อรรถกถา สาลกชาดก
ว่าด้วย สาลกวานร
ในยามบ่ายแห่งพระเชตวันมหาวิหาร ขณะที่แดดร่มลมตกและเงาไม้ทอดทาบพื้นดิน พระพุทธเจ้าทรงตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายให้มาประชุมกัน และในวันนี้ พระองค์ทรงปรารภเรื่องของ พระมหาเถระรูปหนึ่ง กับ สามเณรน้อยผู้ดื้อแต่เด็ดเดี่ยว “ผมไม่อยากบวชอีกแล้วขอรับหลวงพ่อ…”ครั้งหนึ่ง ณ พระวิหารเชตวัน มีพระเถระรูปหนึ่งที่เลี้ยงดูสามเณรน้อยไว้ โดยพยายามให้เขาเคร่งครัดในวัตรปฏิบัติ แต่แทนที่จะเป็นการอบรมด้วยเมตตา กลับเป็นการข่ม บังคับ และเร่งเร้าเกินวัย
สามเณรน้อยผู้อ่อนไหว ทนไม่ไหวก็สึกออกไป…พระเถระไม่ลดละความพยายาม พูดหวานล้อมว่า“จีวรเป็นของเธออยู่นะ บาตรก็ยังอยู่ มาเถิด มาเถิด... บวชอีกเถิดลูกเอ๋ย” เด็กน้อยไม่อยากเสียใจใคร จึงจำใจบวชใหม่... แต่แล้ว ก็ถูกปฏิบัติเหมือนเดิม เข้มงวด เคร่งเครียด ไม่เคยฟังใจเขาทนอีกครั้งไม่ได้... และสึกอีกเป็นครั้งที่สอง
เมื่อพระเถระจะเกลี้ยกล่อมอีก เด็กน้อยส่ายหน้า“หลวงพ่อไม่เข้าใจผมเลย ผมไม่อยากกลับไปอยู่ตรงนั้นอีกแล้ว หลวงพ่ออยู่ได้โดยไม่ต้องมีผมแน่นอน” เมื่อสามเณรปฏิเสธเสียงแข็ง เหล่าภิกษุพากันซุบซิบในโรงธรรม“สามเณรนั่นใจเด็ดจริง รู้ว่าอยู่กับพระเถระแล้วจะลำบาก เลยไม่ยอมกลับไปบวชอีก”
พระพุทธเจ้าทรงเสด็จมา ทรงถามว่า“พวกเธอกำลังสนทนาเรื่องอะไรหรือ?”เมื่อทรงสดับเรื่องทั้งหมดแล้ว พระองค์ตรัสยิ้ม ๆ ว่า“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย… ไม่ใช่เพียงชาตินี้เท่านั้นที่สามเณรรูปนี้มองทะลุใจผู้อื่น ในอดีต เขาก็เคยฉลาดเฉียบไวเช่นนี้เหมือนกัน...”
ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพ่อค้าขายข้าวเปลือกในกรุงพาราณสีวันหนึ่ง หมองู เดินทางมาพร้อมกับลิงแสนรู้ตัวหนึ่ง มันเต้นเก่ง ถือถุงยาไว้หลอกงู แล้วทำโชว์เรียกคนดู มันเป็นขวัญใจเด็ก ๆ เลยทีเดียวเมื่อมีเทศกาลมหรสพใหญ่ในเมือง หมองูเกิดอยากเที่ยวดูบ้าง เลยฝากลิงไว้กับพ่อค้าพระโพธิสัตว์ว่า"ท่านพ่อค้า! ฝากเจ้าสาลกะไว้กับท่านหน่อยนะ อย่าปล่อยให้มันคลาดสายตาเชียว!" หมองูกำชับ
พ่อค้าก็รับปาก หมองูไปดูมหรสพอย่างสบายใจ ส่วนเจ้าสาลกะก็อยู่กับพ่อค้าอย่างเงียบ ๆ เวลาผ่านไป 7 วัน... หมองูกลับมาที่ร้านของพ่อค้า "ลิงของข้าอยู่ไหน?" เขาร้องถาม เจ้าลิงได้ยินเสียงเจ้านาย... ถึงกับสะดุ้ง รีบวิ่งออกมา... แต่สิ่งที่ได้แทนคำทักทายคือ ไม้เรียวฟาดเต็มหลัง!
หมองูตีลิงโดยไม่พูดไม่จา แล้วลากมันไปผูกไว้ในสวน หลับปุ๋ยไปด้วยความเหนื่อย เจ้าลิงน้อยที่หลังแดงแสบ รู้ทันทีว่าไม่มีทางอยู่แบบนี้ได้อีกมันค่อย ๆ แก้เชือก... หนีขึ้นต้นมะม่วง กินผลสุก ๆ ด้วยความอิ่มเอม แล้ว ปาเมล็ดมะม่วงใส่หัวหมองู!หมองูสะดุ้งตื่น! เห็นลิงอยู่บนยอดไม้ จึงพยายามหลอกล่อด้วยคำพูดหวาน ๆ“ลงมาเถิดลูกพ่อ พ่อรักเจ้านะ เจ้าเป็นลิงตัวเดียวของพ่อ พ่อจะพากลับบ้านเราแล้ว…”
แต่เจ้าลิงหรี่ตาลง หัวเราะในลำคอ“โอ้โห...ตอนฉันใจดี ท่านก็เฆี่ยนฉันด้วยไม้ไผ่ตอนนี้จะให้ฉันกลับไป? ขอบายเถอะ... ฉันขออยู่กับมะม่วงสุกในป่าดีกว่าท่านไปเถอะ ฉันไม่กลับไปอีกแล้ว”แล้วก็หายวับเข้าป่า... โดยไม่หันหลังกลับ