บทสวดมนต์ทำวัตรเช้า

วันที่ 08 กย. พ.ศ.2556

บทสวดมนต์ทำวัตรเช้า

บทสวดมนต์ทำวัตรเช้า, ทำวัตรเช้า, สวดมนต์, สวดมนต์วัดพระธรรมกาย, บูชาพระ, สวดมนต์ตอนเช้า

      ขณะที่ประธานกำลังจุดเทียน ธูป บูชาพระรัตนตรัย ให้ทุกคน สำรวมใจ นั่งคุกเข่าประนมมือขึ้นพร้อมกัน ครั้นประธานกล่าวคำ นมัสการนำ ทุกคนก็ว่าตามโดยพร้อมเพรียงกันอย่างชัดเจน ไม่ค่อยหรือดังเกินไป พร้อมทั้งกำหนดนึกถึงพระพุทธรูปตามวิธีที่กล่าวมาแล้ว ควบคู่กันไปด้วย  เมื่อผู้เป็นประธานจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยเสร็จแล้ว พึงกล่าวคำนมัสการนำ ให้ว่าตามดังต่อไปนี้

 

      (เกริ่นนำ) พระรัตนตรัย เป็นทั้งที่พึ่งและที่ระลึกอันสูงสุดของพวกเราทั้งหลาย สิ่งอื่นที่จะเป็นที่พึ่งที่ระลึกยิ่งไปกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ดังนั้นขอนิมนต์พระภิกษุทุกรูป (หรือขอเรียนเชิญทุกท่าน) พึงตั้งใจ กล่าวคำสรรเสริญคุณของพระรัตนตรัย ด้วยการสวดมนต์ทำวัตรเช้าโดยพร้อมเพรียงกัน

๑. คำบูชาพระรัตนตรัยโดยพิสดาร

     โย โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ,
สวากขาโต เยนะ ภะคะวะตา ธัมโม ,
สุปะฏิปันโน ยัสสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ,
ตัมมะยัง ภะคะวันตัง สะธัมมัง สะสังฆัง ,
อิเมหิ สักกาเรหิ ยะถาระหัง อาโรปิเตหิ อะภิปูชะยามะ ,
สาธุ โน ภันเต ภะคะวา สุจิระปะรินิพพุโตปิ ,
ปัจฉิมาชะนะตานุกัมปะมานะสา ,
อิเม สักกาเร ทุคคะตะปัณณาการะภูเต ปะฏิคคัณหาตุ ,
อัมหากัง ทีฆะรัตตัง หิตายะ สุขายะ  ฯ

     

๒. คำนมัสการพระรัตนตรัย

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา , พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ ฯ (กราบ)
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม , ธัมมัง นะมัสสามิ ฯ (กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ , สังฆังนะมามิ ฯ (กราบ)

 

๓. ปุพพะภาคะนะมะการะ

(กล่าวนำ) หันทะ มะยัง พุทธัสสะ ภะคะวะโตปุพพะภาคะนะมะการัง กะโรมะ เส ฯ     

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ ฯ    (๓ ครั้ง)

 

๔. พุทธาภิถุติ

(กล่าวนำ) หันทะ มะยัง พุทธาภิถุติง กะโรมะ เส ฯ

    โย โส ตะถาคะโต อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ, วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู, อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิสัตถาเทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวา, โย อิมังโลกัง สะเทวะกัง สะมาระกัง สะพรัหมะกัง, สัสสะมะณะ พราหมะณิง ปะชัง สะเทวะมะนุสสัง สะยัง อะภิญญา สัจฉิกัตวา ปะเวเทสิ, โย ธัมมัง เทเสสิ อาทิกัลยาณัง มัชเฌกัลยาณัง ปะริโยสานะกัลยาณัง, สาตถัง สะพยัญชะนัง เกวะละปะริปุณณัง ปะริสุทธัง พรัหมะจะริยัง ปะกาเสสิ, ตะมะหัง ภะคะวันตัง อะภิปูชะยามิตะมะหัง ภะคะวันตัง สิระสา นะมามิฯ

(กราบระลึกถึงพระพุทธคุณ)

 

๕. ธัมมาภิถุติ

(กล่าวนำ) หันทะ มะยัง ธัมมาภิถุติง กะโรมะ เส ฯ

        โย โส สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม, สันทิฏฐิโก อะกาลิโกเอหิปัสสิโก, โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ, 

        ตะมะหัง ธัมมัง อะภิปูชะยามิตะมะหัง ธัมมัง สิระสา นะมามิฯ 

(กราบระลึกถึงพระธรรมคุณ)

 

๖. สังฆาภิถุติ

(กล่าวนำ) หันทะ  มะยัง สังฆาภิถุติง กะโรมะ เส ฯ

       โย โส สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, ญายะปะฏิ-ปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, ยะทิทัง จัตตาริปุริสะยุคานิอัฏฐะปุริสะปุคคะลา, เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ, อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลิกะระณีโย, อะนุต-ตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสะฯตะมะหัง สังฆังอะภิปูชะยามิตะมะหัง สังฆัง สิระสา นะมามิฯ

       ตะมะหัง สังฆัง อะภิปูชะยามิตะมะหัง สังฆัง สิระสา นะมามิฯ 

(กราบระลึกถึงพระสังฆคุณ)

 

๗. ระตะนัตตะยัปปะณามะคาถา

(ต่อไปนี้นั่งพับเพียบตามปกติ แล้วสวด)

(กล่าวนำ) หันทะ มะยัง ระตะนัตตะยัปปะณามะคาถาโย เจวะ 
สังเวคะปะริกิตตะนะ ปาฐัญจะ ภะณามะ เส ฯ

     พุทโธ สุสุทโธ กะรุณามะหัณณะโว ,
โยจจันตะสุทัพพะระญาณะโลจะโน , 
โลกัสสะ ปาปูปะกิเลสะฆาตะโก ,
วันทามิ พุทธัง อะหะมาทะเรนะ ตัง , 
ธัมโม ปะทีโป วิยะ ตัสสะ สัตถุโน , 
โย มัคคะปากามะตะเภทะภินนะโก , 
โลกุตตะโร โย จะ ตะทัตถะทีปะโน , 
วันทามิ ธัมมัง อะหะมาทะเรนะ ตัง , 
สังโฆ สุเขตตาภยะติเขตตะสัญญิโต ,
โย ทิฏฐะสันโต สุคะตานุโพธะโก , 
โลลัปปะหีโน อะริโย สุเมธะโส , 
วันทามิ สังฆัง อะหะมาทะเรนะ ตัง,  
อิจเจวะเมกันตะภิปูชะเนยยะกัง ,
วัตถุตตะยัง  วันทะยะตาภิสังขะตัง , 
ปุญญัง มะยา ยัง มะมะ สัพพุปัททะวา , 
มา โหนตุ เว ตัสสะ ปะภาวะสิทธิยา ฯ

 

๘. สังเวคะปะริกิตตะนะปาฐะ

      อิธะ ตะถาคะโตโลเกอุปปันโน  อะระหังสัมมาส้มพุทโธ  , ธัมโม จะ เทสิโต นิยยานิโก อุปะสะมิโก ปะริ-นิพพานิโก สัมโพธะคามี สุคะตัปปะเวทิโต, มะยันตัง ธัมมัง สุตวา เอวัง ชานามะ ชาติปิ ทุกขา ชะราปิ ทุกขา มะระณัมปิ ทุกขัง, โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสาปิ ทุกขา, อัปปิเยหิ สัมปะโยโค ทุกโข ปิเยหิวิปปะ-โยโค ทุกโขยัมปิจฉัง นะละภะติ ตัมปิทุกขัง, สังขิตเตนะ ปัญจุปาทานักขันธา ทุกขา, เสยยะถีทัง, รูปูปาทานัก-ขันโธ, เวทะนูปาทานักขันโธ, สัญญูปาทานักขันโธ, สังขารูปาทานักขันโธ  , วิญญาณูปาทานักขันโธ  , เยสัง-ปะริญญายะ , ธะระมาโน โส ภะคะวา, เอวัง พะหุลัง สาวะเก วิเนติ, เอวัง ภาคา จะ ปะนัสสะ ภะคะวะโต สาวะเกสุอะนุสาสะนี, พะหุลา ปะวัตตะติ, รูปัง อะนิจจัง, เวทะนา อะนิจจา, สัญญา อะนิจจา, สังขารา อนิจจา,วิญญาณัง อะนิจจัง, รูปัง อะนัตตา, เวทะนา อะนัตตา, สัญญาอะนัตตา, สังขาราอะนัตตา, วิญญาณังอะนัตตา สัพเพ สังขารา อะนิจจา, สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ, เต มะยัง (ท่านหญิงว่า ตา มะยัง) โอติณณามะหะ ชาติยา ชะรา-มะระเณนะ, โสเกหิปะริเทเวหิทุกเขหิโทมะนัสเสหิอุปายาเสหิ, ทุกโขติณณา ทุกขะปะเรตา, อัปเปวะนามิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ อันตะกิริยา ปัญญาเยถาติ, จิระปะรินิพพุตัมปิตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คะตา ธัมมัญจะ ภิกขุสังฆัญจะตัสสะ ภะคะวะโต สาสะนัง ยะถาสะติยะถาพะลัง มะนะสิกะโรมะ อะนุปะฏิปัชชามะ สา สา โน ปะฏิปัตติอิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะอันตะกิริยายะ สังวัตตะตุฯ

 

๙. ตังขณิกปัจจเวกขณปาฐะ

(กล่าวนำ) หันทะ มะยัง ตังขะณิกะปัจจะเวกขะณะปาฐัง ภะณามะ เส 

        ปะฏิสังขา โยนิโส จีวะรัง ปะฏิเสวามิยาวะเทวะ สีตัสสะ ปะฏิฆาตายะ อุณหัสสะ ปะฏิฆาตายะ ฑังสะมะกะสะวาตาตะปะสิริงสะปะสัมผัสสานัง ปะฏิฆาตายะ ยาวะเทวะ หิริโกปินะ ปะฏิจฏาทะนัตถังฯ

        ปะฏิสังขา โยนิโส ปิณฑะปาตัง ปะฏิเสวามิเนวะ ทะวายะ นะ มะทายะ นะ มัณฑะนายะ นะ วิภูสะนายะ, ยาวะเทวะ อิมัสสะ กายัสสะ ฐิติยา ยาปะนายะ วิหิงสุปะระติยา พรัหมะจะริยานุคคะหายะ อิติปุราณัญจะ เวทะนัง ปะฏิหังขามิ นะวัญจะ เวทะนัง นะ อุปปาเทสสามิ, ยาตรา จะ เม ภะวิสสะติ อะนะวัชชะตา จะผาสุวิหาโร จาติฯ

        ปะฏิสังขา โยนิโส เสนาสะนัง ปะฏิเสวามิ ยาวะเทวะ สีตัสสะ ปะฏิฆาตายะ อุณหัสสะ ปะฏิฆาตายะ ฑังสะ-มะกะสะวาตาตะปะสิริงสะปะสัมผัสสานัง ปะฏิฆาตายะ ยาวะเทวะ อุตุปะริสสะยะวิโนทะนัง ปะฏิสัลลานารามัตถังฯ

       ปะฏิสังขา โยนิโส คิลานะปัจจะยะเภสัชชะปะริกขารัง ปะฏิเสวามิ, ยาวะเทวะ อุปปันนานัง เวยยาพาธิกานัง เวทะนานังปะฏิฆาตายะ อัพยาปัชฌะปะระมะตายาติฯ

 

๑๐. ธาตุปฏิกูลปัจเวกขณปาฐะ

(กล่าวนำ) หันทะ มะยัง ธาตุปะฏิกูละปัจจะเวกขะณะปาฐัง ภะณามะ เสฯ

       ยะถาปัจจะยัง ปะวัตตะมานัง ธาตุมัตตะเมเวตัง ยะทิทัง จีวะรัง ฯ ตะทุปะภุญชะโก จะ ปุคคะโล ธาตุมัตตะโก นิสสัตโต นิชชีโว สุญโญ ฯ สัพพานิปะนะอิมานิจีวะรานิอะชิคุจฉะนียานิ อิมัง ปูติกายัง ปัตวาอะติวิยะ ชิคุจฉะนียานิชายันติฯ

      ยะถาปัจจะยัง ปะวัตตะมานัง ธาตุมัตตะเมเวตัง ยะทิทัง ปิณฑะปาโต ฯ ตะทุปะภุญชะโก จะ ปุคคะโล ธาตุมัตตะโก นิสสัตโต นิชชีโว สุญโญ ฯ สัพโพ ปะนายัง ปิณฑะปาโต อะชิคุจฉะนีโย อิมัง ปูติกายัง ปัตวา อะติวิ-ยะ ชิคุจฉะนีโย ชายะติฯ

      ยะถาปัจจะยัง ปะวัตตะมานัง ธาตุมัตตะเมเวตัง ยะทิทัง เสนาสะนัง ฯ ตะทุปะภุญชะโก จะ ปุคคะโล ธาตุ-มัตตะโก นิสสัตโต นิชชีโว สุญโญ ฯ สัพพานิปะนะ อิมานิเสนาสะนานิ อะชิคุจฉะนียานิอิมัง ปูติกายัง ปัตวา อะติวิยะ ชิคุจฉะนียานิ ชายันติฯ

      ยะถาปัจจะยัง ปะวัตตะมานัง ธาตุมัตตะเมเวตัง ยะทิทัง คิลานะปัจจะยะเภสัชชะปะริกขาโรฯ ตะทุปะภุญชะ-โก จะ ปุคคะโลธาตุมัตตะโก นิสสตโต ั นิชชโวี สุญโญฯ สัพโพ ปะนายัง  คิลานะปัจจะยะเภสัชชะปะริกขาโรอะชิคุจฉะนีโย อิมัง ปูติกายัง ปัตวาอะติวิยะ ชิคุจฉะนีโย ชายะติฯ

  

๑๑. ปัตติทานะคาถา

(กล่าวนำ) หันทะ มะยัง ปัตติทานะคาถาโย ภะณามะ เสฯ 

        ยา เทวะตา สันติวิหาระวาสินี
ถูเป ฆะเรโพธิฆะเรตะหิงตะหิง
ตา ธัมมะทาเนนะ ภะวันตุปูชิตา
โสตถิงกะโรนเตธะวิหาระมัณฑะเล
เถรา จะ มัชฌา นะวะกา จะ ภิกขะโว
สารามิกา ทานะปะตีอุปาสะกา
คามา จะ เทสา นิคะมา จะ อิสสะรา
สัปปาณะภูตา สุขิตา ภะวันตุเต
ชะลาพุชา เยปิจะ อัณฑะสัมภะวา
สังเสทะชาตา อะถะโวปะปาติกา
นิยยานิกัง ธัมมะวะรัง ปะฏิจจะ เต
สัพเพปิทุกขัสสะกะโรนตุสังขะยังฯ
   ฐาตุ จิรัง สะตัง ธัมโม 
   ธัมมัทธะรา จะ ปุคคะลา
   สังโฆ โหตุ สะมัคโค วะ   
   อัตถายะ จะ หิตายะ จะ 
   อัมเห รักขะตุ สัทธัมโม  
   สัพเพปิ ธัมมะจาริโน 
   วุฑฒิง สัมปาปุเณยยามะ 
   ธัมเม อะริยัปปะเวทิเต ฯ

     

๑๒. โอวาทปาฏิโมกข์

(กล่าวนำ) หันทะ มะยังโอวาทะปาฏิโมกขะคาถาโย ภะณามะ เส ฯ

ขันตี ปะระมัง ตะโป ตีติกขา ,
ความอดทน คือความอดกลั้น เป็นตบะอย่างยิ่ง
นิพพานัง ปะระมัง วะทันติ พุทธา ,
พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ตรัสว่าพระนิพพานเป็นเยี่ยม  
นะ หิ ปัพพะชิโต ปะรูปะฆาตี ,
ผู้ล้างผลาญผู้อื่น ,ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต
สะมะโณ โหติ ปะรัง วิเหฐะยันโต ,
ผู้เบียดเบียนผู้อื่น , ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะเลย 
เอตัง พุทธานะ สาสะนัง ฯ
นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย    
สัพพะปาปัสสะ  อะกะระณัง ,
การไม่ทำบาปทั้งปวง  หนึ่ง      
กุสะลัสสูปะสัมปะทา ,
การบำเพ็ญกุศลให้ถึงพร้อม  หนึ่ง      
สะจิตตะปะริโยทะปะนัง , 
การกลั่นจิตของตนให้ผ่องแผ้ว หนึ่ง  
เอตัง พุทธานะ สาสะนัง ฯ
นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
อะนูปะวาโท ,   
การไม่เข้าไปว่าร้ายกัน หนึ่ง   
อะนูปะฆาโต ,
การไม่เข้าไปล้างผลาญกัน หนึ่ง 
ปาฏิโมกเข จะ สังวะโร ,
ความสำรวมในพระปาฏิโมกข์ หนึ่ง    
มัตตัญญุตา จะ ภัตตัสมิง,
ความเป็นผู้รู้ประมาณในโภชนาหาร หนึ่ง   
ปันตัญจะ สะยะนาสะนัง ,
การนอนการนั่งอันสงัด  หนึ่ง 
อะธิจิตเต จะ อาโยโค ,
การประกอบความเพียรในอธิจิต หนึ่ง 
เอตัง พุทธานะ สาสะนัง ฯ
นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

 

    ทำวัตรเช้าเสร็จแล้ว ให้ทุกท่านสำรวมใจ นั่งคุกเข่าประนมมือขึ้นพร้อมกัน
เพื่อสวดมนต์ระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย ครั้นประธานกล่าวนำ ทุกคนก็ว่าตามโดยพร้อมเพรียงกัน ดังต่อไปนี้

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา , พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ ฯ
(กราบครั้งที่หนึ่งแล้วกล่าวว่า) 
พุทโธ เม นาโถ , พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งของเรา 

สวากขาโต ภะคะวะตาสัมโม , ธัมมัง นะมัสสามิ ฯ
(กราบครั้งที่สองแล้วกล่าวว่า) 
ธัมโม เม นาโถ , พระธรรมเป็นที่พึ่งของเรา 

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ , สังฆัง นะมามิ
(กราบครั้งที่สามแล้วกล่าวว่า) 
สังโฆ เม นาโถ , พระสงฆ์เป็นที่พึ่งของเรา

 

        การกล่าวเช่นนี้ เป็นการแสดงความเคารพอย่างแน่นแฟ้น และเป็นการทำจิตใจให้เลื่อมใสมั่นคงในพระรัตนตรัยยิ่งๆ ขึ้น อันจะเป็นบาทเบื้องต้นที่จะส่งผลให้เราเข้าถึงพระรัตนตรัยภายในได้โดยง่าย

 

(จบทำวัตรเช้า)


** อ้างอิงจากหนังสือ มนต์วิธานและศาสนพิธี **
เหมาะสําหรับภิกษุผู้นวกะพระเถระและพุทธศาสนิกชนผู้สนใจทั่วไป

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล Total Execution Time: 0.011919883886973 Mins