หลักฐานในยุคดิจิทัล
“คนสมัยนี้มักจะคิดว่าพูดอะไรก็ได้ พอเวลาผ่านไปคนก็ลืมหมด…”
ในยุคดิจิทัลนั้นไม่จริงเลยที่เราจะคิดว่า พูดหรือทำอะไรเมื่อไรแบบไหนก็ได้ตามใจตนเองโดยไม่มีใครจดจำ หรือให้ความสนใจ
ในอดีตที่ยังไม่มีเทคโนโลยีต่างๆ คนเราพูดอะไรออกไปแล้วก็เพียงติดอยู่ในใจผู้ฟังโดยไม่มีหลักฐาน ไม่สามารถย้อนกลับมาเปิดฟังซ้ำๆ ได้ เพราะไม่มีสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ให้ได้กระจายเสียง และภาพส่งต่อออกไปให้ผู้อื่นได้รับรู้ได้อย่างในปัจจุบัน
อดีต ผู้คนจะรับรู้ข่าวสารได้ก็เพียงในวิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นสื่อหลักใหญ่ๆ 3 ช่องทาง แล้วจึงแยกย่อยไปเป็นวารสาร นิตยสาร สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ
รายการวิทยุพอออกอากาศไปแล้ว ก็มีน้อยคนที่จะอัดเทปเก็บไว้ฟังอีก เรื่องอะไรที่เคยออกอากาศไปแล้ว ก็สืบค้นได้ยากกว่าในปัจจุบันมาก สมัยก่อนเราใช้ตลับเทปที่มีอายุประมาณ 10 ปี ก็เสื่อมสภาพ หรือหากจะไปสืบค้นหนังสือพิมพ์เก่าๆ เมื่อประมาณ 30 ปีก่อน ก็ยากเต็มที
เพราะฉะนั้น สิ่งที่คนเราเคยพูดเมื่อก่อนนั้นมีโอกาสสูงที่จะถูกลืมเลือนไป ยกเว้นว่าเป็นคำพูดของคนที่มีชื่อเสียงจริงๆ อย่างผู้นำประเทศ นายกรัฐมนตรี หรือประธานาธิบดีเท่านั้น
ซึ่งเรื่องราวที่คนดังในอดีตได้เคยกล่าวไว้นั้น ย่อมถูกบันทึกลงในหนังสือที่อ้างอิงได้ เช่น จอห์น เอฟ. เคเนดี้ (John Federic Kennedy) เคยกล่าววาทะเด็ดๆ ไว้มากมาย คำพูดของเขาเหล่านั้นก็ยังคงอยู่
ในทางกลับกัน โอกาสที่คำพูดของคนธรรมดาจะถูกนำมาจัดเก็บ หรืออ้างอิงไว้เป็นรายลักษณ์อักษรนั้นยากมาก แม้จะเคยตกเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์ วิทยุ หรือโทรทัศน์ก็ตาม มันก็จะค่อยๆ จางหายไปในที่สุด
เมื่อเทียบกับในยุคปัจจุบันนั้นผิดกันมาก ไม่เฉพาะถ้อยคำที่เราเคยพูดออกอากาศทางวิทยุ โทรทัศน์ หรือเคยลงข่าวหนังสือพิมพ์เท่านั้น แม้แต่เราจะไปพูดที่ไหน ถ้ามีคนถ่ายคลิปไว้ ทุกอย่างก็ถูกเก็บไว้เป็นหลักฐาน แล้วแพร่กระจายไปในวงกว้างทางสื่อโซเชีลมีเดียได้อย่างรวดเร็ว
บางทีเพียงแค่โพสต์ข้อความ อัดคลิปเสียง หรือคลิปภาพลงไปในเฟสบุ๊ค ไอจี หรือทวิตเตอร์ของตนเองด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์เท่านั้น ไม่นานสื่อนั้นก็อาจจะเป็นไวรัล ออกสู่สายตาคนในสังคมได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย
เพียงเราเผลอพูดไปไม่กี่วินาที ข้อความนั้นจะคงอยู่ไปนานเลยทีเดียว ลบอย่างไรก็ไม่หมด เพราะคนอื่นเซฟส่งต่อกันไปมากมายแล้ว คนในสังคมวงกว้างต่างก็รู้ได้ทันทีว่าใครทำอะไรไว้ เพราะช่องทางกระจายข่าวนั้นมีมากและทำได้ง่าย
สมัยนี้ช่องทางการกระจายข่าวต่างกับสมัยก่อนมากเพราะสื่อยังมีพื้นที่น้อย สมัยนี้ใครก็สามารถกระจายข่าวได้ด้วยตนเอง ถ้าข่าวนั้นโดนใจคนในสังคม คนก็ส่งต่อๆ กันวันเดียวข่าวนั้นได้รู้กันในวงกว้างเป็นหมื่นล้านคน
เพราะฉะนั้น ในยุคดิจิทัล สิ่งใดที่เราเคยแสดงออกไว้ไม่ว่าจะด้วยคำพูด ข้อความ หรือการกระทำล้วนถูกบันทึกไว้ได้ และจะคงอยู่ไปอีกยาวนานเลยเลยทีเดียว
พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ