เวลาแห่งชีวิต

วันที่ 23 มิย. พ.ศ.2567

230667b01.jpg 

เวลาแห่งชีวิต

พระธรรมเทศนาเพื่อการปฏิบัติธรรม วัดพระธรรมกาย
โดย... พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย)

 

                ต่อจากนี้ให้ทุกท่านตั้งใจหลับตาเจริญสมาธิภาวนากันนะจ๊ะ ให้เอาขาขวาทับขาซ้าย มือขวาทับมือซ้าย ให้นิ้วชี้ของมือข้างขวาจรดนิ้วหัวแม่มือข้างซ้าย วางไว้บนหน้าตักพอสบาย ๆ หลับตาของเราเบา ๆ หลับพอสบายคล้ายกับเรานอนหลับ อย่าไปบีบหัวตา อย่ากดลูกในตา หลับพอสบาย ๆ นะจ๊ะทุก ๆ คน ขยับเนื้อขยับตัวของเราให้ดีให้เลือดลมในตัวของเราเดินได้สะดวก จะได้ไม่ปวดไม่เมื่อย แล้วก็ให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายเราให้หมด ตั้งแต่เปลือกตาหน้าผาก ศีรษะ ลำคอ บ่า ไหล่ แขนถึงปลายนิ้วมือ กล้ามเนื้อบริเวณลำตัว ขาทั้งสองถึงปลายนิ้วเท้า ให้ผ่อนคลายให้หมดเลยนะจ๊ะ 

 


                แล้วก็ลืมภารกิจเครื่องกังวลทั้งหลายที่มีอยู่ในใจ ลืมไปให้หมดสิ้นเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษาเล่าเรียน เรื่องครอบครัว เรื่องธุรกิจการงาน หรือเรื่องอะไรที่นอกเหนือจากนี้น่ะ ลืมไปให้หมด ทิ้งไปให้หมด เหลือแต่จิตใจที่ใสสะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากอุปกิเลสนิวรณ์ทั้ง ๕ ให้กาย วาจา ใจใสสะอาดบริสุทธิ์ จะได้เหมาะสมที่จะเป็นภาชนะรองรับพระรัตนตรัย แผ่เมตตาไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลายไม่มีประมาณ สรรพสัตว์ทั้งหลายจะมี ๒ เท้า ๔ เท้ามีเท้ามากเท้าน้อยหรือว่าไม่มีเท้า แผ่ความปรารถนาดีไปให้หมด ให้สรรพสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้นอยู่เย็นเป็นสุข สรรพสัตว์ทั้งหลายที่ไม่มีประมาณ ที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร ในกามภพ รูปภพ อรูปภพแผ่เมตตาให้ทั่วถึง ตลอดแสนโกฏิจักรวาลอนันตจักรวาลไม่มีประมาณ 

 


                จนกระทั่งเราเกิดความรู้สึกว่าเราไม่มีเวรไม่มีภัยกับผู้ใด มีแต่ญาติมิตรสหาย ผู้เป็นที่รักทั้งสิ้น ทั้งที่มีกายหยาบและผู้ที่มีกายละเอียดก็ตาม ล้วนเป็นหมู่ญาติของเรา เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายเช่นเดียวกับตัวของเรา ให้เกิดความรู้สึกชนิดนี้นะจ๊ะ เมื่อได้เกิดความรู้สึกชนิดนี้น่ะ เมื่อนั้นใจของเราเหมาะสมที่จะเข้าถึงพระรัตนตรัยซึ่งอยู่ภายในตัวของเรา ให้เกิดความรู้สึกชนิดนี้ให้ได้นะจ๊ะจนกระทั่งเห็นทุกคนที่มีกายหยาบก็ดี กายละเอียดก็ดีเป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายเช่นเดียวกับเรา เป็นผู้ที่ยังไม่สมบูรณ์ มีความบกพร่องเป็นธรรมดา บกพร่องทางกาย ทางวาจาและก็ทางใจ และเพราะความบกพร่องบางครั้งก็ทำสิ่งที่ผิดพลาด และเพราะความผิดพลาดครั้งนั้นทำให้เราเกิดความไม่สบายใจ ดังนั้นในวันนี้น่ะ เราจะให้อภัยทานกับทุกสรรพสัตว์ทั้งหลาย นอกจากให้อภัยแล้วน่ะ ยังจะส่งใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนาดี ไปยังทุก ๆ คนในสรรพสัตว์นั้น ๆ  ให้มีความสุขความเจริญ ทำความรู้สึกอย่างนี้ให้ทั่วถึง จนกระทั่งมันเกิดขึ้นมาเป็นความรู้สึกจริง ๆ ที่จะมาพร้อมกับความปิติใจ ที่เราสามารถให้อภัยเขาได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก

 


                เมื่อใจเราใสสะอาดบริสุทธิ์ดีแล้วน่ะ ต่อจากนี้ก็นำใจมาหยุดนิ่งอยู่ตรงศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ อยู่เหนือสะดือขึ้นมา ๒ นิ้วมือ โดยสมมติเอาเส้นด้ายมา ๒ เส้นนำมาขึงให้ตึง เส้นหนึ่งขึงจากสะดือทะลุไปด้านหลัง อีกเส้นหนึ่งขึงจากด้านขวาทะลุไปด้านซ้าย ให้เส้นได้ทั้งสองตัดกันเป็นกากบาท จุดตัดเล็กเท่ากับปลายเข็ม ตรงนี้เรียกว่าศูนย์กลางกายฐานที่ ๖ ให้ยกถอยหลังขึ้นมา ๒ นิ้วมือ โดยสมมุติเอานิ้วชี้กับนิ้วกลางวางซ้อนกัน แล้วนำไปทาบตรงจุดตัดของเส้นด้ายทั้งสองสูงขึ้นมา ๒ นิ้วมือตรงนี้เรียกว่าฐานที่ ๗ เป็นที่เราจะต้องนำใจมาหยุดนิ่งให้ได้ตลอดเวลานะจ๊ะ เพราะฐานที่ ๗ นี้เป็นทางไปสู่อายตนะนิพพาน เป็นทางที่จะเข้าไปถึงพระรัตนตรัย ซึ่งมีอยู่ในตัวของเราทุก ๆ คน 

 


                เราจะต้องมาหยุดอยู่ตรงนี้ให้ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะทำภารกิจอันใดก็ตาม ให้ฝึกทำความคุ้นเคยเอาไว้ตรงนี้ให้ได้บ่อย ๆ จนกระทั่งติดเป็นนิสัย จะอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน รับประทานอาหาร ขับถ่าย ทำภารกิจอันใดก็ตาม จะเรียนหนังสือจะทำมาหากิน หรือจะทำอะไรก็แล้วแต่ให้ติดเป็นนิสัย ให้ใจอยู่ตรงศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ โดยเราหาที่ยึดที่เกาะของใจเรา คือกำหนดบริกรรมนิมิตขึ้นมาให้เป็นที่เกาะของใจเรา ใจจะได้ไม่ซัดส่ายไปที่อื่น ที่ยึดที่เกาะของใจเรา มีอยู่ ๓ อย่าง อย่างใดอย่างหนึ่งในสามอย่างนี้ใช้ได้ทั้งสิ้น อย่างที่ ๑ คือพระพุทธเจ้า อย่างที่ ๒ คือพระธรรมคำสอน อย่างที่ ๓ คือพระสงฆ์พระอริยเจ้า ๓ อย่างนี้เป็นสรณะ ที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด ของพวกเราทั้งหลาย สิ่งอื่นที่จะเป็นที่พึ่งที่ระลึก ยิ่งกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

 


                พระพุทธเจ้าให้นึกถึงพระแก้วขาวใสบริสุทธิ์ พระพุทธรูปที่ใสเป็นแก้วเป็นสิ่งแทนพระะสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ ในอายตนะนิพพาน ดวงแก้วกลมรอบตัว ให้เป็นสัญลักษณ์แทนพระธรรมคำสอน ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ หลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ค้นพบวิชาธรรมกาย ครูบาอาจารย์ของเราแทนสังฆรัตนะ เราชอบอย่างไหนก็ให้นึกอย่างนั้น เป็นบริกรรมนิมิตให้ได้ตลอดเวลา จะนั่งนอนยืนเดินก็ให้นึกถึง ๓ สิ่งนี้แหละ อย่างใดอย่างหนึ่งให้ได้ตลอดเวลา นึกเป็นพระแก้วขาวใสบริสุทธิ์ให้ท่านนั่งทำสมาธิอยู่ในกลางกายฐานที่ ๗ เป็นพระแก้วขาวใสเกตุดอกบัวตูม ปางสมาธิ ขนาดเล็กใหญ่แล้วแต่ใจของเราชอบ ชอบขนาดไหนเราก็นึกอย่างนั้น ให้ท่านนั่งทำสมาธิหันหน้าออกไปทางเดียวกับตัวของเรา เราหันหน้าไปทางไหนก็ให้ท่านหันหน้าไปทางนั้น นึกอย่างสบาย ๆ นะจ๊ะ นึกให้มันต่อเนื่องกันไป ถ้าหากว่ากลัวเผลอไปคิดเรื่องอื่น ก็ให้ภาวนาสัมมาอะระหังกำกับไปด้วย ภาวนาไปเรื่อย ๆ สัมมาอะระหังไปเรื่อย ๆ จนกว่าเราไม่อยากจะภาวนา นี่ถ้าใครชอบนึกถึงพระพุทธเจ้าก็ให้นึกถึงพระแก้วใส ๆ เป็นสิ่งแทนตัวนะจ๊ะ 

 


                ส่วนใครนึกถึงพระแก้วไม่ถนัดนึกไม่ออกจะนึกถึงดวงแก้วแทนธรรมรัตนะ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันต์ก็ได้ คือนึกถึงดวงแก้วกลมรอบตัว กลมเหมือนดวงแก้วกายสิทธิ์ ขนาดเล็กใหญ่ก็แล้วแต่ใจเราชอบตั้งไว้ในศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ถ้ากลัวเผลอก็ภาวนาสัมมาอะระหังไปด้วย ภาวนาไปจนกว่าใจเราไม่อยากจะภาวนา ก็นึกถึงดวงแก้วอย่างเดียวนะจ๊ะ บางท่านจะนึกถึงองค์พระก็ไม่ออก ดวงแก้วก็ไม่ได้แต่ถ้านึกถึงหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญท่าน จะนึกได้ง่ายก็ให้นึกถึงหลวงพ่อท่านเป็นบริกรรมนิมิต จำภาพหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ ผู้ค้นพบวิชาธรรมกายให้ได้ ท่านนั่งทำสมาธิหันหน้าออกไปทางเดียวกับตัวของเรา ขนาดเล็กใหญ่แล้วแต่ใจเราชอบ พร้อมกับภาวนาในใจสัมมาอะระหังเรื่อยไป ภาวนาไปจนกว่าไม่อยากจะภาวนาอยากจะนึกถึงหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญอย่างเดียว 

 


                ๓ อย่างนี้เป็นที่พึ่งที่ระลึกของเรานะจ๊ะ ไม่ว่าเราจะอยู่ในอริยบทใด ปฏิบัติภารกิจชนิดไหนก็ตาม นึกเอาไว้เรื่อย ๆ ทำความคุ้นเคยกับสิ่งทั้ง ๓ นี้อย่างใดอย่างหนึ่งนะจ๊ะ ทำความคุ้นเคย ใหม่ ๆ เรายังไม่คุ้นเคยก็จะยังนึกไม่ได้ หรือบางครั้งก็นึกได้เป็นส่วน ๆ เช่นนึกถึงองค์พระบางทีนึกท่านได้เป็นส่วน ๆ หลวงพ่อวัดปากน้ำก็เช่นเดียวกันบางครั้งนึกได้เป็นส่วน ๆ ก็ไม่เป็นไร พยายามนึกบ่อย ๆ นึกไปเรื่อย ๆ ต่อไปมันก็จะค่อย ๆ คุ้นไป ที่เห็นเป็นส่วน ๆ ก็จะค่อย ๆ เห็นเต็มส่วน แต่บางครั้งชัดบ้าง บางครั้งไม่ชัดบ้าง ก็อย่าเพิ่งท้อถอยให้ทำใจให้เยือกเย็นฝึกฝนต่อไป ทำความคุ้นเคยกับท่านต่อไป ความต่อเนื่องเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นหัวใจทีเดียว ต้องทำให้ได้ตลอดเวลา ในไม่ช้าที่เราเห็นชัดบ้างไม่ชัดบ้าง ก็จะค่อย ๆ ชัดขึ้น ชัดจนกระทั่งเรามีความรู้สึกว่าอยู่ภายในตัว เหมือนเป็นวัตถุสิ่งของที่อยู่ภายในไปตั้งมั่นอยู่ในกลางตัวทีเดียว จะเป็นองค์พระดวงแก้วหรือหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญก็ตาม 

 


                แต่ชัดเจนแจ่มใส แล้วในที่สุดจะชัดเหมือนกับเราลืมตาเห็น เหมือนเราลืมตาเห็นวัตถุภายนอกชัดเจนอย่างไร ภายในก็จะชัดเจนอย่างนั้น แต่เห็นในระดับขนาดนี้เนี่ย ความสุขมันยังไม่มีนะ มันมีแค่ว่าไม่สุขแต่ไม่ทุกข์ เห็นแบบธรรมดา ๆ จะเป็นองค์พระจะเป็นดวงแก้ว จะเป็นหลวงพ่อวัดปากน้ำ เราเหมือนจำลองเข้าไปได้น่ะ จำลองภาพเหล่านั้นเข้าไปตั้งอยู่ภายในนี่คือความสำเร็จขั้นหนึ่ง เราประสบความสำเร็จในขั้นของอุคคหนิมิตแล้ว จำได้ติดหูติดตาติดใจประสบความสำเร็จไปแล้ว ต่อจากนี้ก็ให้ฝึกฝนต่อไปอีก ทำใจหยุดใจนิ่ง ในสิ่งที่เราเห็นอยู่ เช่นเห็นองค์พระก็หยุดนิ่งไปที่องค์พระ ดู ดูคุม ๆ ไว้น่ะ ดูผ่าน ๆ คุม ๆ เรายังเข้าไปอยู่ในกลางตัวท่านไม่ได้ก็ดูคุม ๆ ไว้ก่อนดูไปสบาย ๆ จะเป็นองค์พระดวงแก้วหลวงพ่อวัดปากน้ำ ดูไปเฉย ๆ อย่างสบาย ๆ โดยไม่ต้องคิดอะไรนะจ๊ะ ไม่ต้องคิดอะไรทั้งสิ้นเลยดูเฉย ๆให้ใจมันหยุดให้ใจมันนิ่ง เพราะหยุดเป็นตัวสำเร็จ ให้ใจหยุดนิ่งอยู่ในสิ่งที่เราเห็น ที่เราได้จำลองภาพเข้ามาได้ ซีร็อกซ์เข้ามาได้ในตัวดูให้ชัดทีเดียวให้นิ่ง ๆ ทำทั้งวันทั้งคืนเลย ทั้งนั่งนอนยืนเดินตรึกไปเรื่อย 

 


                อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน ขับถ่ายตรึกไปเรื่อยเลย จะนั่งนอนยืนเดินตรึกไปเรื่อย จะเรียนหนังสือหนังหาตรึกไป ทำมาหากินตรึกไป จะครองเรือนก็ตรึกไป ไปเรื่อย ๆ เลย ทำธุรกิจการงานอันใดตรึกไปเรื่อย ๆ นึกไป บางครั้งก็หลุดบางครั้งใจก็ติด ก็ไม่เป็นไรฝึกต่อไปอีก จนกระทั่งมีความรู้สึกว่า สิ่งที่เราเห็นนั่นน่ะ สิ่งที่เราเห็นนั้นน่ะเป็นเหมือนกับอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายเรา เป็นประดุจชีวิตจิตใจของเราทีเดียว ไม่ว่าจะหกขเมนตีลังกาเคลื่อนไหวกายแค่ไหนก็ยังอยู่ ให้นิ่งให้ตั้งมั่นให้ดีทีเดียว พอเราทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่ช้าจะถูกส่วน พอถูกส่วนนิมิตนั้นก็จะนุ่มนวลขึ้น นุ่ม นุ่มก็เปิดทางให้เราเข้าไปสู่ภายใน และเข้าไปสู่ภายใน ในกลางสิ่งที่เราเห็นอย่างสบาย ๆ ตั้งแต่นิด ๆ ก็จะขยายกว้างออกไป เป็นปฏิภาคนิมิต ขยายกว้างแล้วก็จะเคลื่อนไปสู่ภายใน ไปถึงสิ่งที่มีอยู่ในตัวในวัตถุนั้นนน่ะ ในกลางองค์พระ ในกลางดวง ในกลางหลวงพ่อวัดปากน้ำ พอทั้ง ๓ สิ่ง สิ่งใดสิ่งหนึ่งในสามสิ่งขยายออกไปเนี่ย ขยายจนกระทั่งหายไปเลย ตอนนี้เราจะเห็นจุดสว่างเล็ก ๆ จุดสว่างเล็ก ๆ เล็กเท่ากับหลายเข็ม บางครั้งคล้าย ๆ กับดวงดาวในอากาศ โตขึ้นสุกใสนั่นแหละเขาเรียกว่า ปฐมมรรคแหละ หนทางเบื้องต้นที่จะไปสู่อายตนะนิพพาน

 


                เราจะพ้นทุกข์ได้พ้นจากกิเลสอาสวะทั้งหลาย ที่บังคับบัญชาเราได้เนี่ย ต้องเข้ากลางดวงประถมมรรคนั้น นี่สำหรับผู้ที่ถนัดในการนึกนิมิตนะจ๊ะ แต่บางคนพอนึกนิมิตแล้วปวดศีรษะเวลานึกทีลไรก็มึนศีรษะทุกที อึดอัดไม่สบายกาย พลอยให้ไม่สบายใจ ถ้านึกไม่ได้ก็ไม่ต้องไปนึกให้ทำใจนิ่ง ๆ อย่างเดียว หยุดกับนิ่งตรงจุดที่เรามั่นใจว่าตรงนั้นแหละศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ หยุดให้นิ่ง ๆ โดยไม่ต้องคิดเรื่องอะไรเลย หยุดนิ่งเฉย ๆ โดยไม่ต้องคิดเรื่องอะไรนิ่งเฉย ๆ นะจ๊ะ จะภาวนาสัมมาอะระหังก็ได้จะไม่ภาวนาก็ได้แล้วแต่ใจของเราชอบ พอนิ่งถูกส่วนเข้าเดี๋ยวร่างกายก็จะ โล่ง โปร่ง เบา สบายเหมือนจะเหาะจะลอยได้ ตัวจะขยายกว้างออกไป บางทีขยายไปทางข้างบน เหมือนตัวเรายืดขึ้นไป บางทีขยายไปทางข้างล่างเหมือนตัวย่อย่อลงไปแทนจะติดกับพื้น บางทีขยายออกทางข้าง ๆ คือตัวรู้สึกโตพองกว้างออกไป ทางข้าง ๆ บางทีเหมือนไปทั้งเนื้อทั้งตัวพองโตไปทั้งตัว จนกระทั่งร่างกายหายไปเลย เคว้งคว้างมันอยู่กลางอวกาศ บางคนเหมือนตกจากที่สูงวู่บลงไป ใจหายวาบเลย นึกว่าตาย นึกว่าจะตกนรก ตกห้วยตกเหว คล้ายกับนอนหมิ่น ๆ เตียง อย่าไปตกใจนะจ๊ะ

 


                ยอมให้ใจหายสักครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นจะดี แต่ก็เห็นใจหายกันทุกคนนั่นแหละ ๑๐๐ % เลย ยังไม่เคยเจอใครที่ไม่ใจหายก็ช่างมัน บางคนเหมือนลอยตัวลอยความรู้สึกว่ามันลอย เหมือนจะเหาะจะลอยได้กลัวเหาะเลยไป เอามือจับอาสนะเอาไว้ก็มี ก็จับกันไป จับพื้นจับอาสนะบางคนสงสัยมันลอยจริงก็ลืมตามาดู ก็เห็นเลยว่าอยู่ที่เดิมอย่างนี้ก็มี ก็ช่างมันเป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้นนะจ๊ะ มันเป็นสิ่งที่ดี จะเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่เถอะ บางท่านก็เรียกว่าธรรมะปิติ บางครั้งก็หัวใจสั่นขนลุกซู่ ตัวโยกตัวโคลงก็มี อาการเยอะแยะอย่าไปสนใจมัน ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ให้ใจนิ่ง ๆ เอาไว้อย่างเดียว พอถูกส่วนเข้าก็เดี๋ยวก็เข้าถึง จุดสว่างเล็ก ๆ เหมือนดวงดาวในอากาศ สว่างขึ้นมา นั่นแหละคือปฐมมรรค เพราะฉะนั้นวิธีที่จะเข้าถึงปฐมมรรคน่ะ มีอยู่ได้ถึง ๒ วิธี วิธีที่ ๑ คือกำหนดนิมิตอย่างวิธีแรกที่บอกไปแล้ว วิธีที่ ๒ ก็ทำใจให้หยุดนิ่งเฉย ๆ โดยไม่ต้องนึกถึงนิมิต ทั้งสองวิธีนั้นถูกต้องทั้งสิ้น อย่าไปสงสัยน๊ะจ๊ะ ถูกต้องทั้งสิ้นเลย แล้วปฐมมรรคที่เข้าถึงนั่นน่ะ คือสิ่งที่มีอยู่แล้วในตัวของเราทุก ๆ คน เป็นจุดแห่งความบริสุทธิ์ของใจเบื้องต้น เป็นต้นทางที่จะไปสู่อายตนะนิพพาน พระพุทธเจ้าพระอรหันต์ทั้งหลายน่ะ ท่านก็ทำใจหยุดใจยิ่งอย่างนี้ 

 


                พอถูกส่วนเข้าก็เข้าถึงปฐมมรรคที่มีอยู่แล้ว แล้วท่านก็หยุดเรื่อยไปเลย ทำใจนิ่งอยู่ในกลางปฐมมรรคเรื่อยไป ไม่คิดเรื่องอะไร นิ่งอย่างเดียวเพราะวันนั้นท่านปล่อยชีวิตแล้ว แม้เนื้อเลือดจะแห้งเหือดหายไป เหลือแต่กระดูกหนังช่างมัน ถ้าหากไม่หลุดพ้นจากทุกข์ไม่ลุกจากที่ เพราะฉะนั้นมีอะไรที่เกิดขึ้น มีอะไรให้ดูท่านก็ดูไป ท่านก็ดูไปเรื่อย ๆ อย่างสบาย ๆ พอถูกส่วนดวงนั้นก็ขยายกว้าง ขยายกว้างขึ้นมาเรื่อย ๆ เป็นดวงกลม โตขึ้นมาเรื่อยเหมือนดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ และก็หายขยายหายไปเลย ตกขอบไปเลย มีดวงใหม่ผุดเกิดขึ้นมา ดวงธรรมที่ผุดเกิดขึ้นมานั้นน่ะ ก็มีอยู่ดั้งเดิมมีอยู่ภายในเป็นความบริสุทธิ์ขั้นถัดไปเป็นชั้น ๆ อย่างนี้แหละ ทีละชั้น ทีละดวง ๆ จนครบ ๖ ดวง ในกลางดวงที่ ๖ ก็เข้าถึงกายมนุษย์ละเอียด เห็นตัวเองนั่งทำสมาธิ อยู่ภายใน หน้าตาสดใสกว่ากายหยาบ แต่รู้ว่าเป็นตัวของเราท่านหญิงก็เหมือนกับท่านหญิง ท่านชายก็เหมือนกับท่านชาย อยู่ตรงกลางตรงนั้นนะจ๊ะ นั่นแหละกายมนุษย์ละเอียด เห็นอย่างนี้ก็หยุดเข้าไปเรื่อย ๆ หยุดเข้าไปในกลางนั้นน่ะ พอถูกส่วนเข้าเดี๋ยวก็เข้าถึงดวงธรรมอีก ๖ ดวงที่อยู่ภายใน สุดกลางดวงที่ ๖ ก็จะเข้าถึงอีกกายหนึ่ง ที่สวยงามกว่ากายเดิม มีเครื่องประดับพร้อม นั่งทำสมาธิหันหน้าออกไปทางเดียวกับตัวของเราเรียกว่ากายทิพย์ 

 


                เราก็ดูไปเรื่อย ๆ ทำใจหยุดนิ่งต่อไป ยังไม่ต้องคิดอะไรน่ะ พอถูกส่วนเข้ากายทิพย์ก็ขยายกว้างก็เข้าถึงดวงธรรมอีก ๖ ดวงผุดซ้อนขึ้นมาทีละดวง สุดดวงที่ ๖ ก็จะเข้าถึงกายรูปพรหม ที่มีลักษณะคล้ายกับกายทิพย์แต่ว่าโตใหญ่หนักยิ่งขึ้น ใสและสวยงามกว่าเดิม เครื่องประดับก็ปราณีตกว่าเดิมเข้าไปอีก เราก็ต้องยังคงเอาใจหยุดนิ่งต่อไป ในกลางกายของรูปพรหม ดูไปเฉย ๆ นะจ๊ะ การถูกส่วนมันจะถูกส่วนของมันเอง ไม่ใช่เราพยายามทำให้มันถูกส่วน และกายรูปพรหมก็ขยายกว้างออกไป เราจะเข้าถึงดวงธรรมภายในอีก ๖ ดวง ผุดซ้อนขึ้นมาทีละดวง ในที่สุดก็จะเข้าถึงกายอรูปพรหม ลักษณะโตใหญ่กว่าเดิม แต่คล้ายกายรูปพรหม สวยและใสกว่า เครื่องประดับก็ปราณีตกว่า เรายังคงหยุดนิ่งอย่างเดิมโดยไม่ต้องคิดอะไรน่ะ ดูไปเรื่อย ๆ พอถูกส่วนกายอรูปพรหมก็ขยายกว้างออกไปหายไป ก็จะเข้าถึงดวงธรรมอีก ๖ ดวง ผุดซ้อนขึ้นมาทีละดวง สุดดวงที่ ๖ ก็จะเข้าถึงกายธรรม กายธรรมโคตรภูหน้าตักหย่อนกว่า ๕ วานิดหน่อยเมื่อโตเต็มส่วนนะจ๊ะ จะหย่อนกว่า ๕ วานิดหน่อย กายธรรมนี่แหละคือสรณะที่พึ่งที่ระลึกของเราน่ะ

 


                พอเข้าถึงตรงนี้ได้เนี้ยใจของเราเนี่ยจะเกลี้ยงเกลา สะอาดบริสุทธิ์ มีปิติ มีความสุข มีความอบอุ่น มีความรู้สึกเรามั่นใจทีเดียว พึ่งตัวเองได้แล้วพอถึงตรงนี้เนี่ย ถึงกายธรรม กายธรรมนี่แหละคือพุทธรัตนะเป็นที่พึ่งที่ระลึกอันประเสริฐของเรานะจ๊ะ เราจะต้องพยายามฝึกฝนใจของเราให้เข้ามาถึงตรงนี้ให้ได้ ถ้าหากเรายังเข้าไม่ถึงกายธรรม ชาตินี้เราเกิดมานี่หมดไปชาตินึงฟรี ๆ ที่เขาเรียกว่าเสียเวลาเกิด เสียชาติเกิดไปอีก ๑ ชาติเสียดายว่าเกิดมาแล้วไม่รู้จักกายธรรม ทั้ง ๆ ที่เขาก็สอนกันอยู่พระพุทธเจ้าท่านก็สอน หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านก็รื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ เอามาแนะนำสั่งสอนบอกวิธีการ บอกว่ากายธรรมน่ะมีอยู่ในตัวเ ป็นที่พึ่งที่ระลึก บอกลักษณะด้วย จะได้จำไม่ผิดเห็นแล้วจะได้หายสงสัยว่าเกตุดอกบัวตูงามไม่มีที่ติ ทำสมาธิอยู่ภายในเป็นพระแก้วขาวใส เพราะว่าเป็นแก้วจึงเรียกว่าพุทธรัตนะ บอกด้วยว่าอยู่ในกลางกายฐานที่ ๗ แล้วก็บอกถึงวิธีการที่จะเข้าถึงคือให้ทำใจหยุดกับนิ่งเท่านั้น ถูกส่วนแล้วเดี๋ยวก็เห็นเป็นชั้น ๆ เข้าไป ชั้นสุดท้ายก็จะเข้าถึงกายธรรม

 


                เรามาถึง ณ ตรงนี้แล้ว มีบุญมาในระดับหนึ่งแล้ว ถ้าไม่ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึง เกิดมาเสียชาติเกิด รับประทานอาหารก็เสียเปล่า หลวงพ่อวัดปากน้ำท่านใช้คำพูดสั้น ๆ ว่าเสียข้าวสุก หมายความว่าเสียข้าวสุกไปแล้วเนี่ย ได้กำลังมาแล้ว ยังไม่เอามาทำหยุดทำนิ่ง ให้เข้าถึงธรรมกายที่มีอยู่ภายใน ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ว่ามีอยู่ภายในเป็นของดี ของจริง ของวิเศษ ของประเสริฐ แต่ก็มัวทอดธุระซะ ไม่เอาใจใส่ ประมาทในชีวิต คิดว่าจะทำเมื่อไหร่ก็ได้ คอยความพร้อมของชีวิตคอยความว่างซะก่อน คอยว่าต้องมีเวลาว่างแล้วถึงจะทำ คอยว่าต้องให้พร้อมก่อน ให้รวยกันซะก่อน หมดหนี้หมดสินก่อนแล้วถึงจะทำ คอยว่าให้ลูกหลานมันเรียนให้จบให้มันโตกันซะก่อน เราถึงจะค่อยมาทำ หรือคอยว่าเอาไว้ให้แก่ ๆ ตัวก่อน เสร็จภารกิจทางโลกแล้วค่อยทำ 

 


                บางคนก็ขอหาประสบการณ์ชีวิตในทางโลก ทำมาหากินไปก่อนว่างเมื่อไหร่ก็จะค่อยทำกันอย่างนั้นเอาไว้ว่าง ๆ แล้วค่อยทำไปเที่ยวเตร่เพลิดเพลิน หาประสบการณ์ซึ่งไม่ได้เรื่องได้ราวกันไปก่อน แล้วค่อยมาเคาะสนิมโลกกันในภายหลังแล้วจึงทำ มีความชะล่าใจประมาทกันอย่างนี้ทั้ง ๆ พยามัจจุราชน่ะ พญามารน่ะมาตั้งผังสำเร็จเอาไว้ ถอดกายตลอด ๒๔ น.ตั้งเอาไว้ติดเอาไว้หมดทุกกายเลยน่ะ ก็ได้จังหวะเมื่อไหร่เนี่ย ก็เดินเครื่องหมุนซ้ายถอดกายได้ทั้งนั้นแหละ ถอดกันมาหมดแล้วพระสัมมาสัมพุทธเจ้าน่ะว่าเก่ง ท่านบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วยังจับถอดกายไปเลย ดับขันธปรินิพพานไปแล้ว ถอดกายหยาบกายเนื้อ แต่ว่าท่านพ้นทุกข์ ท่านเข้าถึงความสมบูรณ์แห่งชีวิตแล้ว 

 


                พระอรหันต์ก็จับถอดกันมาแล้ว พระอริยบุคคล พระอนาคามี พระสกทาคามี พระโสดาบัน โคตรภูบุคคลจับถอดออกหมด ฌานลาภีบุคคลผู้ได้ฌานสมาบัติก็จับถอด มหาเศรษฐีผู้ยิ่งใหญ่ พระบรมจักรพรรดิ พระราชามหากษัตริย์ เศรษฐีมหาเศรษฐีจับถอดได้หมด ชนชั้นกลาง คหบดีต่าง ๆ ก็ยังจับถอดออกหมด คนชั้นล่างที่ใช้แรงงาน ตลอดจนกระทั่งพวกเทหยากเยื่อเก็บขยะมูลฝอยเทศบาลอะไรก็จับถอดหมด คนขอทาน คนง่อยเปี้ยเสียขาจับถอดกายหมด ล้วนตายหมดจะต้องถูกถอดกายกันสักวันหนึ่ง วันไหนก็กำหนดไม่ได้เพราะเขาทำ ๒๔ น.ตลอดเวลาทีเดียว เดินเครื่องหมุนซ้ายถอดอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นมัวมาชะล่าใจ ไม่คิดที่จะแสวงหาสิ่งที่ดี และมีอยู่ในตัวของเราด้วยวิธีง่าย ๆ ไม่เสียเงินเสียทองอะไรเลย แค่ทำใจให้หยุดนิ่งให้ได้ตลอดเวลาแค่นั้นแหละ ให้ของขวัญกับตัวเองแค่นี้ยังไม่ให้ ให้ไม่ได้แล้วจะไปให้อะไรต่อโลกภายนอก 

 


                เพราะฉะนั้นใครที่ยังชะล่าใจอยู่ ก็ตั้งมโนปณิธานให้ดีจะเป็นภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา สาธุชน ทุกชาติทุกภาษา พระ เณร เถร ชี อุบาสก อุบาสิกา ฆราวาส  ทุกชาติทุกภาษาน่ะ ให้ตั้งใจกันเอาไว้ให้ดีทีเดียวจะฝึกตั้งใจทำหยุดทำนิ่งให้เข้าถึงพระธรรมกายให้ได้ โดยเฉพาะในเมืองไทยเนี่ย อย่าไปกังวลเกี่ยวกับเรื่องภาวะเศรษฐกิจ ที่มันตกต่ำมันก็มีขึ้นมีลงของมันอย่างนี้เป็นปกติ เรื่อยกันมาเนี่ย เมื่อเรายังไม่ชนะเขา ยังต่อสู้กันอยู่ ระหว่างธรรมะกับอธรรมเนี่ย บางครั้งมันก็ดีบางครั้งมันก็ไม่ดี ช่วงไหนกระแสจิตของชาวโลก ชาวไทยตั้งมั่นอยู่ในคุณงามความดี ไม่ประมาทในชีวิตให้ทานรักษาศีลเจริญภาวนา สั่งสมบุญอยู่เป็นนิจ เศรษฐกิจก็จะเฟื่องฟู ฝนจะตกต้องตามฤดูกาล มนุษย์จะมีโรคภัยไข้เจ็บน้อย จะอายุยืนวรรณะผ่องใส มีความสุขกายสบายใจ ยิ้มแย้มแจ่มใสเข้าหากัน ทุกอย่างก็จะคล่อง จะมีสภาพคล่อง ยามใดกระแสจิตสำนึกของมนุษย์ตกต่ำ ถูกกระแสบาปอกุศลที่เขาเข้าไปบังคับบัญชาอยู่ภายใน ให้คิดชั่วพูดชั่วทำชั่วประมาทเลินเล่อเผลอเลอ ไม่ทำคุณงาม ความดี

 


                แถมทำแต่สิ่งที่ไม่ดี หมกมุ่นอยู่ในอบายมุขทั้งหลาย คดโกงคอร์รัปชั่น มีความตระหนี่ ไม่ให้อภัยซึ่งกันและกัน มีความเห็นแก่ตัว เมื่อนั้นเศรษฐกิจก็จะตกต่ำ ฝนฟ้าไม่ถูกต้องตามฤดูกาล โรคภัยไข้เจ็บก็เกิดขึ้นมากมาย ที่จะคร่าชีวิตมนุษย์ มีโรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างที่มนุษย์ไม่เคยเจอโรคชนิดนี้มาก่อน ก็จะเกิดขึ้นมาหยูกยาก็ที่จะหาก็จะหาได้ยาก ที่จะมาขจัดโรค มนุษย์ที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นศีลธรรมนี่แหละจะช่วยคุ้มครองโลกให้ปลอดภัย ให้ตั้งใจกันให้ดี ใครไม่ทำช่างเขา เราทำก่อนหมู่คณะของเราจะต้องเริ่มก่อน ต้องเป็นผู้นำบุญผู้นำสิ่งที่ดีเป็นแบบอย่างที่ดีของโลก ผู้นำแห่งศีลธรรมผู้นำทางชีวิตจิตวิญญาณไปในทางที่สูงขึ้น ใครเห็นแก่ตัวเราไม่เห็นแก่ตัว ใครสร้างบาปเราสร้างบุญ ใครหวั่นไหวเราไม่หวั่นไหว ใครกำลังใจตกต่ำเรากำลังใจสูงขึ้น ไม่หวั่นไหวในการสร้างบารมีสร้างกันเรื่อยไปตั้งหน้าตั้งตาสั่งสมบุญบารมีของเราเรื่อยไป อย่างนี้ถูกต้องนะจ๊ะทำต่อไปเถอะ

 


                ความมืดในโลกนี้น่ะมีไม่เกิน ๑๒ ชั่วโมง ชั่วโมงที่ ๑๓ มันก็จะสว่างไสวขึ้น ความมืดในชีวิต ความมืดในเศรษฐกิจที่ตกต่ำ มันก็ไม่อยู่กับเรานานหรอก มันอยู่กับเราชั่วคราว ไม่ช้ามันก็จะจากไป ให้ชิงช่วงในจังหวะสถานการณ์อย่างนี้ สร้างบารมีให้มันยิ่งขึ้นไป เป็นสถานการณ์ที่อำนวยในการสร้างบารมี ถ้าเราจะศึกษายอดนักสร้างบารมีกาลก่อนที่่ประสบความสำเร็จในชีวิต ของเขาจะชิงช่วงการสร้างบารมีในยุคทุพพิกขภัยยุคข้าวยากหมากแพง กลียุคต่าง ๆ เหล่านั้นแหละ ชิงช่วงสร้างบารมี เพราะบุญมันแรงตอนช่วงนั้น ถ้าใครทำได้ถือว่ามีกำลังใจอันสูง กระแสธารแห่งบุญก็จะสอดละเอียดซ้อนเข้ามาในภายในตัวของเรา พลิกผันชีวิตให้ประสบความสำเร็จยิ่งกว่าใคร ๆ ทั้งสิ้นนี่เราก็มีแบบอย่างกันอยู่แล้วนะจ๊ะ

 


                เมื่อเราได้ทราบอย่างนี้ ต่อจากนี้ไปให้ทำใจหยุดนิ่งกัน เพื่อให้เข้าถึงพระรัตนตรัยในตัว ให้ทุกคนทำใจให้หยุดนิ่งในศูนย์กลางกาย หยุดนิ่งให้สนิทอย่างสบาย ๆ ทุก ๆ คนนะจ๊ะ ใจเรายังอยู่ที่ศูนย์กลางกายอยู่ตลอดเวลานะจ๊ะ ตอนนี้เราก็พอใจหยุดนิ่งตามสภาวะธรรมนะ ใครเข้าถึงดวงธรรมก็เอาใจหยุดไปในกลางดวงธรรมใครเข้าถึงกายภายในก็เอาใจหยุดไปในร่างกายภายใน ใครเข้าถึงองค์พระก็เอาใจหยุดไปในกลางองค์พระ หยุดที่สำเร็จที่เดียว เราจะน้อมนำเครื่องไทยธรรมซึ่งเป็นของหยาบนี้แหละ กลั่นทับทวีไปอย่างเนี้ย ให้มีความละเอียดทับทวีไปอย่างนี้ เท่ากับความละเอียดของกายธรรมในอายตนนิพพาน ที่พุทธเจ้าท่านดับขันธปรินิพพานไปแล้วน่ะ มีพระธรรมกายปรากฏอยู่ในอายตนะนิพพานนับอสงไขยพระองค์ไม่ถ้วน มากกว่าเมล็ดทรายในท้องพระมหาสมุทรทั้ง ๔ นั่นเป็นคำอุปมา จริง ๆ มันมากกว่ามาก จนกระทั่งต้องใช้คำว่าอสงไขยน่ะมาเทียบอสงไขยที่แปลว่านับไม่ถ้วนแล้ว ก็ยังอสงไขยไม่ถ้วนอีก คือนับอสงไขยไปไม่ถ้วนอีก พระพุทธเจ้าเนี่ยท่านมีมากมายทีเดียว องค์เข้าไปนิพพานเก่า ๆ แก่ ๆ โน้นแหละที่เรียกว่าบรมพุทธเจ้าแก่ ๆ โน่นแหละ แล้วเราไปจำลองภาพท่านเอามาเป็นพระบรมพระพุทธเจ้าในมนุษย์ นี่เพราะฉะนั้นตอนนี้เราก็หยุดนิ่งไปเรื่อย ๆ เลยเนี่ย หยุดในหยุด ๆ ๆ ให้มีความมั่นใจในพระรัตนตรัยในพระธรรมกายเนี่ย หยุดเข้าไปเถิดมันของจริง ทำหยุดนิ่งให้ได้ เนี่ยหยุดในหยุด ๆ ๆ ทับทวีกันขึ้นไปเรื่อยเลย ทับทวีกันไป

 


                เพราะฉะนั้นทุกพระองค์รับหมดเลย รับเป็นพุทธบูชา แต่ว่าไม่ได้เสวยเหมือนพระสงฆ์ขบฉัน บุญจากทุกพระองค์น่ะบังเกิดขึ้นทีเดียว มาจรดในศูนย์กลางกายพวกเรา เป็นดวงธรรมที่จะสว่างไสว และท่านก็ให้ผังสำเร็จความศักดิ์สิทธิ์ ความสำเร็จในชีวิตลงมา มีทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข วิชชาธรรมกาย มรรคผลนิพพานซ้อนอยู่ในกลางตัวเราเต็มไปหมดเลย ความปรารถนาทุกอย่างในปัจจุบันที่เราตั้งความปรารถนาเพิ่มเติมก็ลงเพิ่มเติมเป็นพิเศษอีก คือส่วนหนึ่งที่ท่านให้เป็นปกติคือรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข มรรคผลนิพพานนี้เป็นปกติที่ท่านให้ ส่วนพิเศษคือสิ่งที่เราขอไป ว่าปัจจบันนี้ให้หมดหนี้หมดสิน พ้นจากทุกข์โศกโรคภัย ให้ได้เป็นประธานรอง ให้ได้ทำบุญใหญ่ ให้ทำความสำเร็จให้เกิดขึ้ ให้เจรจาความอะไรต่าง ๆ สำเร็จ สอบเปรียญธรรมได้อะไรต่าง ๆ ที่เราอธิษฐานนี้เป็นสิ่งพิเศษ หรือช่วยทุกข์คนนู้นคนนี้หรือเอาบุญนี้ไปให้หมู่ญาติที่ละโลกไปแล้ว อยู่ในภพภูมิไหนหรือเอาบุญไปช่วยบิดามารดา ครูบาอาจารย์ หมู่ญาติที่เจ็บไข้ได้ป่วยตามโรงพยาบาลต่าง ๆ นี่อธิษฐานพิเศษเหล่านี้นะจ๊ะ

 


                ท่านทัพทวีทำเพิ่มเติมเพิ่มเติมลงมาน่ะ เป็นผังสำเร็จเป็นดวงบุญติดไปในศูนย์กลางกายติดหมดเลย สว่างไสวไปเรื่อยเลย และท่านก็เอาบุญของเราทุกคนมารวมกันช่วยกันแก้ไขสถานการณ์บ้านเมือง ให้ผู้ที่ทำหน้าที่ดูแลบ้านเมืองอะไรต่าง ๆ มีวินิจฉัยที่ถูกต้องมีความรักมีความสามัคคีกัน ใครที่เห็นแก่ตัวก็ให้เห็นแก่ชาติบ้านเมือง ให้อยู่เย็นเป็นสุขให้ทำมาค้าขึ้น ให้เศรษฐกิจเฟื่องฟู ฝนตกต้องตามฤดูกาล ให้อยู่เย็นเป็นสุข ให้ศีลมีธรรมอะไรต่าง ๆ ท่านซ้อนลงมาในกลางเนี่ย บุญยังต่อเนื่องกันถึง ๗ วันในเมืองมนุษย์ เพราะฉะนั้นภายใน ๗ วันในเมืองมนุษย์น่ะ ตั้งแต่วันอาทิตย์ต้นเดือนไปเนี่ยให้นึกถึงบุญให้ได้ตลอดเวลาอย่าให้ใจเราช้ำ ด้วยความขัดเคืองด้วยความขุ่นมัว ด้วยสิ่งที่ไม่ดีด้วยความท้อใจ เปลี่ยนความท้อใจมาเป็นกำลังใจซะ เปลี่ยนจากบาปมาเป็นบุญ จากความขี้เกียจมาขยันทำความดีทำความเพียร

 


                เพราะฉะนั้นตอนนี้อธิษฐานจิตให้ดีทีเดียวนะจ๊ะ อธิษฐานจิตบุญกำลังไหลแผ่ซ่านทั่วไปหมดเลยน่ะ ซ้อนลงมาเทวดา พรหม รูปพรหมกำลังอนุโมทนาสาธุการสงบนิ่งหมด ละจากภารกิจจากวิมานน่ะ นิ่งกำลังหยุดนิ่ง หยุดนิ่งกันไปหมดเลยอนุโมทนาสาธุการพวกเราหมด พวกเราก็เอาใจนึกอยู่ในบุญช่วยกันอธิษฐานกันให้ดีทีเดียว ไม่ว่าจะเกิดอะไรก็ตามขอให้บุญบันดาลให้เราสิ่งที่เราตั้งใจทำไว้ให้มันสำเร็จให้พลิกสถานการณ์ร้าย ให้กลายเป็นดี สิ่งที่เราจะตั้งใจทำสร้างมาหาธรรมกายเจดีย์ก็ให้สำเร็จเป็นอัศจรรย์  ให้ไปตามผู้เป็นเจ้าของบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวน่ะ ไปตามเอามาเลยให้เข้ามามีส่วนบุญแห่งการสร้างพระธรรมกายประจำตัว เป็นอนุสรณ์ของชีวิตด้วยเป็นแบบอย่างที่ดีของลูกหลานของโลก ของลูกหลานด้วยของโลกด้วยแล้วก็จะได้มหาธรรมกายเป็นหลัก เป็นที่พึ่งทางใจ ของมนุษย์และเทวา เป็นที่เคารพกราบไหว้บูชาของผู้ที่เข้าถึงพระรัตนตรัย ของมนุษย์ของเทวาทั้งหลายน่ะ เป็นจุดที่จะสร้างคนดีที่โลกต้องการเกิดขึ้น เราก็นึกถึงบุญอันนี้ช่วยกันทำให้มันสำเร็จให้ได้เป็นอัศจรรย์

 


                เพราะฉะนั้นให้ทุ่มเทชีวิตจิตใจทำหน้าที่กันให้ดี ให้มาเป็นผู้นำบุญกันให้ได้หมดทุก ๆ คน ใครได้ยินได้ฟังเสียงหลวงพ่อเนี่ย ขอให้ทำหน้าที่เป็นผู้นำบุญแล้วไปบอกเขาต่อ ๆ ไปว่าคุณคือผู้นำบุญคุณคือยอดนักสร้างบารมีเนี่ย โลกกำลังต้องการคุณอยู่ มาช่วยกัน มาสร้างคนดีที่โลกต้องการให้เกิดขึ้น โดยการผ่านการบวชเป็นสามเณรหรือผ่านการสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ สร้างพระธรรมกายประจำตัว อย่ามัวมองว่าเรากำลังสร้างวัตถุขึ้นมาชิ้นหนึ่งให้มองลึกไปกว่านั้นน่ะ วัตถุสิ่งนี้เนี่ยต่อไปจะสร้างคนดีที่โลกต้องการ ให้เกิดขึ้นมากมายทีเดียวตราบใดคนดีที่ยังเป็นคนดีอยู่ สันติสุขก็จะเกิดขึ้น รัฐบาลก็จะได้ใช้ภาษีอากรที่เก็บจากประชาชนหรือจากพวกเรานี่แหละไปใช้ทำนุบำรุงบ้านเมืองได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย  แต่ว่าเมื่อไหร่คนดีเปลี่ยนแปลงไปเป็นคนดีที่เสียแล้วเพียงหนึ่งคนขบวนการยุติธรรมก็เกิดขึ้น ตั้งแต่ตำรวจ อัยการ ศาล ราชทัณฑ์ นั่นก็หมายถึงว่างบประมาณที่ได้จากภาษีของประชาชนก็จะต้องถูกดึงเอามาใช้เพื่อแก้ไขคนดีที่เสียแล้วเพียงผู้กระทำความผิดเล็กน้อยเพียงนิดหน่อยงบส่วนนี้ก็จะถูกดึงเอามาใช้แล้ว

 


                เพราะฉะนั้นมาสร้างคนดีเสียเถิดมันจะได้เป็นการแก้ที่ต้นเหตุ และคนดีก็จะสร้างสันติสุขให้บังเกิดขึ้นแก่โลกอย่าคิดว่าเราทำความดีเพียงคนเดียวพอ ไม่จำเป็นจะต้องไปชนคนอื่นมาทำความดีอย่าไปคิดอย่างนั้นนะจ๊ะ มันมีเรื่องจริงที่เกิดขึ้นก็คือมีคุณยายท่านหนึ่งตื่นแต่เช้าลุกขึ้นหุงข้าวเพื่อมาใส่บาตรพระมีจิตใจเบิกบานแช่มชื่นทีเดียว ออกมาหน้าบ้านใส่บาตรพระพระเดินผ่านไปใจปิติยืนอยู่หน้าบ้าน คนติดยาเสพติดผ่านมากำลังหิวยาก็มาจี้มาปล้นยาย ยายขัดขืนก็เลยฆ่า หมู่ญาติก็เดือดร้อนเป็นทุกข์ใจกัน ถามว่ายายทำความดีหรือความชั่ว ยายก็ทำความดีแต่ก็เสียชีวิตไปเพราะคนติดยาเสพติด เพราะฉะนั้นเราจะทำเป็นคนดีเพียงลำพังไม่ได้ เราจะต้องทำให้คนอื่นเป็นคนดีด้วย

 


                วัดพระธรรมกายกำลังทำตรงนี้อยู่ กำลังสร้างคนดีที่โลกต้องการเราไม่ใช่ว่าจะดีเฉพาะทีมงานแล้วก็ธรรมกาย เราจะสร้างให้ทุก ๆ คนเป็นคนดี เพราะฉะนั้นนี่คือมโนปณิธานของทีมงานวัดพระธรรมกาย ที่กำลังทำอยู่ หลวงพ่อก็อยากให้ลูกทุกคนมีจิตใจเป็นอย่างนี้แหละ หลวงพ่อก็จะถือโอกาสอำนวยพรปีใหม่ว่า ขออานุภาพแห่งบุญบารมีจากพระนิพพานนับไม่ถ้วนพระองค์ ให้ลงซ่อนในศูนย์กลางกายลูก ๆ ทุกคน ขอให้ลูกทุกคนในปีนี้ จงเป็นปีแห่งการสร้างบารมีที่ไม่หวาดหวั่นต่อสิ่งใด ๆ ทั้งสิ้น ให้มีความสุขกายสุขใจมีมหาสมบัติมากมายสร้างบารมีไม่รู้จักหมดจักสิ้น ให้รู้แจ้งเห็นแจ้งแทงตลอดในวิชชาธรรมกาย ประกอบธุรกิจการงานก็ให้ประสบความสำเร็จเป็นอัศจรรย์ นึกคิดอะไรในสิ่งที่ดีขอให้สมความปรารถนาจงทุกประการเทอญ และก็ทำใจหยุดนิ่งอีกสักครู่นะจ๊ะ หยุดนิ่ง ๆ อธิษฐานจิตของเราให้ดีทุก ๆ คน จนกว่าจะถึงเวลาอันควรนะจ๊ะ อธิษฐานให้ดีบุญกำลังไหลอยู่ในศูนย์กลางกายนะลูกนะ ตั้งใจให้ดีทุกคน 

 

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.042058213551839 Mins