อรรถกถา วิฆาสาทชาดก
ว่าด้วย การกินของที่เป็นเดน
วันหนึ่งมีกลุ่มภิกษุขอให้ให้พระมหาโมคคัลลานเถระ ทำให้ปราสาทสะเทือน ส่งผลให้เหล่าภิกษุสังเวชใจ พากันนั่งกล่าวโทษในโรงธรรมสภา
ในขณะเดียวกันพระศาสดาเสด็จผ่านมาจึงตรัสถามว่า "ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอนั่งสนทนากันด้วยเรื่องอะไรกัน" เหล่าภิกษุกราบทูลเรื่องที่ตนกำลังพูดถึงทั้งหมด พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไม่ใช่ในแต่บัดนี้เท่านั้น แม้ในกาลก่อน ภิกษุเหล่านี้ก็เป็นผู้มีศีลเป็นที่เยาะเย้ยเหมือนกัน" จึงทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้
ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติอยู่ในนครพาราณสี มีพี่น้อง ๗ คนในหมู่บ้านกาสิกคาม ได้เห็นโทษในกาม จึงพากันออกบวชเป็นฤๅษีอยู่กลางป่า แต่แทนที่ฤๅษีทั้งเจ็ด จะเพียรฝึกตนให้เป็นผู้บริสุทธิ์แต่กลับไม่ทำ ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย เที่ยวหาซากสัตว์มาทำเป็นอาหาร และเที่ยวเล่นไปทั่วป่า
วันหนึ่งท้าวสักกะเทวราช ทรงตรวจตราบนโลกมนุษย์ แล้วได้พบเข้ากับฤๅษีทั้งเจ็ดพี่น้อง ถึงกับรู้สึกอเนจอนาถใจ "โถ....เจ้าพวกนี้แทนที่เข้าป่าจะมาบำเพ็ญเพียร กับมาใช้ชีวิตสะดวกสบาย เราจะเเก้ปัญหานี้ยังไงดีนะ" ขณะที่ท้าวสักกะกำลังบ่นพึมพำ พลันความคิดแล่นเข้ามาในหัว จึงปลอมตัวเป็นนกแก้ว แล้วบินมายังที่อยู่ของฤๅษีเหล่านั้น แอบอยู่ที่ต้นไม้ ไม่ไกลจากที่พักมากนัก
นกเกาะอยู่บนกิ่งไม้ มองภาพตรงหน้าพลางถอนหายใจ เฮือกใหญ่ "เฮ้อ..อยู่แบบสบายดีจริงๆหนอ" ในขณะที่นกแก้วกำลังรำพึงรำพันอยู่นั้น ดันมีฤๅษีตนหนึ่งได้ยินเข้า จึงเรียกคนที่เหลือมา
เมื่อฤๅษีทั้งเจ็ด มียืนล้อมนกแก้วไว้ ก่อนที่เหล่าฤๅษีจะหันไปคุยกัน นกเเก้วเริ่มเอ่ยขึ้น "ท่านทั้งหลาย ช่วยฟังคำที่เราจะพูดต่อไปนี้ได้ไหม" "ได้สิ ว่ามาเลย" "ท่านนั้นอยู่ในสถานะผู้บำเพ็ญเพียรให้ตนบริสุทธิ์ แต่ทำไมถึงไปกินของเหลือที่คนอื่นไม่เอาแล้วล่ะ" "ทำไมเจ้าถึงพูดเช่นนี้ล่ะ" "ก็พวกท่านมักจะเก็บซากสัตว์ที่เหลือจากเสือและสิงโตมากิน สิ่งนี้ไม่สมควรเลยทั้งๆที่สามารถออกไปบิณฑบาตร กับชาวบ้านตามขอบชายป่าได้" "แล้วพวกท่านบวชมากี่พรรษา" "พวกเราบวชได้ ๗ พรรษาแล้ว" นกแก้วเอ่ยขึ้น "การกระทำแบบนี้เปรียบเหมือนนกยูงอยู่กลางป่า เลี้ยงชีพด้วยขยะเก็บเอาสิ่งที่เขาไม่เอาแล้วมากินต่อ"
"ถ้าจะเป็นผู้เจริญควรเลิกพฤติกรรมเรื่องนี้เถิด" ฤๅษีทั้งเจ็ดมีท่าที่ลำบากใจ ก่อนจะเอ่ยถาม "ถ้าหากพวกเราเป็นผู้กินของเหลือ แล้วใครจะมาตำหนิเราล่ะ?" "คนที่จะมาตำหนิก็คือคนให้ทานแก่ท่านไง" จากนั้นพระโพธิสัตว์ เทศน์ให้ดาบสเหล่านั้นสลดใจแล้ว แล้วกลับไปที่อยู่ของตนนั่นเอง
พระศาสดา ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว จึงทรงประชุมชาดกไว้ว่า
พี่น้องชาย ๗ คน ในครั้งนั้น ได้แก่ ภิกษุทั้งหลายผู้มีศีลน่าเยาะเย้ยเหล่านี้ ในบัดนี้
ส่วนท้าวสักกะได้เป็น เราตถาคต ฉะนี้แล.