มนุษย์ต่างจากสัตว์ตรงไหน

วันที่ 31 กค. พ.ศ.2567

2567.07.31%20b.jpg

 

มนุษย์ต่างจากสัตว์ตรงไหน

 

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงชี้ให้ดูว่า


          ความเหมือนระหว่างมนุษย์กับสัตว์   คือ   อาหารสัญญาถ้าจะว่าไป   ภาษาปัจจุบันเขาบอกว่า  สัญชาตญาณในการหาอาหารพอเกิดมาไม่ว่าสัตว์โลกชนิดไหน ลูกคนก็ร้องอุแว้ ลูกสุนัขก็ร้องอิ๋งทำไม มันจะกิน ไม่ต้องไปบอกว่าลูก นี่นมนะ ใส่ปากมันดูดเลย ไม่ต้องห่วง ตาก็ยังไม่ ทันลืม ไม่ต้องสอน เป็นเอง สัตว์กับคนไม่ต่างกันเรื่องความหิวอาหาร


              พอโตแล้ว ท่านใช้คำว่า  กามสัญญา  คือ  ความต้องการทางเพศมาเอง  ท่านบอกไว้ว่า เอาลูกสุนัขมาคู่หนึ่ง ตั้งแต่มันไม่ลืมตาเลี้ยงเอาไว้ อย่าให้ไปเจอสุนัขอื่น แล้วพอวัยรุ่นมันจะผสมพันธุ์เป็นเอง เพราะว่ากามสัญญาของมันหรือสัญชาตญาณในเรื่องเพศของมันนั้น หมักดองในสันดานข้ามชาติ ไม่ต้องไปสอนหรอก เป็นเอง


              สําหรับในคน  จริงๆก็เป็นเอง  ไม่ต้องไปสอน  แต่ว่าถ้าใครนิสัยหยาบกระด้าง  ก็เป็นอย่างหยาบๆคายๆ ก็เลยต้องมีการอบรมแต่ถึงไม่อบรม ไม่ต้องสอน ก็เป็นเอง เป็นสันดานข้ามชาติเดิมๆนั่นเอง


             อีกอย่างหนึ่ง มรณสัญญา หมายถึง ความกลัวตาย ไม่ว่า หมู หมา กา ไก่ หรือคน จริงๆ แล้วตั้งแต่เด็กมันก็กลัวแล้ว นั่นแหละ อยู่ในเปล อยู่ในเบาะนั่นแหละ ตายังไม่ลืมเลย ลองตวาดเข้าซิของอะไรตกโครม ก็ตะเบ็งเสียงร้องลั่น ทำไม กลัวตาย ไม่ว่าคนไม่ว่าสัตว์ก็เหมือนกัน


             แต่ว่าคนเหนือกว่าสัตว์  ก็ตรงมี  ธรรมสัญญา  คือ  ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี  ซึ่งแต่ละคนมีไม่เท่ากัน พวกไหนมีบุญติดตัวมามากบุญเก่าบุญข้ามชาติมีมามาก ธรรมสัญญามีมาก ก็จะอยู่ในศีลในธรรมรู้จักหักห้ามใจ ไม่ไปยุ่งกับภรรยาของคนอื่น ไม่เป็นชู้กับสามีชาวบ้านมีหิริโอตตัปปะ ความละอายเกรงกลัวต่อบาปมาก


            เนื่องจากสัตว์ไม่มีสติ มีแต่กำลังกาย จึงไม่สามารถเปลี่ยนกำลังกายมาเป็นกำลังความดีได้ เปลี่ยนไม่ได้ เพราะฉะนั้น พอโตขึ้นมา มันก็ผสมพันธุ์กันเอง ไม่ว่าจะเป็นพ่อ เป็นแม่ มันผสมกันมั่ว


            นี่ก็เป็นกรรมของมัน  มันก็ต้องทนใช้หนี้เวรกาเมฯ  ไปอีกนานเลย  กว่าจะพ้นเศษเวรอันนี้ พวกเราก็ระวังกันไว้ มนุษย์ต่างจากสัตว์ก็ตรงมีธรรมสัญญานั่นเอง

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.0011603673299154 Mins