อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ

พระมหาสิริราชธาตุ รุ่นดูดทรัพย์ สำหรับ ผู้สร้างพระธรรมกายประจำตัวภายในมหาธรรมกายเจดีย์นั้น จะได้รับของที่ระลึกเป็นพระธรรมกายของขวัญ

อานุภาพพระมหาสิริราชธาตุ เรื่องที่ ๙๐ อธิษฐานจิตรักษาโรค

 

เรื่องที่ ๙๐  อธิษฐานจิตรักษาโรค
 

คุณภรณี ราชพลี เป็นเภสัชกร ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ บ้านเดิมอยู่จังหวัดตรัง มาวัดพระธรรมกายครั้งแรกวันอาทิตย์ต้นเดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๔๑ จากนั้นก็ได้มาติดต่อกันทุกๆ เดือน อีกทั้งยังได้มาร่วมงานบวชอุบาสิกาแก้วพร้อมน้องสาวด้วย


ต่อมาเมื่อทราบเรื่องสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวประดิษฐานที่แกนกลางมหาธรรมกายเจดีย์ ก็คิดว่าคงไม่มีทางทำบุญได้ เพราะยังมีเงินไม่พอ แต่เมื่อเห็นพระมหาสิริราชธาตุจากเพื่อนที่เป็นทันตแพทย์ รู้สึกอยากได้มาก จึงอธิษฐานจิตกับพระมหาสิริราชธาตุของเพื่อน ขอให้มีเงินทำบุญสร้างองค์พระที่แกนกลางบูชาหลวงพ่อวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ


เมื่ออธิษฐานเสร็จ เธอก็นึกขึ้นได้ว่าตนเองจะรับปริญญาในวันที่ ๒๑ กันยายน คุณพ่อคุณแม่อาจให้รางวัลอะไรก็ได้ จึงโทรศัพท์ไปเรียนถามท่านที่จังหวัดตรัง ได้รับคำตอบว่าท่านจะให้รางวัลเป็นเงินจำนวนสองหมื่นบาท ทำให้คุณภรณีมีเงินทำบุญได้สมใจ และในวันรุ่งขึ้นวันที่ ๕ กันยายน เธอก็ได้รับพระของขวัญพระมหาสิริราชธาตุทันที และยังได้เห็นเหตุการณ์อัศจรรย์ตะวันแก้วอีกด้วย ในตอนนั้นน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาเอง บังเกิดความปีติแล้วภูมิใจกับตนเองว่าเดินทางมาถูกต้องแล้ว ได้พบเนื้อนาบุญที่แท้จริง และจะต้องทุ่มชีวิตอย่างจริงจังสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ให้สำเร็จให้ได้

หลังจากกลับไปยังที่ทำงาน เธอได้ขายสร้อยข้อมือและแหวนทองที่ตนรักมาก นำเงินที่ได้มาสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวภายนอกมหาธรรมกายเจดีย์ให้กับคุณพ่อและน้องชาย ส่วนองค์พระของคุณแม่นั้นคุณภรณีและน้องสาวได้ร่วมกันทำให้้แล้ว

พอสร้างองค์พระเสร็จ คุณภรณีได้สังเกตเห็นธาตุคำแก้วมณีในองค์พระมหาสิริราชธาตุของตนเองเพิ่มขึ้นเป็นแถบเห็นชัดเจนมาก เพิ่มขึ้นยาวไปจนสุดขอบกรอบรูปพญานาค ทุกคนที่ทำงานอยู่ด้วยเห็นกันหมด ต่างก็รู้สึกอัศจรรย์ เพราะวันแรกที่ได้รับองค์พระมา องค์พระมีธาตุคำแก้วมณีอยู่น้อยมากจนแทบมองไม่เห็น

คุณภรณีนำพระมหาสิริราชธาตุติดไว้กับตัวตลอดได้หมั่นสวดสรรเสริญทำสมาธิอธิษฐานจิตขอพรท่านให้หายจากโรคภัยทั้งหมดคุณภรณีมีโรคประจำตัวที่เป็นมานานตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยอยู่คณะเภสัชศาสตร์ คือโรคภูมิแพ้ ต้องรับประทานยาทุกวัน วันไหนที่ลืมรับประทานยา จะมีอาการน้ำมูกไหลและจาม แต่เมื่อวันที่ ๘ กันยายน เธอลืมรับประทานยา แต่ทว่า อาการแพ้ต่างๆ ที่เคยเป็นมาไม่มีอาการให้เห็นเลย นับตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่ต้องรับประทานยาอีก อาการหายไปอย่างปลิดทิ้งจนถึงทุกวันนี้

เหตุการณ์ที่อัศจรรย์เหลือเชื่ออีกเรื่องหนึ่งคือ คุณแม่ของคุณภรณีป่วยเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาว แพทย์ต้องผ่าตัดเอาม้ามทิ้ง เพราะม้ามโตมากมีน้ำหนักมากกว่าหนึ่งกิโลกรัม ซึ่งเป็นอันตรายมาก เซลล์เม็ดเลือดขาวที่เป็นเซลล์มะเร็งก็ยังคงอยู่ในกระแสเลือด คุณภรณีอธิษฐานจิตต่อพระมหาสิริราชธาต ุและสวดสรรเสริญท่านอยู่บ่อยๆ ขอพรท่านให้แม่หายป่วย จนครั้งสุดท้ายได้ให้แพทย์ตรวจเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๑ ก็ตรวจไม่พบเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวอีกเลย

สำหรับเรื่องการทำหน้าที่ผู้นำบุญ คุณภรณีก็ได้อธิษฐานขอพรพระมหาสิริราชธาตุให้ช่วยเธอทำหน้าที่ได้สำเร็จ โดยในตอนแรก เธอไม่มีความมั่นใจเลย เพราะตนเองเป็นคนพูดไม่เก่ง แต่ก็ไม่ทราบว่าทำไมเวลาพูดชวนคนให้มาทำบุญ เมื่อนึกถึงดวงแก้วและพระมหาสิริราชธาตุไว้ที่ศูนย์กลางกายเท่านั้น ก็สามารถพูดชวนได้ไม่มีติดขัดเป็นสิบๆ นาที ทำให้ชวนคนทำบุญได้ถึง ๑๐ องค์ มีสิทธิ์ได้รับพระคะแนนสุด สุดด้วย คุณภรณีพูดว่า

"ตั้งใจจะชวนคนมาทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวภายในมหาธรรมกายเจดีย์ให้ได้สัก ๒๐ องค์ เพื่อให้ได้พระคะแนนสุดฤทธิ์ และเพื่อให้มหาธรรมกายเจดีย์เสร็จไวๆ และความปรารถนาที่มากที่สุดอีกอย่างในตอนนี้คือ ต้องการจะเป็นประธานรองฉลองมหาธรรมกายเจดีย์ให้ได้ เพื่อที่ว่าในวันนั้นจะได้ยินคุณยายอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง พูดว่า "เราชนะแล้ว เราชนะแล้ว" อีกครั้งหนึ่ง" คุณภรณีเริ่มทำงานเพียงแค่ ๖ เดือน รู้จักผู้คนได้ไม่มากเท่าไร ยังมีใจสู้เต็มที่ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่อายุยังน้อย แสดงว่าจะต้องมีบุญ มีบารมีเก่าติดตัวมามาก อีกทั้งยังมีความรู้วิชาการทางโลกสูง มีศรัทธาที่ประกอบด้วยปัญญา จึงนับได้ว่าเป็นบัณฑิตอย่างแท้จริง
 
บทความนี้ ถูกใจคุณหรือไม่ + -

สิ่งดีๆมีไว้แบ่งปัน อะไรดีๆมีอีกเยอะ กด Like facebook กัลยาณมิตร

 ยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคล