อรรถกถา ผันทนชาดก
ว่าด้วย การผูกเวรของหมีและไม้ตะคร้อ
ณ.วันหนึ่งพระศาสดาเสด็จประทับอยู่ ณ ฝั่งแม่น้ำโรหิณี ทรงเอ่ยถึงพระญาติ แล้วตรัสว่าขอถวายพระพรมหาบพิตรทั้งหลาย จากนั้นพระองค์ได้ทรงนำเรื่องในอดีตมาเล่าให้ฟังโดยมาใจความดังนี้ว่า
ในอดีตกาล ในหิมวันตประเทศ มีต้นตะคร้อใหญ่ มีหมีตัวหนึ่งเที่ยวหากินแล้วมานอนที่โคนไม้ตะคร้อนั้นเป็นประจำ
อยู่มาวันหนึ่ง มีลมพัดกิ่งไม้แห้งได้หักลงตกถูกคอหมีที่กำลังนอนอย่างสบายอารมณ์ ขณะนั้นกิ่งไม้ทิ่มก็สะดุ้งตกใจ "เฮ้ย เกิดอะไรขึ้น" แต่ไม่มีเวลาให้คิดมากเท่าไหร่นัก ด้วยอารามตกใจ เจ้าหมีก็ลุกขึ้นวิ่งหนีออกไปอย่างรวดเร็วออกไปจากบริเวณ เมื่อเวลาผ่านไปชั่วครู่ หมีตัวเดิมก็กลับมายังโคนต้นไม้อีกครั้งแล้วเริ่มสำรวจว่าเมื่อเช้าที่ต้นโดนนั้นคืออะไร
หมีตัวนั้นพยายามมองหาต้นเหตุแต่ก็หาเจอไม่ "หรือว่าเป็นพวก ราชสีห์หรือพยัคฆ์อื่นๆ แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ ความเป็นไปได้นั้นก็มีเพียงเทพยดาเท่านั้น ต้นไม้นี้ไม่อาจทนดูเรานอนได้ เอาเถิดคงได้รู้กัน" พร้อมกับขู่ตะคอกรุกขเทวดาว่า "สัตว์ตัวอื่นกินใบต้นไม้ของเจ้า เจ้ายังทนได้ ข้าแค่นอนเท่านั้น แค่นี้ก็ไม่ได้" รุกขเทวดา งงกับความคิดของหมีป่า "อะไรของเธอ ข้าไม่ได้ทำอะไรเลย คิดไปเองทั้งนั้น" ทั้งคู่ยืนเถียงกันไปมา จนหมีป่าเอ่ยขึ้นว่า "ค่อยดูนะอีกสองสามวัน ข้าจะให้คนมาขุดต้นไม้ของเจ้าทั้งรากทั้งโคนเลย" หลังจากที่ทั้งสองทะเลาะกัน หมีป่าจึงปลีกตัวออกมา เที่ยวเสาะหา คนมาโค่นต้นไม้
จนกระทั่งวันหนึ่ง หมีป่าเดินวนไปวนมา หาคนที่กำลังจะมาตัดไม้ในป่า จนกระทั่งเจอเข้ากับชายสามคน ถือพร้าและขวาน ซึ่งกำลังสนทนากันเรื่องต้นไม้ หมีป่าที่ได้ยิน จึงเดินเข้าไปหากลุ่มคนทั้งสาม "นายท่านๆ" เสียงของหมีป่าเอ่ยขึ้น
ชายหนุ่มเห็นหมีพูดได้ก็ตกใจ พร้อมกับอุทานว่า "ตั้งแต่พวกเราเกิดมาพึ่งเคยเห็นหมีพูดได้ ช่างน่ามหัศจรรย์จริงๆ" "ท่านมาตัดไม้ในป่านี้ใช่ไหม" "ใช่เราว่าจะทำรถคันใหม่เลยเข้ามาที่นี่" "งั้นเชิญตามเรามาเลย" "โอเค" ชายทั้งสามเดินตามหมีป่าไป จนกระทั่งถึงต้นคร้อใหญ่ "เชิญตัดต้นนี้ได้เลยท่าน" จากนั้นหมีป่าก็เดินจากไป
ขณะนั้นช่างไม้เตรียมตัวจะตัดต้นคร้อใหญ่ รุกขเทวดาเห็นเข้าได้รำพันออกมา "ความจริงแล้วเราก็ไม่ได้ทำอะไรเลย มาผูกอาฆาต กันอย่างนั้น ไม่ได้การละ ขืนปล่อยไว้อย่างนี้ไม่มีบ้านอยู่แน่" จึงจำแลงเป็นคนทำงานในป่า ที่บังเอิญผ่านมา แล้วถามว่า "ท่านได้ต้นไม้ที่เหมาะแล้วหรือ แล้วตัดไปทำอะไร" "อ่อพวกเราทำล้อรถ" "แล้วทำไมถึงมาเจอต้นไม้นี้ล่ะ" "หมีตัวหนึ่งบอกมา"
.
"ดีแล้วที่หมีนั้นบอก รถคงจะงามมากแน่ๆถ้าได้ไม้นี้ แต่เมื่อท่านลอกหนังคอหมีประมาณ ๔ นิ้วแล้วเอาหนังนั้นหุ้มล้อรถ ดุจหุ้มด้วยแผ่นเหล็ก ล้อรถก็จะแข็งแรง พวกท่านสามารถขายได้ในราคาที่สูง" ชายทั้งสามได้ยินดังนั้นก็ถามกลับทันทีว่า "แล้วอย่างนี้เราได้หนังหมีมาจากไหนเล่า" "จะที่ไหนเล่าก็ที่นำท่านมาไง ส่วนเรื่องต้นไม้ท่านไม่ต้องห่วงหรอก เพราะว่ายังไงก็ไม่สามารถหนีไปไหนได้" "อื้ม เป็นความคิดที่ดี" "โอเค งั้นเราไปหาหมีตนนั้นกัน" จากนั้นคนทั้งสามก็เดิน ออกตามหา แล้วพูดว่า "ให้ช่วยพาไปหาต้นไม่อีกต้นนึงได้ไหม" "ได้สิ ผมยินดี" จากนั้นหมีป่าเดินนำชายทั้งสามไป "ถึงแล้ว" ขณะที่กำลังเผลอ ขวานอันใหญ่ก็ฟันไปที่คอหมีทันที จากนั้นชายทั้งสามถลกหนัง กินเนื้อที่เหลือ แล้วค่อยกลับตัดต้นไม้ เป็นอันว่ารุกขเทวดาจองเวรสำเร็จ
พระศาสดาทรงถือเอายอดแห่งเทศนาด้วยพระนิพพาน ด้วยประการฉะนี้
พระราชาทั้งหลายทรงสดับธรรมกถาของพระองค์แล้ว ต่างก็ทรงสมัครสมานกันได้.
พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า
ก็แลเทวดาผู้สิงอยู่ในราวป่านั้น ฟังเรื่องราวนั้นในครั้งนั้น คือ เราตถาคต แล.