคุณ แล้วคุณก็จะรอดตัวไม่ต้องตกไปอยู่อบาย
นี่ แหละ เป็นเทคนิคอย่างหนึ่งในการสอนคนของคุณยาย ยายจะคุยกับเขาไปเรื่อย ยกอุปมา อุทาหรณ์ไปเรื่อย คุณยายจะสอนคนหมดเลย สอนอย่างเป็นกันเอง สอนอย่างผู้ใหญ่สอนลูกหลาน อาตมาได้พบ ได้เห็นจริงๆ บางครั้งท่านสอนแม้กระทั่งนักโทษ ผู้ต้องขัง ผู้ต้องขังนี้ก็เหมือนกลุ่มคนที่ด้อยโอกาสหมดอิสรภาพเหมือนกลุ่มคนที่ถูกลืม แต่คุณยายก็ไม่ลืมที่จะให้เขาได้บุญ สอนเขาแล้วก็บอกหนทางให้เขาทำความดี
ลูกศิษย์คุณยายบางคนที่เป็นเจ้าหน้าที่บริหารของกรมราชทัณฑ์ ที่ทัณฑลถานหญิงคลอง ๕ บางทีเขามาหาอาตมา มาขอรับบริจาคอาหารที่เหลือจากพระฉัน มื้อเช้ามื้อเพล เอาไปแจกผู้ต้องขัง บางทีอาหารที่วัดมีเหลือบ้างก็เอาไปเฉลี่ยๆ ในแต่ละวัน ก็ได้ไม่ครบทุกคนหรอก แต่ก็พอได้บ้าง วันนี้อาจจะเป็นกลุ่ม A ได้ พรุ่งนี้ก็สลับเป็นของกลุ่ม B หรือ C สลับๆ กันไป เป็นอันว่าใน ๑ สัปดาห์ ได้ส่วนแบ่งอาหาร กับข้าวเสริมไปกินกันทุกคน ผู้ต้องขังบางเดือนก็มี ๓๐๐ คนบางเดือนก็มีถึง ๗๐๐ คน มีอะไรไปให้กินเสริมได้ก็ดี อาตมาเองก็ไม่อยากเก็บพวกของเหลือเอาไว้มาก เราได้ทำบุญทำทานไปด้วย เวลาพวกเขามารับอาหารที่เหลือจะมีผู้ต้องขังติดมาช่วยยกของประมาณสัก ๕ คน เป็นกลุ่มที่ใกล้จะพ้นโทษ อีกสัก ๕ วัน ๗ วัน ก็พ้นโทษ พวกนี้จะไม่หนี เพราะอีกไม่กี่วันจะพ้นโทษแล้ว กลุ่มคนพวกนี้เรามักจะเห็นที่ กทม. บางทีเอาไปช่วยลอกท่อระบายนํ้า ตามถนนสายต่างๆ จะเป็นชุดที่ใกล้ๆ พ้นโทษ
บางวันกลุ่มนี้ก็มาเจอคุณยายช่วงบ่าย คุณยายมักจะเรียกมาคุย เรียกตัวผู้คุมมาด้วย โอ้ สงสารจังเลยไปเผลอทำความผิดอีท่าไหนเข้าล่ะ ถึงต้องมาเป็นอย่างนี้ เอ้า พวกเราเดี๋ยวเอาข้าว เอากับข้าวของยายไปกินเป็นของเหลือของพระ เป็นของมีสิรีมงคล คุณกินข้าวยาย แล้วสร้างความดีนะ พ้นโทษไปแล้วอย่าไปทำผิดทำพลาดอีก เดี๋ยวเขาจับมาเข้าคุกอีก สร้างความดีอย่างยาย ยายเป็นคนมักน้อย สันโดษ ยินดีในปัจจัยตามมีตามได้ แล้วคุณต้องขยันนะ ขยันสร้างฐานะ สร้างอาชีพด้วยสัมมาอาชีพ อย่าไปติดในอบายมุข สร้างบุญกุศล ทำบุญใส่บาตร รักษาศีล ๕ สวดมนต์ไหว้พระ อีกหน่อยคุณก็ตั้งฐานะได้ เชื่อยายเถอะ
แล้วท่านก็หันไปบอกผู้คุมว่า ถ้ายายมีบุญอะไรหรือที่วัดเขามีบุญอะไร คุณให้พวกเขาร่วมบุญกับยาย เอาบุญกับยายด้วยนะ คุณยายจะโปรดไปหมด แม้กระทั่งผู้ต้องขัง ซึ่งเป็นเหมือนบุคคลที่ถูกลืม เราก็ไม่คิดว่า เราจะไปบอกบุญพวกนี้ยังไง แต่สำหรับคุณยาย ท่านก็จะอนุ-เคราะห์ทุกๆ คน เพื่อให้ทุกๆ คนได้สร้างบุญติดตัวไปในภพ เบื้องหน้า
ท่านก็หันมาหาอาตมาว่า เออ มีอะไรให้เขาได้บุญกับวัดเราบ้างไหม อาตมาก็บอกว่า เขาออกมาช่วยเต็มที่ไม่ได้ ต้องอยู่ในพื้นที่ที่จำกัดขอบเขต เราอาจจะต้องเอางานไปให้เขาทำที่บ้าน บ้านเขาหลังใหญ่ อยู่คลองห้า คนเยอะ ท่านบอก เออ...ดีเหมือนกัน ยายสังเกตเสื่อของวัดเรามันเก่า ขอบเสื่อลุ่ยๆ ล่ายๆ มุมก็แตกแล้วเอาไปให้เขาช่วยเย็บขอบซ่อมขอบสักหน่อย เสื่อของเรามีเป็นร้อยๆ เกือบพันแน่ะ ค่อยๆ ทยอยเอาไปให้เขารับบุญบ้าง คนพวกนี้เขาไม่มีเงิน แต่มีแรง มีฝีมือ และที่สำคัญเขามีใจอยากจะเอาบุญกับยาย เพราะฉะนั้น ท่านช่วยเขานะ อาตมาก็เลยถามไปตามหน่วยงานต่างๆ ใครมีอะไรให้เขาช่วยอีก ระยะหลังก็มีไปแยะเหมือนกัน มีการผนึกซอง ปิดแสตมป์ วารสาร ส่งเอกสารของโครงการสอบตอบปัญหาธรรมะทางก้าวหน้าของชมรมพุทธฯ ส่งอะไรต่ออะไรไปทางไปรษณีย์ เพราะงานของวัดเราส่งที เป็นหมื่นเป็นแสนฉบับ แล้วก็ได้คนกลุ่มนี้ช่วยร่วมรับบุญไป
พอพวกเขากราบลาไปแล้ว บางทีท่านนั่งเอน สบายๆ ท่านก็รำพึง เออ ไอ้ลูกหลานกู มึงไปทำอีท่าไหนให้เขาจับไปเข้าคุกได้ ท่านคุยกับอาตมา ถ้าไม่หัดไม่สอนให้เขาสร้างบุญนะ ไปในชาติหน้าเขาก็ไม่มีสมบัติ หรือได้สมบัติไปน้อย ต้องไปดิ้นรนสร้างฐานะประกอบอาชีพอะไรต่ออะไร หรือถ้าเผลอไผลไปคบคนพาลทำผิดศีลผิดธรรม ไปประกอบมิจฉาชีพ เดี๋ยวเขาก็ดิ้นรนเข้าคุกไปอีกแหละ เพราะฉะนั้นต้องสอนให้เขาทำความดี
คุณยายพูดกับอาตมา คุกในมนุษย์นี่ยังดีกว่าคุกในนรกนั่นแน่ะ คุกในมนุษย์ติดแล้วไม่กี่ปียังมีวันออก แต่ในนรกมันยาวนานหลายๆ ล้านปี บางทีหลาย ๆ กัปเชียวนะ ร้อนที่สุดมันก็ในนรก ร้อนจนกระทั่งตัวสัตว์นรกนี่ มอดไหม้เป็นจุล มหาจุล แล้วเครื่องทรมานนี่มีเฉพาะคนเลยเป็นสมบัติเฉพาะตัวเลย ตามกรรมที่คนนั้นๆ ทำมา เพราะสัตว์นรกทำกรรมมาไม่เหมือนกัน หนาวเย็นที่สุดก็ในนรก มันหนาวเย็นจนกระทั่งเนื้อตัวกระดูกนี่ป่นเป็นผุยผง ยายไปดูมาแล้ว ยายไม่อยากให้ใครลงไปในนรกเลย ยายอธิษฐานประจำนะ ขอข้าพเจ้าอย่าได้เผลอไผลสร้างความไม่ดี ให้สร้างความดียิ่งๆ ขึ้นไป อย่าได้ประมาท อย่าได้ตกนรก แล้วก็ให้ลูกหลานยายอย่าตกนรก คุณยาย ท่านมีมหากรุณาอันยิ่งใหญ่ที่จะปิดภัยในนรก ให้กับลูกหลานทุกคน
จากหนังสือ เกิดด้วยสองมือยาย
พระรังสฤษดิ์ อิทฺธิจินฺตโก