พระผู้มีพระภาคตรัสถึงลักษณะทานของสัตบุรุษ (คนดี) คือ
๑. ให้ของสะอาด
๒. ให้ของประณีต
๓. ให้ตามกาล
๔. ให้ของสมควร
๕. เลือกให้
๖. ให้เนืองนิตย์
๗. เมื่อให้จิตผ่องใส
๘. ให้แล้วดีใจ
เมื่อเราได้ทราบดังนี้แล้วว่า การทำบุญมีหลักใหญ่ๆ อยู่ คือ ทาน-ศีล-ภาวนา และรู้ว่าเราควรใช้วันเวลาที่มีอยู่อันน้อยนิดบนโลกมนุษย์กอบโกยสร้างบุญอย่างเต็มที่ โดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย เราก็ควรทำทั้ง ๓ อย่างไปกันให้เข้มข้นทับทวี ไม่ใช่เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทำหย่อนบางอย่าง เพราะทานนั้นมีผลให้ภพชาติต่อไปเราเกิดมาสมบูรณ์โภคทรัพย์
รักษาศีล คือ สำรวมกาย วาจา ใจ ผลก็คือ ทำให้เรามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เกิดมาไม่พิกลพิการ มีรูปสมบัติ คือ เกิดมามีหน้าตาดี เป็นที่รักแก่ผู้พบเห็น
การเจริญภาวนานั่งสมาธิ ทำให้เราเกิดมามีสติ ฉลาดเฉียบแหลม รู้เท่าทันทุกสิ่งทุกอย่างตามความเป็นจริง ตามความเป็นไปของโลกและชีวิต และแตกฉานในสรรพวิชชาทั้งหลาย
ดังที่พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ้ได้ให้โอวาทไว้ใน แม่พระ - พระแม่ ว่า..
"บารมีทุกบารมี บุญทุกๆ บุญ ทางมาแห่งบุญทุกๆ ทาง เป็นทางที่เราจะได้ฟรีๆ ทำให้ครบ ไม่ใช่รวยแล้วขี้เหร่ หรือสวยแต่ไม่ฉลาด ยาจกจน ต้องทำให้ครบทั้งทาน ทั้งศีล ทั้งภาวนา ทำมากก็ยิ่งรวยมาก ยิ่งทั้งสวย ทั้งหล่อมาก ยิ่งฉลาดมากๆ เพราะฉะนั้นทำให้ครบถ้วนบริบูรณ์ไม่ให้ขาดเลยแม้แต่อย่างเดียว
ทบทวนอยู่ทุกวันว่าวันนี้ขาดไหม ทั้งทาน ศีล ภาวนา หรือเอาแค่ภาวนา ทานกับศีลเอาไว้ก่อน หรือทานอย่างเดียว ศีลกับภาวนา ไม่ทำตรวจดูให้ดี สิ่งเหล่านี้จะบันทึกเอาไว้ในกลางกายของเราเป็นผังสำเร็จไปในทีเดียว ถ้าหากภพชาติของเราต่อไป เราขี้ริ้วขี้เหร่มากกว่าเขา ก็ต้องให้รู้ไว้เลยว่าปัจจุบันนี้เราประมาทไป ชะล่าใจไป เพราะฉะนั้น ทำให้เต็มที่ ทำมากทำน้อยทำทุกวันเต็มเปี่ยม ๑๐๐%"
เพราะฉะนั้น ใครที่ยังให้คนรับใช้ตักบาตรอยู่ก็ควรจะรีบไปทำเองเสีย
(จากหนังสือการทำบุญให้ทานที่สมบูรณ์แบบ)
ปัญหา |
สาเหตุของปัญหา |
วิธีแก้ปัญหา |
ผลที่ได้รับ |
๑. โลภ |
จน |
ทาน |
รวย |
๒. โกรธ |
เจ็บ |
ศีล |
สวย |
๓. หลง |
โง่ |
ภาวนา |
เก่ง |