วิธีการเจรฺยอสุภะ 10 เพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย
เมื่อได้พิจารณาอสุภะโดยอาการ 11 ดังกล่าวมาแล้ว ในการปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึง พระธรรมกาย นักปฏิบัติจะต้องนึกนิมิตนั้นไว้ที่ศูนย์กลางกาย โดยมีข้อปฏิบัติที่แตกต่างกันในอสุภะทั้ง 10 ประเภท ดังต่อไปนี้
1.อุทฺธุมาตกอสุภ หรือ ศพที่ขึ้นอืดพอง ให้พิจารณาความน่าเกลียดของศพว่า พองอืด แล้วน้อมภาพศพที่พองอืดมาไว้ที่ศูนย์กลางกาย พร้อมบริกรรมว่า อุทฺธุมาตกํ ปฏิกูลํ ๆ ๆ (ศพอุทธุมาตกะ พองอืด น่าเกลียด น่าขยะแขยง) บริกรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่า ลืมตาดูและหลับตาพิจารณาสลับไปเช่นนี้ ถ้าเมื่อใดหลับตาแล้วปรากฏภาพซากศพนั้นเหมือนเมื่อลืมตาก็จะได้อุคคหนิมิต อุคคหนิมิตเป็นนิมิตที่ปรากฏทางใจชัดที่ศูนย์กลางกาย จะเห็นเป็นซากศพน่าเกลียด น่ากลัวชวนให้ขยะแขยงสะอิดสะเอียน เมื่อปฏิบัติต่อไปก็จะได้ปฏิภาคนิมิตปรากฏเป็นภาพ คนอ้วนที่ล่ำสันนอนนิ่งอยู่ จากนั้นปฏิภาคนิมิตก็จะค่อยๆ กลั่นตัวใสขึ้นๆ จนใจรวมตกศูนย์เข้าถึงธรรม ดวงปฐมมรรคที่แท้จริงก็ผุดขึ้นมาแทนที่ ศพที่พองอืดนี้จะมีอาการพองเพียง 1 หรือ 2 วัน ก็จะแปรสภาพเป็นเขียวคล้ำ มีน้ำเหลือง ไหลเยิ้มต่อไป หากขณะที่เจริญอุทธุมาตกอสุภะแล้วยังไม่ได้อุคคหนิมิตหรือปฏิภาคนิมิต แต่ศพแปรสภาพไปแล้ว ก็ต้องไปหาศพใหม่ที่พองอืด หากหาศพที่เป็นเพศเดียวกับตนไม่ได้ บางกรณีท่านอนุโลมให้ใช้ซากสัตว์ เช่น ซากสุนัขก็ได้
2.วินีลกอสุภ พิจารณาซากศพที่มีสีเขียวคล้ำ บริกรรมว่า วินีลกํ ปฏิกูลํ ๆ ๆ (ศพที่มีสีเขียว น่าเกลียด น่าขยะแขยง) ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนได้อุคคหนิมิตและปฏิภาคนิมิต อุคคหนิมิตของวินีลกอสุภะ คือ ลักษณะของศพมีสีเขียวคล้ำ ส่วนปฏิภาคนิมิตจะไม่น่าเกลียดน่ากลัว จะเหมือนรูปปั้นมีสีแดง สีขาว สีเขียว เจือกัน จากนั้นจะค่อยๆ กลั่นตัวใสขึ้นจนใจรวมตกศูนย์เข้าถึงดวงปฐมมรรค
3.วิปุพฺพกอสุภ พิจารณาซากศพที่มีน้ำเหลืองแตกปริ บริกรรมว่า วิปุพฺพกํ ปฏิกูลํ ปฏิกูลํๆ (ศพวิปุพพกะ มีน้ำเหลืองไหลนี้ น่าเกลียด น่าขยะแขยง) บริกรรมซ้ำๆ อุคคหนิมิตที่ เกิดขึ้นจะเป็นเหมือนตัวศพนั้น ส่วนปฏิภาคนิมิตจะเป็นเหมือนรูปปั้นนอนนิ่งไม่มีน้ำเหลืองไหล จากนั้นจะค่อยๆ กลั่นตัวใสขึ้น จนใจรวมตกศูนย์เข้าถึงดวงปฐมมรรค
4.วิจฺฉิทฺทกอสุภ พิจารณาซากศพที่ถูกฟันขาดเป็น 2 ท่อน ถ้าศพที่จะพิจารณานั้นกระเด็นอยู่ห่างกันเกินไป ให้นำส่วนที่ขาดมาวางใกล้ๆ ให้ต่อกันประมาณ 1 องคุลี (2 เซนติเมตร) แล้วบริกรรมว่า วิจฺฉิทฺทกํ ปฏิกูลํ ๆ ๆ (ศพวิจฉิททกะ ถูกฟันขาด 2 ท่อน น่าเกลียด น่าขยะแขยง) อุคคหนิมิตปรากฏเป็นภาพศพขาด 2 ท่อนนั้นเอง ส่วนปฏิภาคนิมิตจะเป็นสภาพเหมือนคนนอนนิ่งเรียบร้อย ไม่น่ากลัว จากนั้นจะค่อยๆ กลั่นตัวใสขึ้นๆ จนใจรวมหยุดตกศูนย์เข้าถึง ดวงปฐมมรรค
5.วิกฺขายิตกอสุภ พิจารณาซากศพที่ถูกสัตว์ทึ้งแย่งกันเรี่ยราด บริกรรมว่า วิกฺขายิตกํ ปฏิกูลํ ๆ ๆ (ศพวิกขายิตกะนี้น่าเกลียด น่าขยะแขยง) อุคคหนิมิตที่เกิดขึ้นจะเหมือนที่พิจารณา ส่วนปฏิภาคนิมิตจะเป็นสภาพเหมือนคนนอนนิ่ง เรียบร้อย ไม่น่ากลัว จากนั้นจะค่อยๆ กลั่นตัว ใสขึ้นๆ จนใจรวมหยุดตกศูนย์เข้าถึงดวงปฐมมรรค
6.วิกฺขิตฺตกอสุภ พิจารณาซากศพที่กระจาย อวัยวะกระเด็นไปคนละทิศละทาง ต้องนำส่วนที่กระจัดกระจายในที่ต่างๆ มากองไว้ในที่เดียวกัน กำหนดบริกรรมว่า วิกฺขิตฺตกํ ปฏิกูลํๆๆ (ศพวิกขิตตกะ เป็นของน่าเกลียด น่าขยะแขยง) อุคคหนิมิตเหมือนซากศพที่เห็นปรากฏแก่สายตา ปฏิภาคนิมิตจะเห็นว่า อสุภะนั้นมีความสมบูรณ์ตลอดกาย จากนั้นจะค่อยๆ กลั่นตัวใสขึ้นๆ จนใจรวมหยุดตกศูนย์เข้าถึงดวงปฐมมรรค
7.หตวิกฺขิตฺตกอสุภ พิจารณาศพที่ถูกสับฟันด้วยมีด บริกรรมว่า หตวิกฺขิตฺตกํ ปฏิกูลํ ปฏิกูลํๆ (ศพหตวิกขิตตกะ เป็นของน่าเกลียด น่าขยะแขยง) อุคคหนิมิตที่เกิดขึ้นเป็นสภาพศพที่เป็นริ้วรอยเพราะถูกฟัน ปฏิภาคนิมิตจะเป็นศพที่เรียบร้อย สมบูรณ์ จากนั้นจะค่อยๆ กลั่นตัวใสขึ้นๆ จนใจรวมหยุดตกศูนย์เข้าถึงดวงปฐมมรรค
8.โลหิตกอสุภ พิจารณาซากศพที่มีเลือดไหล ซึ่งเลือดที่ไหลหาได้จากในเวลาที่ไหลออกจากปากแผลของคนผู้ได้รับการประหารเป็นต้น หรือในเมื่อมือและเท้าเป็นต้นถูกตัดขาด หรือในเวลาที่ไหลออกจากปากแผลของคนที่มีฝีหรือต่อมแตก โดยบริกรรมว่า โลหิตกํ ปฏิกูลํ ๆ ๆ (ศพโลหิตกะ เป็นของน่าเกลียด น่าขยะแขยง) อุคคหนิมิตจะเป็นสภาพศพที่มีเลือดไหล บางครั้งก็จะเหมือนผ้าแดงต้องลมพัดและไหวๆ อยู่ ส่วนปฏิภาคนิมิตจะเห็นซากศพเหมือนรูปปั้นกำมะหยี่สีแดง จากนั้นจะค่อยๆ กลั่นตัวใสขึ้นๆ จนใจรวมหยุดตกศูนย์เข้าถึงดวงปฐมมรรค
9.ปุฬุวกอสุภ พิจารณาซากศพที่มีหนอนคลาคล่ำชอนไชอยู่ บริกรรมว่า ปุฬุวกํ ปฏิกูลํ ๆ ๆ (ศพปุฬุวกะ เป็นของน่าเกลียด น่าขยะแขยง) อุคคหนิมิตจะเป็นศพที่มีหมู่หนอนคลานไต่ไปมา แต่ปฏิภาคนิมิตจะเห็นเป็นสภาพศพที่เรียบร้อยเหมือนกองข้าวสาลีสีขาวกองอยู่ จากนั้นจะค่อยๆ กลั่นตัวใสขึ้นๆ จนใจรวมหยุดตกศูนย์เข้าถึงดวงปฐมมรรค
10.อฏฺฐิกอสุภ พิจารณาซากศพที่เหลือแต่กระดูก บริกรรมว่า อฏฺฐิกํ ปฏิกูลํ ๆ ๆ (ศพอัฏฐิกะ นี้เป็นของน่าเกลียด น่าขยะแขยง) การพิจารณากระดูกในลักษณะเป็นท่อนๆ เป็นชิ้นๆ อุคคหนิมิตก็จะปรากฏกระดูกเป็นท่อน แต่ปฏิภาคนิมิตจะปรากฏเป็นร่างกายที่สมบูรณ์ จากนั้นจะค่อยๆ กลั่นตัวใสขึ้นๆ จนใจรวมหยุดตกศูนย์เข้าถึงดวงปฐมมรรค เช่นเดียวกัน
อฏฺฐิกอสุภ หรือซากศพที่เป็นกระดูก ที่สามารถนำมาพิจารณาเป็นอารมณ์กัมมัฏฐาน มีอยู่ 5 อย่าง คือ
1.ร่างกระดูกที่ยังมีเนื้อ เลือด เส้นเอ็น รัดรึงเป็นรูปร่างอยู่
2.ร่างกระดูกที่ไม่มีเนื้อ แปดเปื้อนด้วยเลือด ยังมีเส้นเอ็นร้อยรัดอยู่
3.ร่างกระดูกที่ไม่มีเนื้อและเลือด แต่ยังมีเส้นเอ็นรัดรึงอยู่
4.ร่างกระดูกที่ไม่มีเส้นเอ็นรัดรึงแล้ว กระจัดกระจายทั่วไป
5.ร่างกระดูกเป็นท่อนมีสีขาวดังสีสังข์
-----------------------------------------------------------------------------
MD 407 สมาธิ 7: สมถกัมมัฏฐาน 40 วิธี