หมอชีวกโกมารภัจจ์
นางสาลวดีเป็นหญิงงามเมืองได้ไม่นาน ด้วยความประมาทไม่ได้ระมัดระวังตัว นางจึงตั้งครรภ์ขึ้นมา นางปกปิดการตั้งครรภ์ไว้จนถึงกำหนดคลอด ในวันคลอด ทันทีที่นางทราบว่าบุตรที่คลอดออกมาเป็นชาย นางก็ตัดสินใจให้เขาเอาบุตรไปทิ้งให้ตายเสียในวันนั้น เพราะมีความคิดว่า บุตรชายไม่อาจจะสืบทอดอาชีพโสเภณีของนางได้
นางสั่งให้สาวใช้คนสนิทนำลูกชายของตนใส่ในกระด้งเก่าๆ นำไปทิ้งที่กองขยะ กำชับให้ระวังไม่ให้ใครรู้เห็น สาวใช้ก็ทำตามคำสั่งทุกประการนางนำทารกน้อยไปทิ้งในเวลากลางดึกของคืนนั้น
เช้าวันต่อมา เจ้าชายอภัยพระโอรสของพระเจ้าพิมพิสารซึ่งกำลังเสด็จเข้าวังผ่านมาทางนั้น เห็นฝูงการุมล้อมบางสิ่งอยู่ จึงตรัสถามมหาดเล็กว่า “ฝูงการุมล้อมอะไร”
มหาดเล็กจึงรีบเข้าไปดู เห็นทารกเพศชายอยู่ในกระด้งมหาดเล็กจึงถือกระด้งกลับมาแล้วกราบทูลว่า “ฝูงกากำลังรุมล้อมทารกเพศชายอยู่พระเจ้าข้า” เจ้าชายอภัยตรัสถามว่า “ทารกนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่” มหาดเล็กกราบทูลว่า “ทารกยังมีชีวิตอยู่พระเจ้าข้า”
เจ้าชายอภัยจึงรับสั่งให้นำทารกกลับไปที่วังแล้วมอบทารกให้แม่นมเลี้ยงดูอย่างดี ตั้งชื่อให้ว่า “ชีวกโกมารภัจจ์” มีความหมายว่า กุมารที่เจ้าชายทรงชุบเลี้ยงไว้
ต่อมาภายหลังเมื่อทารกนั้นเจริญเติบโตแล้วได้ศึกษาวิชาแพทย์จนเชี่ยวชาญ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแพทย์หลวงประจำราชสำนักของพระเจ้าพิมพิสาร
ทารกนั้นมีทั้งบุญทั้งกรรม คือ ชนกกรรมนำมาเกิดเป็นลูกโสเภณี แต่บุญบันดาลให้เจ้าชายไปเจอและนำไปเลี้ยงดูอย่างดี