เรื่องที่ ๕๑ แสงสว่างอัศจรรย์
เรื่องนี้สองสามีภรรยา คุณธนพล และ คุณสุภา จรรยาวัติวงศ์ บ้านอยู่บางเขน กรุงเทพฯ เล่าว่า
หลังจากทั้งคู่ทำบุญสร้างองค์พระที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์บูชาคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และได้รับพระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุไปบูชาแล้ว ๒ วัน
คืนนั้นคุณธนพลวางองค์พระไว้ในฝ่ามือที่หงายอยู่บนตัก นั่งหลับตานึกถึงท่านไว้เป็นบริกรรมนิมิต ส่วนบริกรรมภาวนาก็สวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุแทน เมื่อสวดสรรเสริญจบ ก็นั่งทำสมาธิจิตต่อ
คุณสุภาผู้เป็นภรรยาเล่าว่า ขณะที่สามีสวดสรรเสริญพระมหาสิริราชธาตุอยู่นั้น ตัวเธอนั่งอยู่ใกล้ๆ สามี ไม่ได้เปล่งเสียงสวดตามแต่ส่งสายตามองที่องค์พระในฝ่ามือของสามี พร้อมทั้งอธิษฐานในใจขอพรท่าน ขณะที่ขอเรื่องนั้นเรื่องนี้อยู่นั่นเอง เธอก็ต้องตกตะลึง เมื่อมองเห็นลำแสงสว่างพุ่งออกจากองค์พระมาที่ตัวเธออยู่เป็นเวลาชั่วครู่หนึ่ง
เมื่อสามีออกจากสมาธิแล้ว ภรรยาได้เล่าให้ฟัง ทั้งคู่ต่างพากันดีใจที่พระมหาสิริราชธาตุแสดงปาฏิหาริย์ให้เห็นเป็นกำลังใจ ปกติแล้วทั้งคู่เลื่อมใสในวิชชาธรรมกายและหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ตลอดมา คุณธนพลเล่าว่านับตั้งแต่นำพระมหาสิริราชธาตุเข้าบ้าน สวดสรรเสริญบูชาอยู่ทุกคืน ปรากฏว่ามีลูกค้าโทรศัพท์จ้างให้ไปทำงานไฟฟ้าตามบ้านมากรายขึ้นจนผิดปกติ แต่เดิมมีจำนวนไม่มากถึงขนาดนี้ ทำให้เชื่อมั่นในอานุภาพของพระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุเป็นอย่างยิ่ง
โดยปกติแล้ว กระแสพลังบุญนั้น ถ้าเห็นในญาณทางสมาธิ จะมีลักษณะเป็นความสว่างไสว คุณสุภาเองในขณะที่เห็น แม้ไม่ได้ทำสมาธิเหมือนสามี แต่ใจก็กำลังนิ่งอธิษฐานอยู่ จึงทำให้จิตอยู่ในศูนย์กลางกาย สามารถมองเห็นพลังบุญที่เธอขอพรจากพระมหาสิริราชธาตุด้วยตาเนื้อ ซึ่งก็คงเหมือนเหตุการณ์วันปาฏิหาริย์ ๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๔๑ ที่มีผู้คนหลายคนเห็นสายบุญจากเบื้องบน เป็นลำแสงส่งมายังผู้คนที่ประชุมกันเบื้องหน้ามหาธรรมกายเจดีย์ หรือแม้ขณะที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ผู้เป็นประธานในพิธี กำลังเดินทางกลับ พร้อมคณะสงฆ์ผู้ติดตามจำนวนหนึ่ง มีสายบุญเป็นลำสว่างมองเห็นได้จากเบื้องบนส่องลงมา
การแสดงปาฏิหาริย์ของพระมหาสิริราชธาตุของครอบครัวคุณธนพล จึงเป็นผลดีอย่างยิ่งต่อจิตใจผู้เป็นเจ้าของ ทำให้มีศรัทธาเลื่อมใสมั่นคงในพระพุทธศาสนา มีที่พึ่งของชีวิต เต็มใจสร้างบุญกุศลยิ่งๆ ขึ้นไป ไม่ท้อแท้เสื่อมคลายในการทำบุญ