ชาดก 500 ชาติ รวมนิทานชาดกพร้อมภาพประกอบ คติธรรม ข้อคิดสอนใจ

ชาดก 500 ชาติ : ชาดก 500ชาติรวมชาดก 500 ชาติพร้อมภาพประกอบ  ข้อคิดสอนใจ

ชาดก คือ เรื่องราวหรือชีวประวัติในอดีตชาติของพระโคตมพุทธเจ้า คือ สมัยที่พระองค์เป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีอยู่ พระองค์ทรงนำมาเล่าให้พระสงฆ์ฟังในโอกาสต่าง ๆ เพื่อแสดงหลักธรรมสุภาษิตที่พระองค์ทรงประสงค์ เรียกเรื่องในอดีตของพระองค์นี้ว่า ชาดก ชาดกเป็นเรื่องเล่าคล้ายนิทาน บางครั้งจึงเรียกว่า นิทานชาดก

ชาดก 500 ชาติ :: อรรถกถาสังกัปปราคชาดก ว่าด้วยลูกศรคือกิเลส

อรรถกถา สังกัปปราคชาดก

ว่าด้วย ลูกศรคือกิเลส

 

  
                  มีชายหนุ่มชาวเมืองสาวัตถีคนหนึ่ง ตั้งใจออกบวชถวายชีวิตให้กับศาสนาอยู่มาวันหนึ่ง ขณะบิณฑบาตในเมืองสาวัตถี ได้เห็นหญิงที่ตกแต่งประดับประดาสวยงามเข้า จึงเกิดความกำหนัดรักใคร่ ไม่อยากประพฤติพรหมจรรย์อยู่ในศาสนา
 พระภิกษุที่แก่พรรษากว่าได้เห็นอาการเข้า จึงถามถึงเหตุที่ไม่ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ ครั้นทราบว่า พระหนุ่มมีความประสงค์จะสึก จึงพาไปเฝ้าพระศาสดา


                  เมื่อพระบรมศาสดาตรัสถามว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอพาภิกษุผู้ไม่มีแก่ใจมาทำไมหรือ" จึงพากันกราบทูลเรื่องนั้นให้ทรงทราบ พระบรมศาสดาตรัสถามว่า "ได้ยินว่าเธอกระสันจะสึกจริงหรือภิกษุ?" "พระเจ้าข้า" "เพราะเหตุไร?" ภิกษุนั้นจึงกราบทูลให้ทรงทราบ "ดูก่อน ธรรมดาว่าสตรีทั้งหลายนี้ได้เคยทำความเศร้าหมองให้เกิดแม้แก่สัตว์ผู้บริสุทธิ์ทั้งหลายผู้ที่ข่มกิเลสได้ด้วยฌาน เหตุใด จะไม่ทำบุคคลผู้ไร้คุณสมบัติเช่นเธอ ให้เศร้าหมองเล่า ขนาดท่านผู้บริสุทธิ์ยังเศร้าหมองได้ ท่านผู้พร้อมด้วยยศก็ยังทำความให้เสื่อมได้ ลมที่พัดภูเขาสิเนรุให้หวั่นไหว ไฉนจะไม่พัดขยะ ใบไม้เก่าให้กระจัดกระจายเล่า กิเลสนี้ยังก่อกวนผู้นั่งอยู่ที่โคนต้นโพธิ์ กำลังจะตรัสรู้ได้ ไฉนจักไม่ก่อกวนคนเช่นเธอเล่า" ครั้นตรัสดังนี้แล้ว ภิกษุทั้งหลายทูลอาราธนา จึงทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธกดังนี้ 



                 ในอดีตกาล สมัยพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติอยู่ในพระนครพาราณสี พระโพธิสัตว์ได้บังเกิดในตระกูลพราหมณ์  มีทรัพย์สมบัติถึง ๘๐ โกฏิ ครั้นเจริญวัย ได้เล่าเรียนศิลปะทั้งปวงในเมืองตักกสิลา เมื่อเรียนสำเร็จแล้ว ก็กลับมายังเมืองพาราณสี อยู่ครองเรือนมีบุตรภรรยา ครั้นบิดามารดาล่วงลับไป เจ้าตัวนั้นได้รำพึงรำพันขึ้น "ทรัพย์ที่บิดามารดารวบรวมไว้ยังปรากฏอยู่ แต่พ่อและแม่หายไป ไม่กลับมาอีกเลย จึงเกิดความสลดใจ"ชายคนนี้อยู่ครองเรือนเป็นเวลานาน ได้ให้ทานมากมาย ละกามทั้งหลายจึงเข้าป่าหิมพานต์ สร้างที่พักอยู่ในที่อันน่ารื่นรมย์ เที่ยวแสวงหารากไม้และผลไม้ในป่าเลี้ยงชีพ ไม่นานเท่าไร ก็ทำอภิญญาและสมาบัติให้เกิดขึ้นได้สำเร็จ

 

%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%872.png

               

                  อยู่มาวันหนึ่งฤๅษีคิดว่าจะเดินทางไปยังตัวเมือง เพื่อบิณฑบาต ร่างกายจะได้แข็งแรงขึ้น ถือเป็นการพักผ่อนภายในตัว จึงออกจากป่าหิมพานต์ เที่ยวเดินทางไปตามหมู่บ้านต่างๆจนถึงเมืองพาราณสี ในเวลาใกล้ค่ำ ได้หาที่พักอาศัย จนกระทั่งพบเข้ากับพระราชอุทยาน  "ที่นี่น่าจะใช้ได้" จึงเข้าไปนั่งอยู่ที่โคนไม้ใหญ่

 

%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%8703.png


                  เช้าวันรุ่งขึ้น ท่านฤๅษีชำระร่างกายเรียบร้อยแล้ว ได้จัดแจงทุกอย่าง ถือภาชนะเดินเข้าพระนคร ไปจนถึงประตูวัง ในขณะนั้นพระราชากำลังเสด็จอยู่ที่ท้องพระโรงพอดี ทอดพระเนตรเห็นพระโพธิสัตว์เข้า แว็บแรกทรงเลื่อมใสในอิริยาบถทันที "ท่านดาบสผู้นี้ กริยามารยาท ชั่งงดงามอะไรเช่นนี้ ท่านอำมาตย์ ช่วยไปนิมนต์มาพบเราหน่อย" "พะย่ะข้า"

 

 

%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%8704.png
              

                  เมื่อท่านอำมาตย์ เชิญดาบสมาพบกับพระราชาเรียบร้อยแล้ว ลำดับนั้น พระองค์ทรงไหว้พระโพธิสัตว์แล้ว นิมนต์ให้นั่ง ถวายภัตตาหารที่ปราณีตแก่ท่านนักบวช อาหารที่ถูกจัดเตรียมอย่างปราณีตปรากฏขึ้นตรงหน้า


              

%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%875.png
              

                  เมื่อพระโพธิสัตว์ฉันเสร็จแล้ว พระราชาได้ตรัสถามปัญหา พระองค์ทรงพอพระทัยอย่างยิ่ง จึงขอให้อยู่ต่อในพระราชอุทยาน

 

%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%8706.png


                  ครั้นเมื่อตกลง ได้เสด็จไปพระราชอุทยานพร้อมกับพระโพธิสัตว์ รับสั่งให้สร้างที่พัก ที่จงกรม จัดให้พร้อมเสร็จ ถวายบริขารสำหรับบรรพชิต แล้วตรัสว่า "ขอพระคุณเจ้าจงอยู่โดยความสุขสำราญเถิด แล้วมอบหมายให้นายอุทยานดูแล"


                  ตั้งแต่นั้นมา พระโพธิสัตว์ได้อยู่ในพระราชอุทยานเป็นเวลา ๑๒ ปี ต่อมาชายแดนเกิดได้สงครามขึ้น พระราชามีความประสงค์จะเสด็จไประงับเหตุการณ์ด้วยตนเอง จึงตรัสเรียกพระเทวีมาพบ "น้องหญิง เจ้าอยู่ในวังนะไม่ต้องออกเดินทางไปกับพี่" "ทำไมหรือเจ้าคะ" เจ้าตัวเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย "พี่อยากให้ช่วยดูและดาบสที่พักอยู่ในพระราชอุทยานแทนพี่หน่อย" พระชายารับคำอย่างว่าง่าย "ขอบใจมาก ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พี่จะรีบกลับมานะ" "เจ้าค่ะ" รอยยิ้มที่อบอุ่นปรากฏขึ้น "ขอพระองค์อย่าทรงกังวลเลย จงเสด็จเถิด"


                 เช้าวันต่อมา กองทัพซึ่งมีกษัตริย์เป็นผู้นำ ออกเดินทางจากเมืองพาราณสีไป ฝ่ายพระเทวีก็ตั้งใจดูแลพระโพธิสัตว์เหมือนอย่างเดิม หลังจากพระราชาเสด็จไปแล้ว ท่านดาบสไม่ได้ไปรับอาหารตามเวลาที่เคยมา กับมาตามเวลาที่ตนชอบใจ อยู่มาวันหนึ่งพระโพธิสัตว์ยังไม่มาสักที พระเทวีได้จัดแจงอาหารทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงให้คนดูแลเอาเตียงน้อยมาวางไว้ คอยดูการมาของพระโพธิสัตว์ ด้านฤๅษีกำหนดว่าได้เวลาแล้ว ก็ถือภาชนะเหาะมาจนถึงช่องหน้าต่างบานใหญ่ เมื่อพระเทวีได้ยินเสียง ก็ลุกขึ้นโดยฉับพลัน "โอ๊ะ" เสียงตกใจดังขึ้น พร้อมกับผ้าคลุมที่หลุดลุ่ย พระโพธิสัตว์ได้เห็นดังนั้นก็ตะลึงกับความงามตรงหน้า

             

%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%8707.png

 

                   คลื่นลมที่สงบ กลับเกรียวกราวราวพายุอีกครั้ง ส่งผลให้ฌานนั้นเสื่อมลงในบัดดล ด้านพระเทวีรีบคว้าผ้ามาคลุมกายตามเดิม  แสดงท่าทีกลบเกลื่อนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนจะใส่อาหารลงในภาชนะทันที เมื่อรับภัตตาหารเรียบร้อยแล้ว ท่าทีของท่านฤๅษีเปลี่ยนไป เหมือนคนใจลอย ก่อนจะเดินลงทางบันไดกลับไปอุทยาน


              
                 เจ็ดวันผ่านไป ฝ่ายพระราชาชนะศึกสงครามครั้งนี้ ระงับข้าศึกที่อยู่ตามชนบทได้สำเร็จก็เสด็จกลับมา พระองค์ตรงไปยังพระราชอุทยานทันที ด้วยหวังว่าจะเยี่ยมพระโพธิสัตว์เป็นคนแรก ภาพที่ปรากฏตรงหน้า อาศรมรกรุงรังด้วยหยากไย่ พลันความคิดแว็บเข้ามาในสมอง "หรือท่านดาบสจะหนีไปแล้ว" เมื่อเปิดประตูก็พบว่า ท่านฤๅษีกำลังนอนอยู่ จึงให้คนติดตามทิ้งภัตตาหารเน่าบูด ชำระปัดกวาดที่พักให้เรียบร้อย แล้วตรัสถามพระคุณเจ้าว่า "ท่านไม่สบายหรือ?"

 

%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%8708.png


                "พระองค์ อาตมภาพถูกลูกศรเสียบแทง" เมื่อพระราชา ได้ยินดังนั้นจึงตรวจร่างกายหารอยที่ถูกยิง แต่ก็ไม่มีร่องรอยอะไรตามเนื้อตามตัวแม้แต่น้อย จึงตรัสถามว่า "ท่านถูกยิงที่ไหนหรือพระคุณเจ้า" "อาตมภาพไม่ได้ถูกคนอื่นยิง แต่อาตมภาพยิงตัวเองที่หัวใจด้วยลูกศรกิเลส ทำให้อวัยวะทั้งปวงเร่าร้อน เหมือนไฟติดไปทั่วตัว"
              

                เมื่อพระโพธิสัตว์อธิบายจบ จึงชวนพระราชาออกไปข้างนอก จากนั้นนั่งทำสมาธิจนฌานกลับมาอีกครั้ง ก่อนเหาะขึ้นไปนั่งอยู่กลางอากาศ "พระองค์ อาตมภาพจะไปอยู่ในป่าหิมพานต์ตามเดิม" พระราชาที่ได้ยินดังนั้นทรงอ้วนวอนต่างๆนาๆ  "อาตมภาพอยู่ที่นี่ มีอาการผิดแปลกอย่างที่ท่านเห็น จึงไม่อาจอยู่ต่อได้"

 

%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%879.png

 

                   จากนั้นก็เหาะไปป่าหิมพานต์ดำรงอยู่จนหมดอายุขัย ก็ได้ไปเกิดในพรหมโลก


               พระศาสดา ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแสดงแล้ว ทรงประกาศสัจจะ แล้วทรงประชุมชาดก
               ในเวลาจบสัจจกถา ภิกษุผู้กระสันจะสึก ก็ได้ดำรงอยู่ในพระอรหัต บางพวกได้เป็นพระโสดาบัน บางพวกได้เป็นพระสกทาคามี บางพวกได้เป็นพระอนาคามี.
               พระราชาในกาลนั้น ได้เป็น 
พระอานนท์ ในบัดนี้
               ส่วนดาบสคือ 
เราตถาคต ฉะนี้แล.

   

 

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

* * ชาดก 500 ชาติ แนะนำ * *

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล