ชาดก 500 ชาติ รวมนิทานชาดกพร้อมภาพประกอบ คติธรรม ข้อคิดสอนใจ

ชาดก 500 ชาติ : ชาดก 500ชาติรวมชาดก 500 ชาติพร้อมภาพประกอบ  ข้อคิดสอนใจ

ชาดก คือ เรื่องราวหรือชีวประวัติในอดีตชาติของพระโคตมพุทธเจ้า คือ สมัยที่พระองค์เป็นพระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีอยู่ พระองค์ทรงนำมาเล่าให้พระสงฆ์ฟังในโอกาสต่าง ๆ เพื่อแสดงหลักธรรมสุภาษิตที่พระองค์ทรงประสงค์ เรียกเรื่องในอดีตของพระองค์นี้ว่า ชาดก ชาดกเป็นเรื่องเล่าคล้ายนิทาน บางครั้งจึงเรียกว่า นิทานชาดก

ชาดก 500 ชาติ :: อรรถกถา สกุณัคฆิชาดก ว่าด้วย เหยี่ยวนกเขา

อรรถกถา สกุณัคฆิชาดก

ว่าด้วย เหยี่ยวนกเขา

                    ในเช้าวันหนึ่งที่พระเชตวันมหาวิหาร แสงแดดยามรุ่งส่องกระทบหลังคาวิหารสีทองอร่าม พระพุทธเจ้าทรงเรียกภิกษุทั้งหลายมาแล้วตรัสโอวาทว่า“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย…พวกเธอพึงเที่ยวไปใน ‘โคจร’ ที่ปลอดภัย เหมาะแก่การบำเพ็ญเพียร อย่าเที่ยวไปในสถานที่อโคจร ซึ่งเต็มไปด้วยภัยและสิ่งล่อลวง”

 

                    เหล่าภิกษุต่างนิ่งสงบ เงี่ยหูฟังอย่างเคารพพระพุทธองค์ตรัสต่อ...“แม้สัตว์เดียรัจฉาน หากละถิ่นของตนแล้วเที่ยวไปในแดนที่ไม่สมควร ยังต้องถึงแก่ความพินาศ แต่เมื่อกลับมาอยู่ในที่ที่ตนคุ้นเคย ก็สามารถเอาชนะภัยร้ายได้ด้วยปัญญา เราจักเล่าให้ฟังถึงเรื่องในอดีตกาล...”

 

             ในอดีตกาล ณ ป่าริมนครพาราณสี ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์เกิดเป็น นกมูลไถ ตัวหนึ่ง อาศัยอยู่ในคันนาใกล้ทุ่งไถ เขาเป็นนกตัวเล็กแต่ฉลาดและรอบรู้เขารู้ดีว่าในดินแห่งนั้นมีแมลงและหนอนมากมาย เป็นแหล่งอาหารที่พ่อแม่ของเขาหากินกันมาตั้งแต่สมัยก่อน

 

                    วันหนึ่ง...นกมูลไถน้อยเกิดความคิดว่า“ทำไมเราต้องวนเวียนอยู่แค่ในนาเก่า ๆ ด้วยล่ะ? ลองไปท้ายป่าดูบ้าง บางทีอาจจะมีของแปลก ๆ อร่อยกว่าก็ได้” แล้วเขาก็บินออกไป...ไกลจากโคจรของตน

 

%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%871.png

 

                   ไม่ทันไร...เสียงหวีดลมก็ดังขึ้น พร้อมเงาทะมึนแผ่ผ่านท้องฟ้า เหยี่ยวนกเขา ผู้หิวโหย กำลังโฉบมาอย่างรวดเร็ว! มันแผ่ปีกอันทรงพลัง บินโถมเข้าหานกมูลไถที่เพิ่งลงพื้นหาแมลง กรงเล็บยาวแหลมใกล้เข้ามาทุกที ทันใดนั้น...นกน้อยร้องขึ้นว่า“โอ๊ย! ฉิบหายแล้ว! ถ้าเราบินอยู่ในคันนานะ เจ้าคงไม่ได้แตะขนเราหรอก!”

 

%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%872.png

 

                   เหยี่ยวหัวเราะเยาะ“ถิ่นเจ้าหรือ? แล้วถ้าไปอยู่ในที่เดิมจะรอดเรางั้นหรือ?”“ใช่! บนก้อนดินสูง ๆ แถวคันนา ที่พ่อข้าบินหนีเหยี่ยวได้ทุกครั้ง ข้ารู้ทางหลบซ่อนดี!”

 

                   เหยี่ยวจ้องมองด้วยความสนุก“งั้นก็ดี...ไปสิ ข้าจะตามไปจับเจ้าถึงที่!” เหยี่ยวปล่อยนกมูลไถลงพื้น ปีกมันยังเต็มพลัง ไม่มีความกลัวใด ๆ เลย แต่นกมูลไถพอได้อิสรภาพก็บินกลับถิ่นของตนอย่างรวดเร็ว ไปยังดินก้อนใหญ่ที่ตั้งอยู่บนคันนา แล้วส่งเสียงท้าทาย“มาเลย เจ้าเหยี่ยว! ถ้าแน่จริงก็มาจับข้าที่นี่!”

 

%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%874.png

 

                   เหยี่ยวแผ่ปีกพุ่งตรงลงมาด้วยความเร็วสูง มันหมายจะปิดเกมในพริบตา แต่พอใกล้ถึง... ฟึ่บ!นกมูลไถหายวับเข้าไปในช่องเล็ก ๆ ระหว่างดินพอดีเหยี่ยวเบรกไม่ทัน! โครม!อกมันกระแทกกับก้อนดินเต็มแรง กระดูกหัก ตาถลน ตายคาที่!

 

%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%AD%E0%B8%875.png

 

                 นกมูลไถค่อย ๆ โผล่ออกมายืนบนอกเหยี่ยวใบหน้าเปื้อนฝุ่นของมันยิ้มอย่างภาคภูมิใจ“โชคดีที่เราไม่ใช่แค่นก แต่เรามีสติ รู้จักทางหนีทีไล่ในถิ่นของเราเอง!”

 

          กลับสู่พระเชตวันพระพุทธองค์ตรัสว่า“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี่คืออุทาหรณ์จากนกมูลไถ สัตว์เดียรัจฉานยังรู้ว่าถิ่นของตนนั้นปลอดภัยพวกเธอก็เช่นกัน อย่าหลงเข้าไปใน ‘อโคจร’ ที่เต็มไปด้วยกามคุณห้าเพราะที่นั่น มารย่อมได้ช่อง มารย่อมเข้าถึงได้”

 

แล้วพระองค์ตรัสสรุปว่า“ในครั้งนั้น เหยี่ยวผู้หยิ่งยะโสคือตัว เทวทัต
ส่วนนกมูลไถผู้รู้เท่าทันและรอดพ้นภัยนั้น…คือ เราตถาคต เอง”

บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

* * ชาดก 500 ชาติ แนะนำ * *

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล