วันมาฆบูชา ตอนที่ 1
เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ได้ประมาณ 9 เดือน ทรงเทศน์โปรดสั่งสอน มีผู้ตรัสรู้ตามพระพุทธองค์จำนวนหนึ่งแล้ว ทรงพิจารณาห็นว่า ถึงเวลาที่ต้องประชุมสันนิบาตสาวก ตามพุทธประเพณีของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ที่ผ่านมา เพื่อประทาน “โอวาทปาติโมกข์” แก่พระภิกษุสงฆ์สาวก กำหนดหลักการ วิธีการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ที่ก่อให้เกิดสันติสุขแก่ชาวโลกอย่างแท้จริง จึงเสด็จไปประทับ ณ เวฬุวันมหาวิหาร กรุงราชคฤห์แคว้นมคธ ซึ่งพระเจ้าพิมพิสาร พระราชาผู้บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน ได้น้อมถวาย
วันนั้น ตรงกับวันเพญขึ้น 15 ค่ำ เดือนสาม พระจันทร์เต็มดวงสว่างไสวเสวยมาฆฤกษ์ ทอแสงนวลกระจ่างฟ้า ส่งผลให้ค่ำคืนไม่มีความมืด มีแต่ความสว่างตลอดราตรี ขณะนั้นพระสารีบุตรซึ่งน้อมใจตามพระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดา อยู่ในถ้ำบนยอดเขาคิชกูฎ ก็ได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ทันเวลาพอดี พระบรมศาสดาเมื่อทรงรู้ว่าพระอัครสาวกเบื้องขวา สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว ได้เสด็จจรลีไปในทางอากาศ มุ่งสู่พระเวฬุวันมหาวิหาร
พระสารีบุตรสอดญาณดูว่า พระพุทธองค์เสด็จไปทางไหน เมื่อรู้ได้ด้วยญาณทัสสนะว่า พระบรมศาสดา เสด็จไปประชุมสันนิบาตรสาวก จึงเหาะไปในนภากาศตามเสด็จไปทันทีบุคคลผู้มีจิตบริสุทธิ์ กายใจเบาสบาย ปราศจากกิเลสเหนี่ยวรั้งกังวล ย่อมมีอานุภาพบุญฤทธิ์ เหาะเหินเดินอากาศได้ ในยามที่ปรารถนาจะย่นเวลาและระยะทาง
ในวันมาฆบูชานี้ ได้เกิดเหตุอัศจรรย์ ขึ้นพร้อมกัน 4 ประการ คือ
หนึ่ง ตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือนสามพระจันทร์เสวยกฤษ์มาฆะ
สอง พระสงฆ์สาวกจำนวน 1,250 รูป ได้มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายทางวาจา เพื่อรับฟังพระโอวาทปาติโมกข์ ณ เวฬุวันมหาวิหาร
สาม พระภิกษุสงฆ์ที่มาประชุมทั้งหมด ล้วนเป็นพระอรหันต์ ผู้ทรงอภิญญา 6 พระบรมศาสดา จึงนัดหมายพระอรหัตสาวกทางข่ายพระญาณรับรู้พร้อมกันด้วยญาณทัสสนะ
สี่ พระอรหันต์ทั้งหมด ล้วนได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยวิธี “เอหิภิกขุอุปสัมปทา”
บทสารคดี รัตนวนาลี