ผู้คัดหางเสือ ตอนที่ ๓

วันที่ 17 ธค. พ.ศ.2564

641217_%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B2-1.jpg

ผู้คัดหางเสือ ตอนที่ ๓

           ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๑๙ มีสิ่งที่คุณยายภูมิใจมากก็คือ ยายได้สร้างโรงครัว (อาคารยามา) สิ่งนี้เป็นสิ่งที่คุณยายปรารถนามานานแสนนาน เพื่อให้พระมีเวลาทำภาวนามากๆ ได้ศึกษาธรรมะศึกษาธรรมวินัย ยายก็เลยทำโรงครัวเหมือนอย่างวัดปากนํ้านี่แหละ เพื่อว่าในอนาคต เมื่อโรงครัวยังอยู่ ยายจะได้บุญเรื่อยๆ แม้ยายจะละโลกไปแล้ว โรงครัวยังทำอาหารเลี้ยงพระอยู่เรื่อยๆ ยายก็ยังได้บุญเรื่อยๆ นี่แหละเป็นความฉลาดในการหาบุญของท่าน

641217_%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B2-2.jpg

           เมื่อท่านคุยกับอาตมา ท่านก็จะบอกว่า ยังไงเมื่อยายตายไปแล้ว พระหมูท่านช่วยดูโรงครัวของยายด้วยนะ ยายจะได้บุญเรื่อยๆ ท่านบอกกับอาตมาว่า จะทำงานอะไรก็ทำไปเถอะ จะหล่อพระหรือจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ แต่อย่าลืมต้องดูครัวของยายด้วยนะ

           เคยถามคุณยายว่า ยายจะให้พระดูไปนานเท่าไหร่ ท่านก็บอกว่า เขาทำบุญฉลอง ๘๔ ปีของยาย ๘๔ ปี แล้ว หลวงพ่อธัมมะก็ยังไม่ให้ยายปลดเกษียณ ยังให้ยายเป็นประธานกฐินผ้าป่าเรื่อยๆ ทุกปี ท่านยังให้ยายนั่งเข้าที่ตามสมบัติทุกวัน ท่านเอางี้ก็แล้วกัน เอาแค่อายุ ๘๔ ปีก็พอแล้ว แล้วค่อยพักเกษียณกัน

641217_%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B2-3.jpg

          เพราะฉะนั้นหลายๆ คนถามอาตมาว่า จะต้องทำ ครัวไปจนตายหรือ ก็มักจะบอกว่า เออ ยายให้ช่วยดูแลรับปากกับคุณยายไปแล้ว ยังไงคงต้องทำไปเรื่อยๆ เคยถามเหมือนกันนะ ยายจะให้ครัวของยายเป็นอย่างไร นโยบายจะเอาอย่างไร ท่านมักจะบอกว่า ทำง่ายๆ เอาง่ายๆ กินกันตาย ทำให้พอ ทำให้ทันก็แล้วกัน กับข้าวก็ไม่ต้องเลิศหรูมากเหมือนตามภัตตาคาร เอาแบบพื้นๆ เราเป็นวัด เป็นนักบวช ไม่ต้องทำแช่งกับคนข้างนอก สู้เขาไม่ได้หรอก ยายอยู่วัดปากนั้า ที่ครัววัดปากนํ้าเขาทำอะไรมา ยายก็กินอย่างนั้นแหละ แล้วท่านก็สรูปว่า เรื่องกินเรื่องใหญ่ ถ้ามีกินแล้ว เดี๋ยวก็คุยกันรู้เรื่องจะทำงานอะไร ถ้าอิ่มท้องแล้ว คุยกันสบายๆ รู้เรื่องหมดแหละ

641217_%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B2-4.jpg

           เวลาทำอาหารนี่นะ พระเณรมีเท่าไหร่ เลี้ยงให้หมดเลย อุบาสก อุบาสิกาที่เข้ามาถือศีล ๘ ที่วัดนี่เลี้ยงให้หมด พวกเด็กนักเรียนที่มาช่วยงานก็เลี้ยงเขาด้วย พวกเด็กนักเรียนที่มาอบรม เลี้ยงเขาให้หมด ท่านบอก ที่ให้เลี้ยงพวกนักเรียนไม่ใช่เรื่องอะไร ยายขอเถอะ เพราะว่ายายนึกถึงหลวงพ่อธัมมะ ตอนท่านมาหายายใหม่ๆ ท่านเป็นนักเรียน ร.ร. สวนกุหลาบ นุ่งกางเกงก้นปะมาเลย ไม่มีสตางค์หรอก เด็กนักเรียนไม่ค่อยจะมีสตางค์เหมือนกัน ยายเลยสงสารพวกเด็กนักเรียน เห็นแล้วนึกถึงหลวงพ่อธัมมะสมัยโน้น พวกเด็กเหล่านี้ยังไม่ได้ทำมาหากินอะไร เพราะฉะนั้น มาถึงวัด เขามาช่วยงานวัด เป็นอาสาสมัคร เลี้ยงให้หมด

641217_%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B2-5.jpg


          ญาติโยมที่มาใหม่ๆ หรือคนที่เขามาทำบุญ เลี้ยงให้หมด แต่คนที่เขามาเก่าๆ แล้วท่านต้องพยายามปลูกฝังให้เขาเอามาทานเอง หรือเอามาเลี้ยงพรรคพวกในกลุ่มบ้าง หรือไม่ก็พยายามผลักดันให้เกิดร้านอาหารขึ้นมา นี่ท่านบอกนโยบายอย่างนี้จะได้ลดค่าใช้จ่ายของวัด

          สมัยก่อน ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๒๙ อาตมายังไม่บวช คุณยายเคยให้ทุนมาทำร้านอาหาร ให้มา ๑ หมื่นบาท เปิดร้านอาหารสมัยโน้นตั้งชื่อว่า ร้านอาหารทิพย์ กิจการก็เจริญรุ่งเรืองได้ปัจจัยเพิ่มมาใช้ซื้อหาอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ในครัว มาระยะหลังเราปรับรูปแบบการบริหารงานวัดใหม่ให้ร้านอาหารอยู่นอกวัด คุณยายก็ถามถึงร้านอาหารเป็นยังไงบ้าง ไม่รู้จะตอบท่านยังไง ตอบไม่ถูก ได้แต่บอกว่า ถูก take over ไปแล้ว ยายก็ว่า แล้วมันเป็นยังไง take over

          คุณยายจะพยายามหาวิธีการให้ว่า ทำยังไงถึงจะประหยัด ทำยังไงถึงจะลดค่าใช้จ่ายของวัดลงไปบ้าง การสร้างโรงครัวของคุณยาย เท่ากับว่าเป็นการหาหนทางที่จะเติมบุญเติมบารมีของท่านเรื่อยๆ ท่านฉลาดที่จะหาบุญเรื่อยๆ ท่านบอกว่า บุญเล็กบุญน้อย ยายจะเก็บให้หมด
ท่านมักจะสอนบ่อยๆ บุญนี้มีได้มันก็หมดได้นะ เพราะฉะนั้นต้องทำบุญบ่อยๆ กว่าเราจะละความชั่ว มาสร้างความดีได้นี้ เราเผลอทำความไม่ดีมาเท่าไหร่ก็ไม่รู้ ซึ่งสิ่งไม่ดีก็คือบาปอกุศลเหล่านั้น มันไม่ได้หายไปไหนหรอก มันเหมือนตอที่อยู่ใต้น้ำ ถ้าน้ำลด ตอมันก็โผล่ พอตอมันโผล่มากเข้ามากเข้า ก็เป็นอุปสรรคกับเรือที่กัญจรไปมา ซึ่งก็หมายถึงชีวิตของเรานั้นแหละ

641217_%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B2-6.jpg

          ยายมีชีวิตอยู่ริมน้ำมาตลอด ตั้งแต่เด็กๆ บ้านอยู่ริมแม่น้ำนครชัยศรี มาอยู่กับหลวงพ่อวัดปากน้ำ ก็อยู่ริมคลองภาษีเจริญ แม้มาอยู่วัดพระธรรมกาย กุฏิยายก็อยู่ข้างน้ำ พอน้ำลดนี่ตอมันโผล่นะ เพราะฉะนั้นต้องหมั่นทำบุญเยอะๆ เติมบุญของเราไปเรื่อย หนีตอใต้น้ำไปให้พ้น จนกระทั่งแม้มันมี ก็ไม่ทำอันตรายเราได้ ทำบุญหนีบาปทั้งหลายไปให้พ้น เพราะตอใต้น้ำนี่ มันโผล่ขึ้นมาแล้ว เป็นอุปสรรคในการสร้างบุญของพวกเรา

           คุณยายมักสอนว่า อย่าประมาทเชียวนะ ทำบุญกันไว้เยอะๆ อย่าลืมว่าบุญมีได้ ก็หมดได้นะ ถ้าไม่หมั่นสร้างบุญใหม่เรื่อยๆ มัวแต่ชะล่าใจ กินบุญเก่าไปเรื่อยๆ ที่สุดบุญเก่าหมด ก็ตกกระป๋องเลยทีเดียว หมดบุญ บาปอกุศลก็เล่นงานเอาละทีนี้ กว่าจะโงหัวขึ้นมาได้สร้างความดีก็อีกยาวนานหมดกันเป็นชาติๆ เป็นกัปๆ กันละ พรรคพวกเขาไปกันถึงไหนๆ แล้วนี่ยังคลานกระดึ๊บๆ อยู่นี่

641217_%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B2-7.jpg

           เมื่อทำบุญสร้างความดีแล้วต้อง*อธิษฐานนะ อธิษฐานหลายๆ ครั้งก็ได้ ยายยังอธิษฐานดังๆ เลย ยายชอบอธิษฐาน และมักจะอธิษฐานบ่อยๆ เพราะยายรู้ว่าคำอธิษฐานมีผลทีเดียว สิ่งนี้จะเป็นแผนผังการดำเนินชีวิตของเราในอนาคต ยิ่งเราได้อธิษฐานบ่อยๆ ก็จะยิ่งตอกยํ้าความสำเร็จ เราจะได้ล้อมคอกตัวเราเองไปสู่เส้นทางของความดีให้แน่นเข้า ให้รัดกุม ให้ละเอียดถี่ถ้วน คำอธิษฐานจะส่งผลยิ่งๆ ขึ้นไปภพในอนาคต ชีวิตเราจะดำเนินได้ตรงเป้าหมายที่สุดเลย ไม่ยักเยื้องไปไหน

          เรื่องคำอธิษฐานนี้สำคัญนะ ยายตั้งความปรารถนาไว้ว่า *ยายทำบุญแล้วขอให้ได้อธิษฐานบ่อยๆ แม้ไปในภพเบื้องหน้า ได้เกิดมาสร้างบารมี ก็ให้ได้อธิษฐานอีก ให้อธิษฐานซํ้าๆ ได้ละเอียดลึกซึ้งยิงๆ ขึ้นไปอีก ให้คำอธิษฐานส่งผลศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์มีเดช ให้ได้สร้างบารมีได้
ยิ่งๆ ขึ้นไป 

          นี้แหละ จะไปให้ถึงที่สุด หาบุญได้ ต้องใช้บุญให้เป็น เอาบุญต่อบุญให้ได้สร้างบุญยิ่งๆ ขึ้นไป

          คนส่วนมากทำบุญแล้วไม่ค่อยอธิษฐาน ผลบุญก็เลยส่งผลช้า และก็ส่งผลสะเปะสะปะไม่ตรงเป้า ยิ่งไปคบคนพาลเข้า เลยเอาสมบัติไปใช้สร้างความชั่ว ตายแล้วก็ต้องตกนรก น่าเสียดาย

          ยายสร้างบุญมามาก ยายยังต้องอธิษฐานล้อมคอกตัวเองเลย เพราะเรายังไม่หมดกิเลล ภพนี้เราทำบุญมาก ภพหน้าเวลาบุญส่งผล เราก็จะมีทรัพย์สมบัติมาก มีอำมาจมาก แต่หากเราเผลอเอาทรัพย์  เอาอำนาจไปใช้ในทางที่ผิด ไปใช้สร้างบาปอกุศล ไปเบียดเบียนใคร ไปฆ่าใครเข้าละก็แย่เลย เพราะมันจะส่งผลในภพต่อๆ ไป ให้มีโรคภัยใช้เจ็บเบียดเบียน และอายุสั้น โอกาสสร้างบารมีก็จะน้อย

641217_%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%AB%E0%B8%B2-8.jpg

           เพราะฉะนั้น ยายจะอธิษฐานบ่อยๆ ว่า ขอให้ข้าพเจ้าอย่าได้ไปเบียดเบียนใคร อย่าได้ไปฆ่าใคร และใครๆ ก็อย่าได้มาเบียดเบียนข้าพเจ้า อย่าได้มาฆ่าข้าพเจ้าได้ ให้ข้าพเจ้ามีร่างกายแข็งแรง มีอายุยืนยาว ได้สร้างบารมีได้นานๆ ทุกภพทุกชาติ

           แล้วพวกเราก็ต้องทำหน้าที่กัลยาณมิตรไปด้วย อย่างที่หลวงพ่อธัมมชโยบอกบ่อยๆ ว่า โอกาสที่จะสร้างบุญของเขาจะเกิดขึ้นเมื่อเราเดินไปหาเขา ไปพูด ไปบอก ไปชวนเขาสร้างความดี ให้เขาได้บุญสร้างลานธรรมมหารัตนวิหารคด เป็นสมบัติติดตัวไปในภพเบื้องหน้า เราเองก็จะได้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรที่สมบูรณ์ด้วย

          เพราะฉะนั้นเรื่องการสั่งสมบุญนี่แหละ คุณยายถึงบอกว่า เป็นสิ่งที่ยายคิดอยู่ตลอดเวลา ยายจะเอาบุญติดตัวไปให้มากที่สุด เพื่อว่าในภพเบื้องหน้าจะได้บริบูรณ์ เรายังต้องเกิดกันอีกหลายภพหลายชาติ จะได้ไม่ขัดสน พอถึงเวลานั้นแล้วการสร้างบารมีของ เราก็จะง่ายขึ้น
     พวกเราเป็นลูกหลานคุณยายก็ต้องทำอย่างคุณยายนะ เราจะได้ติดตามคุณยายสร้างบารมีไปทุกภพทุกชาติ ตราบถึงที่สุดแห่งธรรม

 

จากหนังสือ เกิดด้วยสองมือยาย 

พระรังสฤษดิ์ อิทฺธิจินฺตโก

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0014440695444743 Mins