วันมาฆบูชา ตอนที่ 2
ในสมัยพุทธกาล สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประชุมสันติบาตสาวก เพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้ไปในทิศทางเดียวกัน คือมุ่งสอนชาวโลกให้เข้าถึงสันติสุขภายใน ตามหลักที่ว่า
“ละเว้นความชั่วทำความดีให้ถึงพร้อมแล้วทำจิตให้บริสุทธิ์ผ่องใส ด้วยการเจริญสมาธิภาวนา”
แต่ในการเผยแผ่แน่นอนว่าต้องเจออุปสรรค ความไม่เข้าใจจากผู้ที่นับถือลัทธิความเชื่ออื่น ที่นับถือกันมาแต่ดั้งเดิม ผู้เผยแผ่ไม่ว่าเป็นพระภิกษุสงฆ์หรือฆราวาส ผู้ครองเรือน ต้องเข้าใจเป้าหมายอุดมการณ์ของพระพุทธศาสนา กล่าวคือ
:: หนึ่ง ต้องอดทน มีขันติ ตั้งแต่อดทนต่อความเจ็บป่วย อดทนต่อการฝึกฝนอบรมใจให้หยุด นิ่ง อดทนต่อการกระทบกระทั่ง อดกลั้นที่จะไม่ทำบาปทั้งปวง ฝืนกระแสกิเลสในตัว เองให้ได้
:: สอง ผู้ทำร้าย เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ชื่อว่าสมณะเลย ให้เขาได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง บุคคลที่เผยแผ่ พระพุทธศาสนา ต้องมีเมตตาธรรมไม่บังคับทำร้ายผู้อื่นเพื่อให้เขาเชื่อตามเรา
:: สาม ต้องสงบสำรวม คือ การปฎิบัติตนให้สงบสุขทั้งทางกาย วาจาใจ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธา ของผู้ที่พบเห็น
:: สี่ พระพุทธเจ้าทั้งหลายสรรเสริญว่าพระนิพพานเป็นเยี่ยม หมายความว่านิพพานคือ การดับทุกข์ สิ้นอาสวะกิเลสเหลือแต่บรมสุข สุขล้วนๆ ไม่มีทุกข์โทษเจือปน นิพพานเป็นเป้าหมายสูงสุด ในพระพุทธศาสนา
พระพุทธองค์ทรงสอนวิธีการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ซึ่งแม้ในปัจจุบัน พุทธบริษัทก็ยังยึดถือพระโอวาทปาฎิโมกข์ ที่สืบเนื่องมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล กล่าวคือ
1. ไม่ว่าร้าย ไม่กล่าวให้ร้ายโจมตีใคร ในเรื่องคำสอน
2. ไม่เบียดเบียนผู้อื่น เขาจะเชื่อคำสอนในพระพุทธศาสนาหรือไม่ก็ตาม ก็ไม่บังคับหรือทำร้ายข่มขู่เพื่อให้เขาเชื่อคล้อยตาม
3. สำรวมในปาติโมกข์ เคารพพระวินัย ระเบียบ กฏกติกาที่วางไว้
4. รู้จักประมาณในการบริโภค หมายความว่า รู้จักความพอดีในการกิน การใช้สอยปัจจัยสี่ต่างๆ รู้จักพิจารณาว่าสิ่งใดควรกินหรือไม่ควรกิน กินเพื่อบำรุงร่างกายให้แข็งแรง ไม่ใช่ว่ากินเพราะความอร่อยลิ้น
5. อยู่ในสถานที่สงบสงัดมีสิ่งแวดล้อมอันเหมาะสม ต่อการประพฤติธรรม และเผยแผ่พระศาสนา
6. บำเพ็ญเพียรในอธิจิต หมายความว่า ต้องหมั่นฝึกฝนอบรมจิตใจ ให้สงบสุขระงับจากกิเลส จิตมีความหยุดนิ่ง เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถเอาชนะกิเลสในตัว คือ โลภ โกรธ หลง ได้เพื่อประสิทธิภาพทางใจ ซึ่งมีผลต่อตนเอง และการเผยแผ่พระพุทธศาสนา นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลายหมายความว่า พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงสั่งสอนอย่างนี้เหมือนกันหมด คือ ละความชั่วทั้งปวง ทำความดีให้ถึงพร้อม ทั้งทาน ศีล ภาวนา หมั่นทำจิตใจให้ผ่องใส
วันมาฆบูชาปีนี้ ตรงกับวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 25557 ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศให้เป็นวันสำคัญ วันหยุดงาน เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ประกอบบุญกุศลเต็มที่ สั่งสมเสบียงบุญติดตัวไปภพเบื้องหน้า มีเวลาเตรียมกาย วาจา ใจให้บริสุทธิ์ตั้งใจนั่งสมาธิรักษาศีล 5 หรือศีล 8 ตลอดทั้งวัน ก่อนแต่งกายด้วยชุดขาวสุภาพไปเวียนเทียน ประทักษิณ 3 รอบมหาเจดีย์ ตามวัดใกล้บ้าน เพื่อสักการบูชาพระรัตนตรัยหรือเดินทางมาวัดพระธรรมกาย ซึ่งมีพิธีจุดโคมมาฆะประทีปถวายเป็นพุทธบูชาทุกปี
อานิสงฆ์ของการจุดประทีปบูชาพระรัตนตรัย หรือบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ว่าพระพุทธองค์ยังทรงมีพระชนม์อยู่ หรือพระปรินิพพาน นานแล้วก็ตาม หากการกระทำด้วยจิตที่เลื่อมใส มุ่งมั่นแรงกล้า ก็ได้บุญมหาศาลเท่าเทียมกัน
อาทิ ได้เป็นผู้ที่เกิดในตระกูลสูง มีผิวพรรณผ่องใส มีดวงตาที่งดงามแจ่มใส ไม่เป็นโรคตาเพียบพร้อมทั้ง มังสจักษุ ทิพยจักษุ สมันตจักษุ และธรรมจักษุ ที่มองเห็นได้รอบทิศทาง มองเห็นทะลุมิติภพสามได้อย่างอัศจรรย์ เมื่อใดที่เรามองเห็นด้วยธรรมจักษุ ล่วงรู้ทุกสรรพสิ่งด้วยญาณทัสสนะของกายธรรมเห็นผลของบุญบาป โลกนี้โลกหน้ามีจริง ความลังเลสงสัยจักหมดสิ้นไปเหลือแต่จิตใจที่มุ่งมั่นสร้างบุญให้เต็มที่ ไม่กระทำความชั่วอีกเลย
บทสารคดี รัตนวนาลี